CRYSTAL HOME X AXOR | BARBER OSGERBY

(ซ้ายไปขวา) Jay Osgerby และ Edward Barber | Photo courtesy of Barber Osgerby

art4d สนทนากับ Edward Barber จาก Barber Osgerby สตูดิโอออกแบบระดับโลกที่มีผลงานมากมายในระดับนานาชาติและผู้ออกแบบคอลเล็กชัน AXOR One 

TEXT: NATHATAI TANGCHADAKORN
PHOTO CREDIT AS NOTED

(For English, press here)

Barber Osgerby คือสตูดิโอออกแบบระดับโลกที่มีผลงานได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบคบเพลิงโอลิมปิกลอนดอนปี 2012 หรือ เก้าอี้ Tip Ton และ โต๊ะ Loop พวกเขายังมีผลงานชื่อดังมากมายที่สะท้อนเทคนิคอันเป็นเอกลักษณ์ในการใช้โทนสีสดใสและโดดเด่น Edward Barber และ Jay Osgerby มีความสามารถในการสร้างสรรค์การออกแบบที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งงานประติมากรรม เฟอร์นิเจอร์และการออกแบบภายใน

Barber Osgerby

Edward Barber | Photo courtesy of Barber Osgerby

art4d ได้มีโอกาสสนทนากับ Edward เนื่องในโอกาสที่ Crystal Home และ AXOR ร่วมกันจัดการเสวนาด้านการออกแบบ ‘The Power of Colors: Personalizing Luxury Design’ ที่ Soho House ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้นักออกแบบชาวไทยได้พบปะ สนทนาเกี่ยวกับสีสันในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และเพื่อแนะนำคอลเล็กชัน AXOR One ที่มี Barber Osgerby เป็นผู้ออกแบบ

art4d: ในฐานะนักออกแบบ คุณได้ใช้ปรัชญาการออกแบบส่วนตัวข้อไหนในการร่วมงานกับ AXOR บ้าง?

Edward Barber: เหตุผลตั้งต้นของการออกแบบในสตูดิโอเราคือการพยายามค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการทำสิ่งต่างๆ เพื่อสร้างนวัตกรรมครับ เราพยายามหลีกเลี่ยงการผลิตสิ่งที่มีอยู่แล้วในรูปลักษณ์ที่แตกต่างออกไป ผมคิดว่า AXOR One เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด เพราะเราเริ่มต้นโครงการนี้ด้วยนวัตกรรมเป็นหัวใจหลัก

เราอยากหาวิธีใหม่ในการควบคุมน้ำให้มีความแม่นยำมากขึ้นเพื่อประหยัดน้ำ เพราะในยุโรปและหลายส่วนของโลก น้ำเป็นทรัพยากรที่ขาดแคลน AXOR One จึงพยายามมอบประสบการณ์การอาบน้ำที่มีคุณภาพเท่าเดิมแต่ใช้น้ำให้น้อยลง ตอนที่เริ่มงานกับแผงควบคุม เราได้ทำงานใกล้ชิดกับวิศวกรของ AXOR เพื่อพัฒนาวิธีการเปิด / ปิดแบบใหม่ เพราะโดยทั่วไปหัวก๊อกน้ำแบบเก่าจะเป็นแบบหมุนหรือแบบผสม ซึ่งคุณจะสามารถปล่อยให้ก๊อกน้ำเปิดอยู่ได้ แต่กับ AXOR One นั้นเป็นไปไม่ได้เลยครับ ผู้ใช้งานจะสามารถเปิดน้ำแรงเต็มที่ แต่จะไม่สามารถเปิดทิ้งไว้เบาๆ ได้ เหมือนเรากำลังสอนพวกเขาว่าคุณต้องปิดมันให้สนิทเท่านั้นนะ จะได้ไม่สิ้นเปลือง

เมื่อมองย้อนกลับไปสิ่งที่เราทำมันชัดเจนมาก แต่ในเวลานั้นมันเป็นสิ่งใหม่มากครับ และนั่นคือส่วนที่น่าตื่นเต้นสำหรับเราในฐานะนักออกแบบที่ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ เริ่มต้นจากแผงควบคุมแล้วก้าวไปสู่ก๊อกน้ำซึ่งควบคุมระบบในวิธีเดียวกัน โดยในทั้งหมดที่ผมพูดมานี้อยู่ภายใต้โจทย์ที่ต้องการลดความซับซ้อนทางทัศนะของห้องน้ำลงให้เรียบง่าย—ทั้งในส่วนของแผงควบคุมและหัวฝักบัวด้วย

(ซาย้ ไปขวา) Jay Osgerby และ Edward Barber

Photo courtesy of AXOR

Crystal Home x AXOR | Edward BarberCrystal Home x AXOR | Edward BarberCrystal Home x AXOR | Edward Barber

art4d: Jay Osgerby เคยพูดว่าห้องน้ำเป็นสถานที่หนึ่งในบ้านที่ผู้คนจะได้รับ ‘ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ (spiritual experience)’ คุณช่วยขยายความในฐานะเพื่อนร่วมงานของเขาได้ไหม?

EB: ใช่ ผมไม่ได้เป็นคนพูดประโยคนี้ครับ (หัวเราะ) มันเลยยากที่จะให้ผมขยายความ ส่วนตัวผมเองคงไม่ใช้คำว่า ‘จิตวิญญาณ’ หรอก แต่ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว อย่างห้องน้ำเนี่ย มันเป็นช่วงเวลาสำหรับอยู่กับตัวเอง เหมือนได้ผ่อนคลายหรือเติมพลังในตอนเช้า รวมถึงอาจเป็นพื้นที่สำหรับเปลี่ยนอารมณ์ด้วย—จากตอนที่คุณเข้ามาและตอนที่คุณออกไป ห้องที่เกิดสิ่งเหล่านี้ต้องได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ความรู้สึกและวัสดุที่เลือกใช้เลยมีความสำคัญอย่างมากในแง่นั้น

ในอดีตที่ผ่านมาห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่ถูกมองข้าม มันเป็นเพียงพื้นที่ที่มีฟังก์ชันการใช้งานและถูกจำกัดทั้งในแง่ของขนาดและงบประมาณ ผู้คนเพิ่งตระหนักในช่วง 20-30 ปีมานี้เองว่ามันเป็นส่วนสำคัญของบ้านและชีวิตประจำวัน ผมยืนยันได้ว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ของ AXOR จริงๆ แล้วมีส่วนช่วยในการยกระดับกิจวัตรประจำวันของคุณนะ ผมใช้มันในบ้านมานาน 4 ปีแล้ว และผมก็เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสุขครับ (หัวเราะ)

Crystal Home x AXOR | Edward Barber

Photo: Sukit Sudnan

art4d: ในฐานะส่วนหนึ่งของ Barber Osgerby ผู้เชี่ยวชาญการใช้พลังของสี คุณคิดว่าการใช้วัสดุที่มีสีสันสามารถสอดคล้องกับแนวคิดความยั่งยืนได้หรือไม่? ผู้คนจะยังรู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่สดใสได้อย่างไร?

EB: นั่นเป็นคำถามที่น่าสนใจนะครับ ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นแบบนั้น เมื่อผมพูดถึงความยั่งยืนใน AXOR One จริงๆ แล้วมันไม่ได้เกี่ยวกับวัสดุมากนัก แต่มุ่งเน้นไปที่การประหยัดน้ำมากกว่า

ยกตัวอย่างเช่นในก๊อกน้ำแบบดั้งเดิม ทันทีที่คุณเปิดก๊อกหม้อต้มน้ำจะเริ่มทำความร้อน แต่กว่าน้ำร้อนจะไหลมาถึงก๊อกคุณก็อาจจะล้างมือเสร็จแล้ว เพราะน้ำต้องเดินทางผ่านระยะทางช่วงหนึ่ง แต่ด้วย AXOR One เรามีระบบที่เรียกว่า CoolStart เพราะส่วนใหญ่แล้วน้ำร้อนมักไม่จำเป็นกับกิจกรรมเล็กๆ อย่างการล้างมือ และคุณจะเปิดน้ำร้อนได้ก็ต่อต้องการจริงๆ เท่านั้น โดยการหมุนเมื่อจับก๊อกเพื่อปรับอุณหภูมิน้ำ ดังนั้นจากมุมมองนี้ มันจึงยั่งยืน แต่ก็อย่างที่บอกครับ ผมกำลังพูดถึงการใช้น้ำและพลังงานที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของตัวผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอก

Photo courtesy of Crystal Home

Crystal Home x AXOR | Edward Barber

Photo courtesy of Crystal Home

Crystal Home x AXOR | Edward Barber

Photo courtesy of Crystal Home

art4d: ที่คุณอยากจะบอกคือ มันไม่จำเป็นต้อง ‘ดูยั่งยืน’ ในเมื่อมันยั่งยืนจริงๆ อย่างนั้นใช่ไหม?

EB: ใช่ครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะละเลยการคิดถึงเรื่องของวัสดุและสีนะ ส่วนประกอบของ AXOR One ทั้งหมดสามารถรีไซเคิลได้ เราทราบดีว่าสีสันเป็นเทรนด์อย่างหนึ่งและไม่ได้คงอยู่ตลอดไป ดังนั้นเราจึงระมัดระวังอย่างมากตอนที่เลือกสีให้ AXOR One

ผู้คนมักกังวลในการเลือกสี เพราะสีบางสีอาจไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้นสีที่เราเลือกจึงเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า ‘มีสีสัน’ แต่นุ่มนวลขึ้นและไม่ฉูดฉาดมาก ซึ่งหมายความว่ามันจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นในแง่ของการรับรู้ของผู้คน

Crystal Home x AXOR | Edward BarberCrystal Home x AXOR | Edward Barber

art4d: ผลงานส่วนใหญ่ของคุณมีพื้นฐานการคิดมาจากนวัตกรรม วัสดุ และสีสัน แล้วคุณก็มักจะเพิ่ม ‘เครื่องปรุง’ บางอย่างลงไปตามหัวข้อที่คุณโปรดปรานในเวลานั้น ตอนนี้ ‘เครื่องปรุง’ โปรดของคุณคืออะไร?

EB: นั่นเป็นคำถามที่ดีมาก สำหรับเรา ‘เครื่องปรุง’ ไม่ใช่สิ่งที่เหมือนกับเทรนด์ วิธีที่เราทำงานออกแบบคือการให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นผ่านกระบวนการ เราเริ่มต้นด้วยการวิจัยอย่างลึกซึ้ง พยายามค้นหาว่าที่ไหนมีนวัตกรรมที่เป็นไปได้ และ ‘เครื่องปรุง’ ที่คุณพูดถึงนั้นก็มาจากกระบวนการนี้เอง

เราใช้สีเยอะมากในงานของเรา นั่นเป็นหนึ่งสิ่งที่ช่วยระบุตัวตนของสตูดิโอเรา บางทีอาจเพราะไม่ค่อยมีสตูดิโอไหนที่ใช้สีจัดจ้านเท่าไหร่นัก ในขณะที่เรามักจะมีปฏิสัมพันธ์กับสีสันอย่างมาก แต่สำหรับ ‘เครื่องปรุง’ นี้เราไม่ได้มีแนวคิดที่แน่นอนสำหรับสองปีข้างหน้าหรือพยายามหาสิ่งใหม่สำหรับช่วงเวลาถัดไป มันยากที่จะอธิบายว่าคุณมาถึงจุดนั้นได้อย่างไร แต่ถึงที่สุด มันก็เป็นกระบวนการหนึ่ง และสุดท้ายบางสิ่งบางอย่างก็จะปรากฏขึ้นมาเอง นี่ผมไม่ได้พยายามหลีกเลี่ยงคำถามนะครับ (หัวเราะ)

Crystal Home x AXOR | Edward Barber

Photo courtesy of Crystal Home

art4d: คุณแค่ออกแบบ แล้วมันก็เกิดขึ้นเองใช่ไหม?

EB: ใช่ครับ เวลาคุณออกแบบของสักชิ้น มันจำเป็นต้องมีลักษณะพิเศษหรือบุคลิกบางอย่าง ถ้ามันเป็นเพียงสิ่งของเฉยๆ อย่างแรกเลย มันอาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์นัก อย่างที่สอง ผู้คนจะไม่รู้สึกผูกพันกับมัน ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟนี้หรือแก้วใบนี้ พวกเขาก็ต้องรู้สึกว่า “ฉันชอบเจ้านี่จริงๆ” โดยที่อาจไม่รู้เหตุผลแน่ชัดว่าทำไม แต่พวกเขาจะถูกดึงดูดและต้องการให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ซึ่งถ้าคุณไม่มี ‘เครื่องปรุง’ ที่ว่า มันก็เป็นได้แค่ของธรรมดาชิ้นหนึ่ง

ที่จริงเมื่อเราออกแบบ เราก็ต้องการให้ผู้คนรักสิ่งเหล่านั้น ใช้มันในชีวิตประจำวันและเพลิดเพลินกับการใช้มัน เราไม่ต้องการให้ผู้คนทิ้งสิ่งของหลังจากผ่านไปไม่กี่ปี ผมเองก็ไม่อยากให้คนซื้ออะไรเพียงเพื่อใช้ชั่วคราว แบบว่า “ไม่เป็นไร ซื้อๆ ไปก่อน พอเราย้ายออกหรือต้องไปทำอย่างอื่น เราค่อยทิ้งมันแล้วหาของชิ้นใหม่”

อย่างการใช้ชีวิตของผมเอง ผมจะซื้อสิ่งของแล้วเก็บรักษามันไว้ พูดตามตรงคือผมเก็บของทุกชิ้นที่ผมเคยซื้อมาเลยครับ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ หรือของที่ผมซื้อมาระหว่างการเดินทางทั่วโลก เพราะผมตัดสินใจอย่างรอบคอบแล้วว่าผมรักของชิ้นนั้น ผมรู้ว่ามันอาจฟังดูโรแมนติกไปหน่อย แต่ผมชอบที่จะถูกล้อมรอบด้วยสิ่งของที่สวยงามและมีประโยชน์ใช้สอย ดังนั้นนั่นจึงเป็นวิธีที่ผมใช้ออกแบบด้วยเหมือนกัน ผมอยากให้สิ่งที่ผมออกแบบถูกคนอื่นรัก

Crystal Home x AXOR | Edward Barber

Photo courtesy of AXOR

Crystal Home x AXOR | Edward Barber

Photo courtesy of AXOR

art4d: คุณมีไอเดียอะไรบ้างเมื่อมาถึงประเทศไทย? และอะไรคือสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดในแง่ของการออกแบบ?

EB: ผมเคยมาประเทศไทยหลายครั้งแล้วครับ สมัยก่อนผมมาบ่อยมากในช่วงทศวรรษที่ 80 และ 90 มาท่องเที่ยวแบบ backpack และพักผ่อน ผมได้ไปภาคเหนือ ภาคใต้ เกาะต่างๆ หลายแห่ง และก็พบว่ามันเป็นสถานที่ที่น่าตื่นเต้นและสวยงามมาก—ความใส่ใจในรายละเอียดของทุกอย่าง แม้กระทั่งกาแฟที่ผมเพิ่งได้ดื่มเมื่อไม่นานมานี้ ครั้งแรกที่ผมมาประเทศไทยในปี 1986 ผมรู้สึกอัศจรรย์ใจกับความประณีตในรายละเอียดและวัฒนธรรมที่นี่มาก

art4d: สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการทำงานของคุณบ้างไหม?

EB: ผมมั่นใจมากว่าทุกประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมล้วนถูกสะท้อนผ่านกระบวนการออกแบบของผมในทางใดทางหนึ่ง บางครั้งคุณอาจไม่รู้ตัว และบางครั้งคุณก็รู้ตัว ระหว่างหลายทริปทั่วประเทศไทย แค่สถาปัตยกรรมเพียงอย่างเดียวนะ ประสบการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ที่คุณมีในฐานะคนสร้างสรรค์ จะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลงานสุดท้ายเสมอ ไม่ว่ากลิ่น แสง และทุกสิ่งอื่นๆ จะซึมเข้าสู่สิ่งที่คุณสร้างขึ้นในท้ายที่สุด

ผมเดินทางมาที่นี่บ่อยในช่วงวัยยี่สิบและสามสิบต้นๆ และคิดว่ามันเป็นช่วงชีวิตที่ให้ทั้งข้อมูลและแรงบันดาลใจอย่างมากตอนที่ผมเพิ่งเริ่มต้นการเป็นนักออกแบบ อย่างเมื่อวานนี้เราก็ได้แวะไปสถานที่ต่างๆ แค่ได้เห็นพระพุทธรูปปางสมาธิ เดินชมอาคารที่นั่น นึกออกไหมครับ รายละเอียดในงานแกะสลักไม้และจิตรกรรม มันช่างเต็มเปี่ยมด้วยวัฒนธรรมและงดงาม

Crystal Home x AXOR | Edward Barber

(ซ้ายไปขวา) Olivier Sogno, Vice President of AXOR; Edward Barber, Co-founder of Barber Osgerby; สุทธิภา สวัสดิ์-ชูโต, ผู้บริหาร Crystal Home และ นภาภรณ์ ทองพูล, ผู้บริหาร Crystal Home | Photo: Sukit Sudnan

barberosgerby.com
axor-design.com
crystalhomebkk.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *