FIN & SHADE BY SHINKOLITE

เปิดมิติใหม่ของการออกแบบพื้นที่ด้วย Fin & Shade ระแนงอะคริลิกโปร่งแสงจาก Shinkolite วัสดุที่ผสานแสง ลม และความเป็นส่วนตัวเพื่อทุกงานออกแบบ

TEXT: NATHATAI TANGCHADAKORN
PHOTO: KETSIREE WONGWAN

(For English, press here)

‘ระแนง’ เป็นองค์ประกอบที่มักเข้ามามีบทบาทเมื่อผู้อยู่อาศัยหรือนักออกแบบต้องการหลีกเลี่ยงความทึบตันของอาคาร ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอกตลอดจนบรรยากาศเวลาใช้งาน โดยที่ความโปร่งนั้นยังต้องสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวให้กิจกรรมภายใน อีกข้อดีของการใช้ระแนงคือแสงและเงาที่ตกกระทบลงในสเปซจะช่วยเพิ่มแง่มุมใหม่ๆ ให้กับสถาปัตยกรรม ทั้งยังเพิ่มการระบายอากาศให้ด้วย

Fin & Shade เป็นระแนงอะคริลิกจาก Shinkolite ซึ่งปัจจุบันเป็นระแนงโปร่งแสงเพียงรุ่นเดียวในไทย Fin & Shade มีสี Brownish Green ที่มีเอกลักษณ์ และกำลังจะมีสีขาวฝ้า Glass Frosted เปิดตัวตามมาสมทบในอนาคต ซึ่งเพิ่มความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น แต่ยังคงความโปร่งแสงที่เป็นเอกลักษณ์ของระแนง Shinkolite ไว้เช่นเดิม

นอกจากเฉดสีของอะคริลิกจะให้แสงที่สวยงามแล้ว ยังสามารถลดทอนความร้อนที่เข้าสู่ภายในอาคาร คุณสมบัติโปร่งแสงของมันทำให้แผงระแนงไม่ทึบจนบดบังแสงสว่างตามธรรมชาติโดยสิ้งเชิง สีของตัววัสดุยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวเมื่อมองเข้ามาจากภายนอก แต่ไม่แสดงตัวตนที่ฉูดฉาดจนเกินไป ตอบโจทย์ façade สำหรับอาคารหลายรูปแบบ

ด้วยความบางและลักษณะของอะคริลิกที่มีพื้นผิวเรียบเงา ร่วมกับองศาการติดตั้งที่เลือกได้ระหว่าง 45 และ 90 องศา ทำให้แสงสามารถถูกสะท้อน กรอง ลอดผ่าน Fin & Shade สร้างเอฟเฟกต์ที่ต่างจากระแนงที่ทำจากวัสดุทึบแสงอื่นๆ ที่เห็นขอบเขตและทิศทางของแสงเงาอย่างชัดเจน ระแนงกรองแสงรุ่นนี้มีหน้าตัดสามขนาด คือ 2” 3” และ 4” และมีความหนา 10 มิลลิเมตร สามารถใช้ติดตั้งเป็นผนังหรือหลังคาได้ตามความต้องการ

เมื่อก่อนระแนงเป็นชื่อที่ใช้เรียกองค์ประกอบของหลังคาในเรือนไทย ทว่าตามความเข้าใจร่วมในปัจจุบันนี้ ระแนงมีวิธีการใช้งานมากมาย เพียงแค่คงลักษณะเดิมที่เป็นวัสดุทรงแท่งยาวซึ่งถูกเรียงเป็นแผงไว้ การนำมาใช้เป็น façade หรือเปลือกชั้นนอกถัดจากผนังคอนกรีต คอยกรองความร้อนให้อาคารก็เป็นหนึ่งวิธีที่พบเห็นได้ทั่วไป อีกด้านหนึ่งการใช้เป็น boundary ให้พื้นที่ semi-outdoor ที่ต้องการความโปร่งโล่งและสัมผัสของพื้นที่ภายนอกก็เป็นทางเลือกที่ลงตัว รวมถึงระแนงแผงบังตา ตลอดจนระแนงใต้หลังคาก็ทำได้

สำหรับบ้านหลังนี้นั้นเป็นหนึ่งโปรเจกต์ที่เจ้าของบ้านเลือกใช้งาน Fin & Shade ในพื้นที่ครัว ส่วนรับประทานอาหาร semi-outdoor ซึ่งต้องการแสง ลมโกรก และความเชื่อมโยงกับพื้นที่สีเขียวของบ้าน การติดตั้ง Fin & Shade ต่อเนื่องตั้งแต่ผนังถึงหลังคามอบรูปลักษณ์ที่สอดคล้องกัน ส่วนต่อเติมไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดด้วยรูปแบบเดิมๆ ที่อาจเพิ่มความรู้สึกหนักให้ภาพรวมของอาคาร แต่เป็นพื้นที่ใช้สอยที่ใช้งานได้แม้ในตอนกลางวันแดดแรงกล้า และมีความทันสมัยไปพร้อมกัน

เราจะเห็นว่าการใช้ระแนงกรองแสงใต้หลังคาถูกคิดร่วมกับการใช้สอยด้านล่าง ทั้งโต๊ะทานข้าวที่เจ้าของต้องการรักษาบรรยากาศของพื้นที่กลางแจ้ง ตกดึกก็เป็นพื้นที่นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ลมพัดผ่าน ด้านข้างมีการแบ่งส่วนเล็กๆ ไว้ปลูกต้นไม้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะขาดแสงธรรมชาติ หากหันกลับมามองอีกองค์ประกอบอย่างผนัง บางครั้งเราก็เพียงต้องการกำแพงเพื่อกำหนดขอบเขตของพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน แต่ไม่ได้ต้องการ ‘ห้อง’ ระแนงอะคริลิกที่ให้ความรู้สึกโปร่งเบา ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมจะแก้ไขปัญหาข้อนี้

พบกับ Shinkolite ได้ที่บูธ S311 (โซนเดียวกับ SCG) งานสถาปนิก’68 วันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 เวลา 10:00 – 20:00 น. ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

facebook.com/Shinkoliteacrylic

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *