ART4D SPEAKS WITH JACKKRIT ANANTAKUL (HELLOIAMJK) AND PANYAWAT PHITAKSAWAN (TOS PANYAWAT), TWO DESIGNERS WHO HAVE EMBEDDED THAI IDENTITY IN THEIR DELIGHTFUL WORKS IN THIS LATEST ADIDAS BRAND CENTER OF BANGKOK
TEXT: WEE VIRAPORN
PHOTO: KETSIREE WONGWAN EXCEPT AS NOTED
(For English, press here)
Photo courtesy of adidas Thailand
เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา adidas ได้เปิด Brand Center แห่งที่ 3 ในประเทศไทย ที่สยามสแควร์วัน (SQ1) โดยในพื้นที่ทั้ง 3 ชั้นของศูนย์นี้ มีฟีเจอร์เป็นผลงานของสองนักออกแบบไทยที่เรารู้จักกันดี คือ จักรกฤษณ์ อนันตกุล (HelloiamJK) และ ปัญญวัฒน์ พิทักษวรรณ (Tos Panyawat) ที่นำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านการเลือกใช้วัสดุและเทคนิคที่สะท้อนความเป็นแบรนด์ adidas ออกมาได้อย่างลงตัวและน่าสนใจอย่างยิ่ง เราจึงขอเก็บเรื่องราวจากการพูดคุยกับทั้งสองคนที่สนุกไม่แพ้ตัวผลงานมาเล่าให้ทุกท่านฟัง
ปัญญวัฒน์ พิทักษวรรณ (Tos Panyawat) และ ผลงาน เปล่งประกาย (Shine) | Photo courtesy of adidas Thailand
ขั้นเตรียมการ
ดีไซเนอร์ทั้งคู่เคยมีผลงานที่ทำให้แบรนด์ระดับนานาชาติมาแล้ว หลายคนรู้จักผลงานของจักรกฤษณ์ที่ทำให้ monocle ส่วนปัญญวัฒน์ ก็เคยมีผลงานที่ทำให้ Jim Thompson เมื่อทาง adidas ประเทศไทยส่ง shortlist ไป ทางบริษัทแม่ก็ได้เลือกสองคนนี้กลับมา และแม้จะมีกรอบเวลาที่จำกัด ไม่สอดคล้องกับสโคปงานอันใหญ่โต แต่ด้วยสโลแกนของแบรนด์ที่ว่า “Impossible is nothing” จึงตัดสินใจว่าจะลุยกันให้สำเร็จ! โดยจักรกฤษณ์ดูส่วน Originals บนชั้น 2 ส่วนปัญญวัฒน์รับผิดชอบส่วน sport ของทั้งผู้หญิงและผู้ชายบนชั้น LG – 1
ผลงาน กึกก้อง (Roar)
ระหว่างการทำงาน
ความละเอียดและเป๊ะของกระบวนการทำงานกับแบรนด์ระดับโลก ทำให้ต้องทำการบ้านกันหนักมาก ความเป็นไทยที่เป็นเหตุผลหลักของการเลือกใช้งานโลคอลดีไซเนอร์ต้องถูกนำเสนออย่างมีชั้นเชิง โดยจักรกฤษณ์นำลายผ้าทอของไทยมาผสานเข้ากับภาพสินค้า Originals ในผลงานชุด “สืบสาน (Woven Life)” และนำรองเท้ารุ่นยอดนิยมอย่าง “Superstar” มารวมกับรูปทรงห้าแฉกคล้ายดาวของว่าวจุฬาเกิดเป็นผลงานชื่อเดียวกัน ส่วนปัญญวัฒน์เลือกเล่าเรื่องความเชื่อของคนไทยผ่านการใช้สัตว์เป็นสัญลักษณ์ โดยใช้เสือในงาน “กึกก้อง (Roar)” ที่โซนสินค้าชาย และไก่ในงาน “เปล่งประกาย (Shine)” ในโซนสินค้าหญิง
จักรกฤษณ์ อนันตกุล (HelloiamJK) และ ผลงาน Superstar | Photo courtesy of adidas Thailand
ส่วนอัตลักษณ์ของแบรนด์ก็ต้องถูกนำเสนอออกมาให้ได้ในทุกช่องทาง นั่นทำให้การเลือกสีต้องมีที่มา โยงกลับไปยังสีที่ผลิตภัณฑ์เคยใช้ได้ทุกเฉดโดยที่ยังได้กลิ่นอายตะวันออกอยู่ ส่วนวัสดุก็ต้องเลือกโดยคำนึงถึงความยั่งยืน (sustainability) ซึ่งเป็นสิ่งที่ adidas (และทุกแบรนด์ผลิตภัณฑ์กีฬาในยุคนี้) กำลังให้ความสำคัญ แต่ท้ายที่สุดการผลิตงานโดยทักษะเชิงช่างฝีมือชั้นสูง (craftsmanship) ก็เป็นอีกหนึ่งความเป็นไทยที่ละทิ้งไม่ได้ ทำให้การผลิตที่มีขั้นตอนซับซ้อนอยู่แล้ว ยังต้องพิถีพิถันกันถึงที่สุดไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสาน การปัก การติดทองคำเปลวและกระจก และเมื่อทางแบรนด์เปิดโอกาสให้ใช้งบประมาณกับการผลิต รวมถึงการทดลองกระบวนการอย่างเต็มที่เท่าที่เวลาอำนวย ผลงานก็สำเร็จได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ
ผลงานชุด สืบสาน (Woven Life)
บทสรุป
ทั้งจักรกฤษณ์และปัญญวัฒน์มองว่าการทำงานร่วมกันครั้งนี้ได้เรียนรู้และสนับสนุนกันตลอดทางจนสามารถเอาชนะข้อจำกัดที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จจริงตามสโลแกน ระหว่างการพูดคุย พวกเขาดูภูมิใจที่ได้เปิดให้เราดูหลากหลายแบบร่างที่ถูกตีตก รวมถึงไอเดียอีกมากมายที่เอาไปเปิดร้านในสเกลเดียวกันอีกสัก 3 เมืองในไทยก็ยังไหว และแววตาของทั้งสองบอกเราว่าเขาพร้อมที่จะรับความท้าทายใหม่ด้วยความมั่นใจและพลังล้นเหลือแน่นอน
น่าเสียดายที่หลังจาก Brand Center แห่งนี้เปิดได้ไม่นาน ก็เกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้หลายคนอาจจะยังไม่มีโอกาสได้ไปชมผลงานชุดนี้ แต่เราขอแนะนำว่า ถ้าทุกท่านมีโอกาสก็อยากให้ใช้จังหวะที่สยามแทบจะร้างนี้ เข้าไปชมผลงานแต่ละชิ้นอย่างละเลียดในระยะใกล้ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงอยากให้คุณได้ตามไปดูของจริง
adidas.co.th
helloiamjk.com
facebook.com/Portfolio-Tos-2124599954521963