พูดคุยกับศุภชัย แกล้วทนงค์ ประธานกลุ่ม Creative Nakhon ถึงภาพรวมของงาน Creative Nakhon ครั้งที่ 4 ที่พึ่งผ่านพ้นไปในธีม RE – SET “คิดใหม่ ในย่านเก่า” ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
TEXT: PRATARN TEERATADA
PHOTO: NUNTANORA THAMMACHAT
(For English, press here)
ศุภชัย แกล้วทนงค์ นักออกแบบผู้ให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาท้องถิ่นในนาม บริษัท นักคิด ดีไซน์ สตูดิโอ จำกัด ปัจจุบันยังมีสถานะเป็นแกนนำกลุ่ม Creative Nakhon ผู้มีส่วนผลักดันให้เกิดงาน Creative Nakhon ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ซึ่งจัดต่อเนื่องมาถึงครั้งที่ 4 ภายใต้ธีม “RE – SET” คิดใหม่ในย่านเก่า ในระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา art4d ได้สนทนากับศุภชัย เกี่ยวกับเทศกาลสร้างสรรค์ ครีเอทีฟนคร จังหวัดนครศรีธรรมราช
art4d: อยากให้เล่าถึงภาพรวมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของนครศรีธรรมราชสักนิด
Supachai Klaewtanong: ภาพรวมของการทำเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในฐานะกลุ่มครีเอทีฟนคร ที่เราพยายามทำมา 3 ปีในการรวมเหล่าคนทำงานสร้างสรรค์ในนครศรีธรรมราช มารวมตัวกัน พบปะแลกเปลี่ยนแสดงผลงานสร้างสรรค์ ภายใต้งาน Creative Nakhon จนเริ่มเป็นที่รู้จัก จนมาสู่ปีที่ 4 ของการทำงาน ที่ครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกับภาคท้องถิ่นและภาคส่วนกลางจาก CEA
Art Exhibition: สมาคมพาณิชย์จีน
เมื่อปี 2563 CEA มีนโยบายในการทำย่านสร้างสรรค์ Creative District เราและ CEA เห็นตรงกันว่าเมืองเรามีศักยภาพจึงสมัครเข้าร่วมและได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 15 ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์นำร่อง ตามเกณฑ์ของ CEA และทาง CEA ได้ส่งทีมวิจัยเข้ามาทำงาน จากการศึกษาพบว่าย่านท่าวัง-ท่ามอญ เป็นย่านที่มีต้นทุนวัฒนธรรมสูง มีเรื่องราว มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นย่านการค้าเก่าแก่ มีสินทรัพย์ในพื้นที่ เช่นสถาปัตยกรรม อาหาร งานหัตถกรรม งานประเพณีวัฒนธรรม แม้ว่าย่านจะมีสินทรัพย์ต้นทุนสูงแต่ขาดกลุ่มคนสร้างสรรค์ภายในย่าน ร้านค้าดั้งเดิมปิด ขาย ให้เช่า และกำลังสูญหายเกิดห้องว่างเพิ่มขึ้น จึงเกิดแนวคิดในการนำร่องทำย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยรวมเหล่านักสร้างสรรค์ ผู้มีส่วนได้เสีย ประชาชนในพื้นที่ พลิกฟื้นต่อยอดพัฒนานำร่องเป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายใต้การจัดงาน เทศกาลงานสร้างสรรค์ ครีเอทีฟนคร ครั้งที่ 4
LOCAL CREATIVE Exhibition: ตึกเก่าจีนซุ่นหงวน
art4d: บทบาทของคุณในงานนี้คืออะไร
SK: ผมเป็นประธานกลุ่มครีเอทีฟนคร ก็เป็นประธานในการจัดงานเทศกาลงานสร้างสรรค์ครีเอทีฟนคร ครั้งที่ 4 ทำหน้าที่เป็นหัวหอกหลัก ทำงานร่วมกับกรรมการกลุ่มครีเอทีฟนคร งานที่ทำก็มีการวางแผนการจัดงานหลักของงาน ควบคุมธีมงาน Key visual และกิจกรรมต่างๆ ในงานเทศกาล รวมทั้งนำเสนอพร้อมหาความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ชุมชน ประชาชนในพื้นที่ คอยควบคุมงานโปรดักชั่นต่างๆ ให้เกิดขึ้นในงานเทศกาล แล้วก็มีการจัดการเรื่องมาตรการโควิดด้วย
Supachai Klaewtanong
Supachai Klaewtanong (Right)
art4d: เนื้อหาที่ชอบที่สุดในการจัดงานครั้งนี้
SK: ผมชอบเนื้อหา RE-MEMORY of Thawang Thamon เป็นการรื้อฟื้นความทรงจำของย่านท่ามอญ ผ่าน 5 นิทรรศการ คือ ข้าวของเครื่องใช้ อาหาร ผู้เล่าเรื่องจากความทรงจำ สถาปัตยกรรม และภาพถ่ายเก่า ที่ชอบเพราะได้ทำเรื่องราวความทรงจำในอดีตของย่าน ซึ่งทำให้ได้รู้เรื่องราวมากขึ้นในอดีต เห็นว่าย่านมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย จนสามารถขยายความในการทำเรื่องอื่นๆ อีกมาก และในช่วงการแสดงนิทรรศการ ได้ใจของผู้ที่มาชมคือ อาม่า ลุง ป้าในย่าน มาดูภาพถ่ายเก่า เรื่องราวในอดีต เขาอินกับเรื่องราวว่าเคยไปที่นี่ เคยอยู่ที่นี่
RE-MEMORY Exhibition: ร้านยงคังคาเฟ่
RE-MEMORY Exhibition: บวรบาซาร์ l 26 ผู้เล่าเรื่อง
อีกเนื้อหาที่เป็นส่วนต่อยอด คือ REVIVAL เป็นการนำเอาสินทรัพย์และเรื่องราวในย่านมาสู่การสร้างสรรค์งานเป็น Graphic Design, Packaging Design และ Street Product ที่ทำให้คนเข้าใจง่ายว่าเรื่องราวต่างๆ รอบตัวสามารถแปรเป็นงานสินค้าและสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้หมด สวยด้วย เก๋ด้วย มีเรื่องราวด้วย และคนดูเข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย ต่อยอดเอาไปใช้ได้ง่ายและทำได้จริง
REVIVAL Exhibition: บ้านเบญจภัณฑ์
REVIVAL Exhibition: บ้านเบญจภัณฑ์
art4d: บทเรียนที่ได้จากการจัดงานนี้คืออะไรบ้าง
SK: บทเรียนครั้งนี้มีหลายส่วนด้วยกันแม้จะจัดงานเป็นครั้งที่ 4 แล้ว แต่ถือเป็นงานครั้งแรกของการทำย่านสร้างสรรค์จริงๆ จังๆ โดยภาพรวมเราพยายามกันเต็มที่ เรียกได้ว่าทำกันเกินงบประมาณที่ได้มา แต่ในงานสเกลย่านครั้งแรก ช่วงแรกๆ ก็ตะกุกตะกักหน่อย ตั้งแต่การทำให้ทุกคนเห็นภาพตรงกัน แล้วรูปแบบงานก็ถือว่าใหม่สำหรับนครศรีธรรมราช ตอนแรกๆ ผู้คนก็ยังมีคำถามว่างานนี้คืออะไรกันแน่ หลังๆ พอเริ่มมีการโปรโมท มีการแชร์ออกไปก็มีคนสนใจมากขึ้น ตรงนี้คิดว่าต้องทำการจัดงานและสื่อสารให้ต่อเนื่องต่อไป
Painting Exhibtion: Norm Space
เรื่องการจัดการก็มีอุปสรรคพอสมควร เรื่องสถานที่บางที่ก็หลังคารั่ว สายไฟช๊อต บางที่ไม่มีไฟ ก็ต้องบริหารกันไปทั้ง 18 พื้นที่ รวมถึงเรื่องคนที่ประจำแต่ละพื้นที่ที่คอยดูแล อธิบายงานด้วย ก็เรียนรู้และปรับแผนกันทุกวัน และที่เลี่ยงไม่ได้ก็มีเรื่องโควิดที่ต้องปรับเลื่อนกันตามสถานการณ์ แต่โดยรวมก็ถือว่าได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากหลายๆ ภาคส่วน