คุยกับสองผู้ก่อตั้งของ KASCHKASCH สตูดิโอออกแบบจากเยอรมนี ซึ่งสนใจทั้งความประณีตจากมือมนุษย์และความน่าทึ่งของเทคโนโลยีที่ทำให้ดีไซน์กลายเป็นจริง
TEXT: NATHATAI TANGCHADAKORN
PHOTO COURTESY OF VILLEROY & BOCH EXCEPT AS NOTED
(For English, press here)
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เราไม่ค่อยได้มีโอกาสสัมภาษณ์นักออกแบบจากเยอรมนีบ่อยนัก โดยเฉพาะสตูดิโอออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ทั้ง product design, lighting design ไปจนถึงการเป็น art director อย่าง KASCHKASCH ที่ก่อตั้งขึ้นโดย Florian Kallus และ Sebastian Schneider ซึ่งทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2011 ถึงปัจจุบัน
KASCHKASCH สนใจงานที่ต้องใช้ความประณีตจากมือมนุษย์ รวมถึงงานที่ต้องอาศัยความน่าทึ่งของเทคโนโลยีในการทำให้เป็นจริง ความสมดุลจึงเป็นสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเสมอ และเนื่องในโอกาสที่ได้พบปะกันในงานเสวนา ‘In touch with nature: Crafting Sustainable Design’ โดย Crystal Home x Villeroy & Boch ร่วมกับ art4d เราเลยชวน KASCHKASCH คุยถึงแนวคิดของการทำ product design ให้แบรนด์เก่าแก่อย่าง Villeroy & Boch ในยุคที่ตลาดเรียกร้องทั้งสองสิ่ง และเรื่องของ ‘ความสมดุล’ ว่าสำหรับทั้งคู่แล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องนำมาชั่งน้ำหนักในงานออกแบบนั้นมีอะไรบ้าง
art4d: ปรัชญาของสตูดิโอที่คุณคิดว่าแตกต่างจากสตูดิโออื่นๆ คืออะไร และทำไม?
Florian Kallus: หนึ่งในสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นจุดเด่นคือเราทำงานกันเป็นคู่หู ไม่ใช่เรื่องที่พบได้บ่อย สตูดิโอของเราไม่ได้มีผู้ก่อตั้งหรือซีอีโอคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นสิ่งนี้จึงแตกต่างอย่างมาก วิธีที่เราโต้ตอบหรือสื่อสารภายในสตูดิโอก็แตกต่างเช่นกัน เราเริ่มต้นมาด้วยกันและพบว่าการพูดคุยและการทำความเข้าใจมุมมองของกันและกันช่วยได้มากในกระบวนการทำงาน
Sebastian Schneider: มองจากบริษัทที่เราทำงานให้ เรารู้ว่าเราทำงานแตกต่างจากสตูดิโอออกแบบอื่นๆ ค่อนข้างมาก การพูดคุยระหว่างเราสองคนเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ แต่เราก็ทำแบบเดียวกันนี้กับลูกค้าด้วยเหมือนกัน เพราะบางครั้งพวกเขาก็รู้เรื่องต่างๆ ดีกว่าเรา
ผมคิดว่าการที่เราทำผลิตภัณฑ์ออกมาประสบความสำเร็จได้ดีมากแบบนี้ เพราะเราพยายามเข้าใจทุกขั้นตอนของกระบวนการ รวมถึงการพยายามเข้าใจบริษัทที่เราทำงานด้วย ความแข็งแกร่งของบริษัทคืออะไร ลูกค้าของพวกเขาคือใคร และพวกเขาคาดหวังอะไรจากลูกค้า รวมถึงการหาช่องว่างการพัฒนาในคอลเล็กชัน เราทำงานอย่างมีกลยุทธ์และผ่านกระบวนการวิเคราะห์เพื่อสร้างสรรค์อะไรที่มากไปกว่าแค่ตัวผลิตภัณฑ์
art4d: ช่วยแชร์กระบวนการทำงานที่ผสานเทคนิคการทำงานด้วยมือแบบดั้งเดิมกับการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เราฟังสักหน่อยได้ไหม?
SS: ข้อแรกค่อนข้างเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับเรา เพราะโดยพื้นฐานแล้วเราฝึกฝนมาเพื่อเป็นช่างไม้ เราจึงมีความเข้าใจลึกซึ้งในงานฝีมือ สิ่งที่คุณบอกคือสิ่งที่เราทำทุกวันที่สตูดิโอ แต่นั่นเป็นเพียงมุมมองหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเราก็สนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น 3D printing การตัดด้วยเลเซอร์ และเครื่อง CNC แบบ 5 แกนด้วยเหมือนกัน
ผมคิดว่านี่สอดคล้องกับ Villeroy & Boch พวกเขามีงานฝีมือเป็นพื้นฐานของบริษัท และใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาช่วยทำให้การพัฒนาและผลิตสินค้าเป็นไปได้
FK: สำหรับเรา การมีทักษะและความรู้ที่จะทำงานด้วยมือนั้นมีความสำคัญมากในกระบวนการออกแบบ และผมคิดว่าการรู้จักเทคโนโลยีที่มีความสมัยใหม่สุดๆ ที่ช่วยให้การผลิตเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้นนั้นก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน
SS: การเพิ่มเทคโนโลยีใหม่เข้าไปในผลิตภัณฑ์ เช่น ก๊อกน้ำประหยัดน้ำ มันเป็นเรื่องที่เจ๋งมาก เพราะคุณมีพื้นฐานของงานฝีมือในผลิตภัณฑ์ของ Villeroy & Boch อยู่แล้ว ซึ่งคุณสมบัตินั้นทำให้ผมรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์นั้นเข้าถึงได้ง่ายและเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานจริงเข้าใจและรู้สึกเชื่อมโยงกับมัน แล้วผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเป็นก๊อกน้ำที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ผมคิดว่ามันเป็นการผสมผสานที่น่าตื่นเต้นมากเลย
art4d: เนื่องจากความยั่งยืนได้กลายเป็นเทรนด์ทั่วโลกและเป็น ‘สิ่งจำเป็น’ มันส่งผลต่อวิธีการออกแบบและกระบวนการทำงานของคุณอย่างไร?
FK: ผมคิดว่าแง่มุมที่สำคัญคือการคำนึงถึงผลกระทบเมื่อเราเลือกวัสดุหรือกระบวนการผลิต เมื่อเราออกแบบอะไรสักอย่าง งานออกแบบของเราจะถูกผลิต ขาย ใช้งาน และในที่มันสุดจะถูกทิ้งหรือถูกนำไปรีไซเคิลแล้วเอากลับมาใช้ใหม่ แน่นอนว่าเราคิดถึงวิธีสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะใช้งานได้ยาวนานหลายทศวรรษ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่เราคาดหวังคือผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่ดี แต่ถึงที่สุดแล้ว มันก็จะต้องสามารถถูกแยกชิ้นส่วนและนำไปรีไซเคิลแยกกันได้
SS: ในช่วงปีแรกๆ ผมจำได้ดีว่ามันเหมือนเป็นแค่การสร้างรูปทรงของโซฟามากกว่า โดยที่ส่วนภายในไม่มีความสำคัญเลย เรามองว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของแง่มุมทางวิศวกรรม แต่ตอนนี้เราคิดถึงโซฟาในรูปแบบใหม่ทั้งหมด คุณจะแยกฟองน้ำออกจากโครงไม้อย่างไร? และจะแยกผ้าออกจากฟองน้ำอย่างไร? ดังนั้น การคำนึงถึงประเด็นเหล่านี้จึงมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในงานของเรา
art4d: คุณคิดว่าปัญหาหรืออุปสรรคใดที่ยากที่สุดในการจัดการในกระบวนการทำงานของคุณ? และทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
FK: ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในกระบวนการออกแบบคือการสร้างสรรค์สิ่งที่ใหม่จริงๆ หรือมีนวัตกรรมได้ในราคาที่เหมาะสม
SS: ในขณะเดียวกัน มันต้องมีความนวัตกรรมแต่ก็ยังต้องเข้าถึงได้ด้วย ถ้ามันใหม่เกินไปหรือมีนวัตกรรมที่ล้ำเกินไป คนอาจไม่เข้าใจและไม่สามารถเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ได้ ดังนั้นการหาสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างสิ่งใหม่กับสิ่งที่ผู้คนคุ้นเคยและใช้งานอยู่แล้วจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
art4d: แล้วคุณมีเป้าหมายหรือทิศทางสำหรับสตูดิโอของคุณในอนาคตไหม?
FK: ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราคิดจะทำและออกแบบ ตอนนี้เรากำลังมีโปรเจกต์ทำเก้าอี้กันอยู่หลายตัวเหมือนกัน ซึ่งเก้าอี้ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนที่สุดในหมวดของเฟอร์นิเจอร์ มันเป็นการยากที่พูดถึงหมวดใดหมวดหนึ่ง แต่ผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำก็ยังคงเป็นสิ่งที่เรามองว่าน่าสนใจมาก และผมคิดว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นสำหรับเราเท่านั้น ผมตั้งตารอที่จะทำงานออกแบบสุขภัณฑ์อีกในอนาคตนะ
SS: นอกเหนือจากงานต่างๆ ที่เรากำลังทำกันอยู่แล้ว ผมก็อยากจะทำสิ่งนี้ (สตูดิโอ) ไปอีกหลายๆ ปี เพราะมันคือความหลงใหลของผม ผมสนุกกับการทำงานร่วมกับฟลอเรียน และหวังว่าเราจะได้ทำอะไรที่เราทำกันอยู่ตอนนี้ต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สิ่งสำคัญสำหรับเราคือการทำงานกับบริษัทและคนที่เหมาะสมที่ชื่นชมในสิ่งที่เราทำ นั่นคือเป้าหมายของผม: การหาพันธมิตรที่เหมาะสมสำหรับโปรเจกต์ที่ใช่ในอนาคต ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดี
art4d: มีอะไรที่คุณอยากออกแบบอีกไหม สิ่งที่คุณอยากลองทำเป็นการส่วนตัว?
SS: ผมชอบอะไรที่มันมีรายละเอียดทางเทคนิคเยอะๆ ครับ เก้าอี้สำนักงานน่าจะเป็นสิ่งที่น่าสนุกที่จะได้ลองทำ เพราะมีมิติของการยศาสตร์ (ergonomics) และการใช้งานมากมาย จริงๆ แล้ว ผมอยากออกแบบทุกอย่างเลย (หัวเราะ) อีกอย่างคือเราอยากออกแบบชุดช้อนส้อมมาหลายปีแล้ว ซึ่งถ้าได้ทำก็น่าจะดี มันจะเข้ากันได้ดีกับ Villeroy & Boch เช่นการออกแบบเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในอนาคต ก็คิดว่าอยากจะทำชุดช้อนส้อมและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทั้งหมดครับ
FK: ใช่เลย เราเคยพูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว
art4d: อะไรที่ทำให้คอลเล็กชัน Antao แตกต่างจากอ่างล้างหน้าอื่นๆ ในแง่มุมของการออกแบบและการใช้งาน?
FK: แนวคิดทั้งหมดของมันโดดเด่นมากครับ ผมชอบวิธีที่ก๊อกน้ำถูกวางอยู่ตรงกึ่งกลาง สิ่งที่พิเศษมากเกี่ยวกับคอลเล็กชันนี้คือมันเป็นการออกแบบห้องน้ำที่ครบวงจร มีหลายบริษัทที่ทำเซรามิก บางบริษัททำก๊อกน้ำ บางบริษัททำเฟอร์นิเจอร์ แต่สิ่งที่เราทำที่นี่คือการออกแบบทุกอย่าง ดังนั้นคุณสามารถใช้งานบรรยากาศโดยรวมทั้งหมด ทั้งห้อง ทุกสิ่งที่คุณต้องการ ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก
SS: เห็นด้วยครับ ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้อ่างล้างหน้านี้มีเอกลักษณ์คือรูปทรง แน่นอนว่ามันก็มีรูปทรงออร์แกนิคอื่นๆ ในตลาด สำหรับเรามันสำคัญมากที่จะหาสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบที่มีความน้อยแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้ มันเป็นเส้นบางๆ ระหว่างความออร์แกนิคและความเรียบง่าย ซึ่งยังไม่มีผลิตภัณฑ์ไหนที่เป็นแบบนั้น