THE 2ND EDITION OF SPECTROSYNTHESIS ORGANIZED BY SUNPRIDE FOUNDATION IN COLLABORATION WITH BACC FOCUSING ON THE TOLERANCE OF THE LGBTQ COMMUNITIES IN SOUTHEAST ASIA IS NOW ON VIEW. IS THE SPOTLIGHT ON THE DIVERSITY OF THIS EXHIBITION TOO BRIGHT? QUESTIONS THANOM CHARPAKDEE
TEXT: THANOM CHAPAKDEE
PHOTO COURTESY OF BACC
ในยุคที่ความรักกลายเป็นสิ่งที่โหยหาอย่างยากเข็ญ แต่ความใคร่ปรารถนามาหาเพียงแค่ดีดปลายนิ้ว โลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพภูมิอากาศกลายเป็นเสียงที่คร่ำครวญอย่างเวทนาจากมวลหมู่มนุษย์แต่ผู้คนยังเข่นฆ่าบีฑาธรรมชาติอย่างไม่เคยปราณี วิถีของมนุษย์แบ่งเพศพันธุ์และเพศสภาพจากจิตใจและอารมณ์อันอ่อนไหวกลายเป็นหมวดหมู่ คู่ขัดแย้งราวกับอยู่บนโลกคนละใบและยากที่จะแบกรับกับคลื่นสึนามิทางปัญหานานาที่ประดังเข้ามา เพราะต่างคนก็ต่างที่จะประกาศเจตนาและคำประกาศของตัวเองให้เซ็งแซ่เพื่อให้พลโลกได้รับรู้ แต่ใครจะรู้นอกจากวงศาคณามิตรที่สถาปนาขึ้นมาและกลายเป็นเสียงแผดแผ่วราวกับเสียงกระซิบของผู้เฒ่าปลายนา
ในโลกศิลปะที่โลดแล่นมิได้แปลกแยกไปจากโครงสร้างสังคมที่ร้าวราน ผู้สร้างงานพยายามสื่อสะท้อนเรื่องราวความเป็นไปตั้งแต่ระดับจักรวาลแห่งความเชื่อไปจนถึงอณูชีวิตจิตวิญญาณของตัวเองที่แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ อันเนื่องมาจากผลกระทบการเปล่าเปลือยของวิถีเสรีนิยมใหม่ ดังกรณีนิทรรศการศิลปะสนทนาสัปตสนธิ 2 ก็เช่นกัน พลันที่น่านฟ้าอัสดงคตประเทศเปิด เหล่านักสร้างสรรค์งานศิลปะในฟากชมพูทวีปและอุษาคเนย์ ก็เทแรงพลังการทำงานในหน่อเนื้อของตนอย่างแข็งขัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นต่างกระมิดกระเมี้ยน อำพรางลวดลายตัวเองอยู่ท่ามกลางความโกลาหลของโลกศิลปะ
นิทรรศการสนทนาสัปตสนธิ 2 (Spectrosynthesis II) เสมือนป่าเต็งรังในอุษาคเนย์ ที่มีพืชพันธุ์ไม้ใหญ่ไม่กี่ต้น นอกนั้นเป็นป่าละเมาะ ดงหญ้าและป่าไผ่ แม้จะเป็นความหลากหลายในบทสนทนาของป่าไม้แต่ก็ยังเห็นความเหลื่อมซ้อนบังใบของนัยยะทางศิลปะที่พยายามสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะและสถานะของ LGBTQ ในภูมิภาคนี้ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่านิทรรศการครั้งนี้ผลงานจำนวนหนึ่งนั้นมากจากคลังสะสมของมูลนิธิซันไพรด์ (Sunpride Foundation) อันเป็นผลงานที่ถูกเลือกไว้แล้วและเป็นมุมมองรสนิยมของผู้สะสม ส่วนผลงานที่ถูกคัดเลือกเข้าร่วมแสดงนั้น คือส่วนประกอบและสร้างสีสันให้ป่าเต็งรังแห่งอุษาคเนย์แห่งนี้มีความหลากหลายมากขึ้น
สนทนาสัปตสนธิ 2 (Spectrosynthesis II) กับความหลากหลายใน LGBTQ ของตัวมันเอง อันที่จริงโลกของความหลากหลายนั้นดำรงอยู่บนฐานของความเป็นธรรมชาติ แต่นัยยะของธรรมชาตินั้นโหดร้ายและรุนแรงไม่ได้โรแมนติคเหมือนการดูงานศิลปะ การขจัดความหลากหลายออกจากแนวคิดธรรมชาติจึงเป็นการต่อรองและคัดกรองส่วนที่ไม่ต้องการออกไป พร้อมกับการปรุงแต่งขึ้นมาใหม่ จึงไม่แปลกที่สนทนาสัปตสนธินั้นเป็นความหลากหลายที่ถูกเหลาไม่เหลือเหลี่ยมจนกลายเป็นความล้นเหลือที่เพิ่มเติมเข้ามาในงานของแต่ละ LGBTQ รวมทั้งในการพยายามจัดหมวดหมู่หรือแยกเพศพันธุ์ของผลงานโดยการตั้งประเด็นหัวข้อต่างๆ ได้แก่; แตกพาน : วัยเยาว์, แตกต่างหลากหลาย : รุ้งหลากสี, ทัศนคติจากรุ่นสู่รุ่น, รับรู้อัตลักษณ์, ความปกติจริงหรือมายา, ฉากหลังความเชื่อ, แตกฉาน : ก้าวข้ามเพศสภาพ, แตกร้าว : วัฎจักรสังสารของมนุษย์
จริงอยู่ที่ประเด็นเหล่านี้อาจเป็นการดีสำหรับการแยกหัวข้อเพื่อศึกษาในแขนงอื่นๆ ที่ไม่ใช่เพื่อเป็นบรรณานิทรรศการในการแสดงที่บอกกล่าวไว้แต่ต้นว่าเป็นความหลากหลายของ LGBTQ เชื่อว่าผู้ชมงานในต้นศตวรรษที่ 21 นั้น มีองคาพยพทางความรู้และรสนิยมการตัดสินใจว่างานลักษณะแบบอย่างเนื้อหา แนวคิดแบบไหน สัญลักษณ์อะไร จะตีความหรือรับรู้ได้อย่างไรโดยไม่มีฉลากกำกับ อันกลายเป็นพันธะสัญญาประกาศิตจากผู้จัดไปโดยปริยาย เป็นผลให้เกิดความหลากล้นในบางหัวข้อหรือล้นเหลือในบางประเด็น
ด้วยเหตุผลของผู้จัดที่ต้องการแสดงผลงานให้มากที่สุดในพื้นที่เขาวงกต หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) จึงเป็นผลให้งานแต่ละชุดปะทะกันสนั่นหวั่นไหว มองดูผลงานชุดหนึ่งอย่างเพ่งพินิจแต่สามารถรับรู้ผลงานอีกชุดหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดสภาวะล้นเหลือในพื้นที่แสดงงานที่ถูกติดตั้งจัดวางอย่างแน่นขนัด ที่สำคัญบางผลงานต้องการความเป็นเอกเทศจึงมีการติดตั้งกั้นผนังเป็นห้องขึ้นมาและสุมรวมอยู่กับพื้นที่แสดงผลงานชุดอื่นๆ จึงทำให้ระนาบและมิติมุมมองการรับรู้ผลงานส่งผลต่อกันเป็นลูกโซ่อย่างมิอาจปฏิเสธได้ แน่นอนว่าผลจากความแน่นขนัดทำให้ผลงานเกิดการไตร่ถามสนทนากันเอง ซึ่งทำให้การรับรู้ของผู้ดูไม่สามารถมีสมาธิต่อผลงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งได้ ผู้คัดสรรผลงานต้องตระหนักในความสัมพันธ์ของพื้นที่แสดงกับจำนวนของผลงานนั้นๆ ด้วย หลายครั้งที่เกิดสภาวะผลงานสนทนากันเอง (ไม่ใช่การแสดงครั้งนี้ครั้งเดียว) สาเหตุที่วิธีการหรือกระบวนการคัดสรรผลงานไม่ได้เป็นไปตามครรลองของระบบ แต่เกิดจากวิถีความสัมพันธ์ดั่งญาติมิตรที่ตัดไม่ขาด ประมาณว่าตัดพี่เสียดายน้อง ตัดเพื่อนเสียดายคนใกล้ชิด สะท้อนให้เห็นถึงลิขิตการคัดสรรเชิงวิถีอุษาคเนย์ได้เป็นอย่างดี
บนความหลากหลายและล้นเหลือนั้นมีผลงานแสดงอยู่ในป่าเต็งรังที่ยังมีความขลังและมนต์เสน่ห์ของ LGBTQ ที่แสดงออกมาถึงการต่อต้าน (Resistance) อย่างเช่นผลงานของ Yoppy Pieter จากอินโดนีเซียที่ได้นำเสนอบริบทของโรงเรียน LGBTQ เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงแนวคิดให้แสดงตนในเรื่องเพศอย่างชัดเจน แต่โรงเรียนก็ไม่อาจจะบ่มเพาะเยาวชนเพื่อให้บรรลุผลนั้นได้ หรือผลงานของ Jun-Jieh Wang จากไต้หวันซึ่งเป็นวิดีโอฉาดฉายให้เห็นถึงองค์ศิวลึงค์ขนาดเขื่องดุจดั่งตั้งวางอยู่บนแท่นบูชา ท้าทายต่อความเชื่อและอำนาจทั้งปวง ผลงานของไมลเคิล เชาว์นาศัย ในชุดผ้าเหลืองและลาสิกขา
ผลงานของอริญชย์ รุ่งแจ้ง “Welcome to my World, Tee” ที่ฉายส่องอยู่บนมอนิเตอร์ขนาดใหญ่กว่า 5 จอ สามารถสะกดคนดูให้ชะงักอยู่กับท่วงท่าเนิบช้าของตี๋ที่สถิตย์และเคลื่อนไหวดุจภาพ Olympia ของ Manet หรือ Sound Scape ของศิลปินจากฮ่องกงอย่าง Samson Young ที่บอกให้รู้ถึงเสียงที่ถูกกดทับจนป่นปี้ ผลงานของศิลปินเวียตนามอย่าง Truong Tan ที่ปาดป้ายอย่างตรงไปตรงมาน่าสยดสยอง ผลงานของ เถกิง พัฒโนภาษ ที่ดำดิ่งสู่ห้วงเหวอันลึกลับราวกับหลุมดำในอวกาศ หรือผลงานของ นรภัทร ศักดิ์อาธรทรัพย์ ที่อุปมาอุปไมยเรือนร่างกับดอกไม้นานาชนิด เพื่อให้ผู้ดูหลงใหลในความยวนยั่วของกลีบดอกที่เบ่งบานและอับเฉา
การเดินเข้าสู่ป่าเต็งรังที่บานสะพรั่งด้วยพันธุ์ไม้ป่านานาชนิด เป็นลิขิตและสิทธิของผู้ชมที่จะเลือกดอมดมลูบไล้สัมผัสพันธุ์ไม้ชนิดไหน นอกเหนือจากการถูกคัดสรรมาแสดงให้ชื่นชมสัมผัสแล้ว ผู้ดูก็จำเป็นที่จะคัดกรองที่จะรับรู้อีกโสตหนึ่งด้วย ความล้นเหลือดาระดาษอยู่เต็มทั้งสองชั้นในพื้นที่การแสดง ซึ่งมีผลงานของศิลปินกว่า 50 คนร่วมแสดงครั้งนี้ รวมถึงชื่อนิทรรศการที่อาจสร้างความสับสนพอๆ กับสภาวะของ LGBTQ ที่ถูกนำมาสุมรวมอยู่ในความแน่นขนัดของชั้น 7-8 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครแห่งนี้
นิทรรศการสนทนาสัปตสนธิ 2 แสดงที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ 23 พฤศจิกายน 2562 – 1 มีนาคม 2563 ณ ห้องนิทรรศการหลักชั้น 7 – 8