WRITTEN BY SHELLY FAN, THIS BOOK IN THE SERIES ‘THE BIG IDEA’ ELABORATES THE ORIGINS AND ABILITIES OF AI IN THIS DAY AND HOW IT INFILTRATES INTO ALMOST EVERY INDUSTRY
TEXT: PRATARN TEERATADA
PHOTO: KETSIREE WONGWAN
(For English, press here)
Shelly Fan
Thames & Hudson, 2019
6 x 0.6 x 9 inches
144 pages
ISBN 978-0-500-29457-4
ความหวาดกลัวเรื่องสมองประดิษฐ์หรือ AI จะมาทดแทนมนุษย์ได้จริงหรือไม่นั้นเริ่มปรากฏชัดขึ้นเมื่อตอนที่มีข่าวว่า AI สามารถเอาชนะแชมป์หมากรุกโลกได้ กระทั่งเริ่มมีข่าว AI แย่งงานมนุษย์ในหลายวงการไปเรียบร้อยแล้ว ตามมาด้วยคำทำนายที่ว่าจะมีอาชีพไหนบ้างที่จะหายไปภายในสิบปีข้างหน้านี้ ยิ่งทำให้ความกังวลขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น หรือมนุษย์จะหมดความหมายไปแล้วในโลกอนาคต
คุณสมบัติสำคัญของ AI คือ machine learning หรือโปรแกรมทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของข้อมูลและการสร้างวิธีการตอบสนองข้อมูลขึ้นมาโดยเรียนรู้จาก data เนื่องจาก machine learning มีการวิเคราะห์ข้อมูลได้แม่นยำ ทำให้ในหลายวิชาชีพจะมี AI เข้ามาแทนที่ในหลายๆ ส่วนที่มนุษย์เคยทำไปเรียบร้อยแล้ว
หนังสือในชุด The Big Idea เล่มนี้ บรรยายถึงจุดกำเนิด และความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันซึ่งแทรกซึมไปอยู่ในทุกอุตสาหกรรม ทุกๆ ธุรกิจต่างต้องการใช้ประโยชน์จาก AI และทิ้งท้ายถึงอนาคตในตอนท้ายเล่มเอาไว้ว่า “Under open and intelligent discourse, AI will not replace us, Rather it will profoundly transform humanity or the better.”
มนุษย์จะทรานสฟอร์มไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่ดีกว่าเดิมได้อย่างไรนั้น หนังสือไม่ได้ชี้แนวทางเอาไว้ ที่แน่ๆ ถ้าไม่เปลี่ยน ไม่พัฒนา จะโดนคัดออกแน่ๆ
Garry Kasparov อดีตแชมป์โลกหมากรุกคนที่โดน AI เอาชนะได้คนแรกๆ ของโลก เคยเขียนเอาไว้ใน Deep Thinking ของเขาว่า “ชุดข้อมูลตัวอย่าง” คืออาวุธสำคัญของมนุษย์ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่มีค่าอย่างมากเมื่อจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่าง AI เรายังพอมีเวลา แม้จะไม่มากนัก ในการพัฒนาศักยภาพเพื่อเตรียมตัวสำหรับอนาคตอันใกล้นี้ ในวันนี้ AI จดจำได้มากกว่า คิดคำนวณได้เร็วกว่า แถมยังตัดสินใจได้แม่นยำกว่า
สิ่งที่ AI ยังขาดอยู่ คือความสามารถด้าน creative อย่างที่เราเคยเชื่อเสมอว่า มันจะทำไม่ได้เพราะว่าเราคิดว่าคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่แค่รับคำสั่ง และปฏิบัติการตามคำสั่งเท่านั้น เพียงแต่ว่าสำหรับ AI ที่พัฒนาขึ้นไปบวกกับคำสั่งที่เปิดกว้างขึ้น จะสร้างความเป็นไปได้ที่มากขึ้น และจากความเป็นไปได้ที่มากขึ้นนี้จะกลายเป็นทางออกที่เอาชนะมนุษย์ได้ในที่สุด ดังเช่น AI ที่เรียนรู้แบบแผนการเดินหมากรุกเป็นล้านๆ รอบ และศึกษาวิธีการแก้เกมของมนุษย์ในทุกรูปแบบ ทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูล และผลิตวิธีการใหม่ขึ้นมาจนสามารถเอาชนะมนุษย์ที่มีความฉลาดมากๆ ได้ในที่สุด นั่นหมายถึงการเรียนรู้เป็นล้านๆ ครั้งนั้นทำให้ AI มีความ creative ขึ้นมาได้ ซึ่งต่อไปจะพัฒนาไปถึงขั้นสร้างจิตสำนึกหรือจินตนาการได้หรือไม่นั้นยังเป็นเรื่องต้องติดตามกันต่อไป…
ดูเหมือนว่าตอนนี้ AI ยังแทนมนุษย์ไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็แทนไปเยอะแล้ว มนุษย์จึงต้องรีบเร่งค้นหาจุดแข็งของตัวเองให้เจอ นั่นแหละคือทางรอด…