โครงการจาก AP Thailand ใจกลางเจริญกรุงที่หยิบเอาลักษณะอยู่อาศัยร่วมกันหลายเจเนอเรชั่นมาถ่ายทอดผ่านคอนเซ็ปต์ ‘The Luxury Gated Community’ ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัยภายใต้จุดร่วมที่เหมือนกันของทุกชีวิตนั่นคือ ‘ความอิสระภายใต้ความปลอดภัย’
TEXT: KITA THAPANAPHANNITIKUL
PHOTO COURTESY OF AP THAILAND
(For English, press here)
ในปัจจุบันเทรนด์การอยู่อาศัยแบบ ‘Gated community’ หรือการสร้างชุมชนภายในอาณาเขตที่ชัดเจน ที่มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยในชุมชนได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะในสังคมเมืองที่มีความหนาแน่นสูงในเมืองใหญ่ เพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยในพื้นที่แบบ ‘ชุมชน’ ที่มีอิสระในการใช้งานทั้งยังคงความปลอดภัยไว้ได้ โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ ที่ต้องการพื้นที่ที่อิสระ คำถามต่อมาก็คือ หากว่าหัวใจหลักของ Gated community คือการสร้างกลุ่มสังคมย่อยขึ้นมาภายในอาณาเขต แล้วเป็นไปได้ไหมว่ากลุ่มสังคมนั้นจะไม่ได้แยกขาดหากแต่ยังเชื่อมโยงอยู่กับบริบทภายนอกได้
ในพื้นที่อย่างเจริญกรุง บนความเป็นย่านที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของผู้อยู่อาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บรรยากาศของความเป็น creative district ใหม่ของกรุงเทพฯ ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเดิมในพื้นที่ ความท้าทายของอาคารใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในเจริญกรุงจึงไม่หยุดอยู่แค่เพียงพื้นที่ใช้สอยภายในอาคาร หากแต่ยังต้องเชื่อมโยงและเป็นส่วนหนึ่งกับบริบทของชุมชนที่หลากหลายนี้ได้ เช่นเดียวกับโครงการใหม่จาก AP Thailand อย่าง RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลียน ที่ตั้งอยู่ ณ ทำเลตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ริเวอร์ไซด์ แคมปัส ที่ได้หยิบเอาแนวคิด Gated Community ที่สร้างความปลอดภัยแต่ไม่ตัดขาด มาเป็นแนวความคิดหลักในการพัฒนาโครงการ ร่วมกับเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของการอยู่อาศัยร่วมกันหลายเจเนอเรชั่นในครอบครัว หรือ Co-Generations Living ในย่านเจริญกรุงแห่งนี้ เกิดเป็นคอนเซ็ปต์ ‘The Luxury Gated Community’ ที่มอบสภาพแวดล้อมที่เพียบพร้อมและปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยทุกเจเนอเรชั่น ในขณะเดียวกันกับการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของย่านเจริญกรุง
นอกจากพื้นที่ภายในห้องชุดที่มีขนาดกว้างพอที่จะสามารถบรรจุฟังก์ชั่นได้อย่างครบครันแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดของโครงการนี้คือคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัยร่วมกันบนพื้นที่ส่วนกลางทั้งสองส่วน ทั้งจากส่วน Sky Facilities ในชั้น 42-44 ของอาคาร อันประกอบด้วยพื้นที่ส่วนกลางทั้งแบบ indoor และ outdoor ต่างๆ เช่น Sky Terrace มุมพักผ่อนที่เปิดให้เห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา Play Space พื้นที่เล่นของเด็กๆ รวมไปถึง Infinity Edge Pool ขนาดยาวกว่า 47 เมตร และไฮไลท์ของโครงการนี้ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางในชั้น 1 ในชื่อ ‘The Pavillion’ อันมีลักษณะเป็นรูปแบบของ Pavillion 3 หลังที่รองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย Study Pavillion สำหรับรองรับกิจกรรมการเรียนรู้ Social Pavillion เพื่อรองรับการพบปะสังสรรค์ และ Reading Pavillion ที่รองรับการใช้งานที่ต้องการความเป็นสงบและส่วนตัว ทั้ง 3 พาวิลเลียนเชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ในชื่อ Gated Courtyard ที่สร้างบรรยากาศพื้นที่สีเขียวที่ไม่ต่างจากหมู่บ้าน ทั้งนี้ก็เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัยภายใต้จุดร่วมที่เหมือนกันของทุกชีวิตนั่นคือ ‘ความอิสระภายใต้ความปลอดภัย’ นั่นเอง