Uchida Design สานต่อวิสัยทัศน์เดิมของ Aldo Rossi และ Shigeru Uchida ในการปรับปรุงโรงแรม Il Palazzo โดยนำเสนองานของทั้งสองใหม่ ให้อยู่เหนือยุคสมัยและกาลเวลาได้อย่างลงตัว
TEXT: MONGKON PONGANUTREE
PHOTO CREDIT AS NOTED
(For English, press here)
ตุลาคม 2024 เป็นวาระครบรอบหนึ่งปีพอดีสำหรับการกลับมาเปิดให้บริการหลังจากปิดปรับปรุงโรงแรม Il Palazzo ในเมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ถ้านับย้อนไปอีกหน่อย ปี 2024 นี้ก็เป็นปีที่ Il Palazzo เปิดมาครบ 35 ปี หลังจากที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 1989 เรากำลังพูดถึงโรงแรมทีได้ชื่อว่าเป็นบูติคโฮเต็ลโรงแรมแรกๆ ในญี่ปุ่น ผลงานออกแบบของ Aldo Rossi สถาปนิกอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของยุคโพสต์โมเดิร์น และเป็นหนึ่งในผลงานออกแบบโครงการสำคัญของ Rossi ด้วย
Aldo Rossi เริ่มเป็นที่รู้จักจากการเสนอแนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมและเมือง ผลงานสำคัญของเขาคือหนังสือ ‘The Architecture of the City’ ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1966 ในขณะที่เขามีอายุ 35 ปี Rossi ได้นำเสนอแนวคิดหลักๆ ได้แก่ การวิพากษ์สถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ซึ่งมุ่งเน้นที่ฟังก์ชันและมีลักษณะที่เป็นนามธรรม โดยละเลยบริบทและความต่อเนื่องของรูปแบบทางประวัติศาสตร์ Rossi มองว่าเมืองประกอบขึ้นจาก ‘Urban Artefacts’ คือสิ่งที่มีคุณค่าสำคัญของเมืองที่เป็นกายภาพ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบทางสถาปัตยกรรมหรือที่ว่าง และเป็นผลรวมที่ถูกสร้างขึ้นจากอดีตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เขาเน้นความสำคัญของการเข้าใจและอนุรักษ์คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของเมือง โดยกล่าวว่าสถาปัตยกรรมควรตอบสนองต่อบริบททางประวัติศาสตร์เหล่านี้ แทนที่จะสร้างรูปแบบใหม่ขึ้นมา
แนวคิดของ Rossi ยังมีหลักการสำคัญคือการอ้างอิงประวัติศาสตร์ ภาษาสถาปัตยกรรมจึงควรมีองค์ประกอบและรูปแบบที่อ้างอิงจากสถาปัตยกรรมสำคัญในอดีต ให้ความสำคัญกับบริบทของเมืองคือแนวคิดที่เน้นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสถาปัตยกรรมและบริบทของเมืองหรือที่ตั้ง และการใช้องค์ประกอบในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อสื่อความหมายและสร้างความประทับใจ Urban Artefacts ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของเมือง เพราะผู้คนมีความทรงจำร่วม หรือ Collective Memory กับงานที่มีคุณค่าในอดีต แม้การใช้งานจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ลักษณะเฉพาะเหล่านั้นยังคงอยู่ในความทรงจำร่วม
ในปี 1986 Shigeru Uchida นักออกแบบที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นในยุคนั้นได้งานโปรเจกต์ออกแบบโรงแรม 60 ห้องในฟูกูโอกะ เขาได้ชักชวน Rossi มาทำงานออกแบบสถาปัตยกรรมของโครงการ โดยตัวเขาเองทำหน้าที่ออกแบบอินทีเรีย ในปี 1987 Rossi ได้ไปที่ไซต์งานและใช้เวลาศึกษาสภาพแวดล้อมและที่ตั้งอย่างละเอียด โดยให้ความสำคัญกับสถาปัตยกรรมกับเมืองตามแนวคิดของเขา
ในสเก็ตช์ที่ร่างขึ้นในช่วงแรกๆ ของการออกแบบ Rossi มีแนวความคิดอย่างชัดเจนในการสร้างความสัมพันธ์ของตัวอาคารกับบริบทโดยรอบ งานออกแบบโครงการนี้ยังมีความพยายามผสมผสานจิตวิญญาณตะวันออกกับตะวันตกเข้าด้วยกัน ตัวอาคารมีเอกลักษณ์ที่มีองค์ประกอบของภาษาสถาปัตยกรรมคลาสสิก Rossi ได้แรงบันดาลใจจากรูปแบบของปาลาซโซในเวนิส อิตาลี และวัดโบราณของญี่ปุ่นในเกียวโต วัสดุภายนอกอาคารเป็นหินอ่อนสีแดง ตัดกับทองแดงสนิมเขียวที่ใช้เป็นองค์ประกอบแนวนอนขึ้นไปจนเป็นตัวจบส่วนยอดของอาคาร การวางอาคารลงบนที่ตั้งประกอบด้วยอาคารหลัก คือปาลาซโซ ที่ดูเหมือนกับปราสาท ตั้งตระหง่านอยู่ การเข้าถึงอาคารใช้การจัดวางอาคารส่วนพาณิชยกรรมเป็นอาคารเตี้ยสองข้าง และมีรูปแบบที่เป็นอาคารจั่วธรรมดาที่ดูมีลำดับศักดิ์ที่ต่ำกว่าตัวอาคารสำคัญ ทั้งสามส่วนวางโอบล้อมพื้นที่สาธารณะซึ่งเป็นเหมือนจตุรัส Rossi ยังพยายามพร่าเลือนขอบเขตระหว่างพื้นที่สาธารณะและพื้นที่โครงการ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่มีชีวิตชีวา ตามแนวคิดที่ว่าสถาปัตยกรรมจะต้องทำให้เกิดประสบการณ์ร่วมกันของผู้คน แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นจากการสร้างพื้นที่สาธารณะเปิดกว้างขนาดใหญ่ ในแบบสเก็ตช์เดิม Rossi ยังเสนอให้มีพื้นที่เชื่อมต่อจากโรงแรมไปถึงริมแม่น้ำ Naka ซึ่งอยู่ด้านหลัง ทั้งหมดนี้เพื่อส่งเสริมแนวคิดของสถาปัตยกรรมในฐานะเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง
หลังจากมีการเปลี่ยนเจ้าของโรงแรม ในปี 2021 Uchida Design สตูดิโอซึ่งก่อตั้งโดย Shigeru Uchida ได้รับการว่าจ้างจากเจ้าของใหม่ให้ทำการปรับปรุง Il Palazzo ครั้งใหญ่ ทีมออกแบบของ Uchida Design พยายามสานต่อวิสัยทัศน์ของ Rossi และ Uchida ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ในปี 2006 และ 2016 ตามลำดับ แต่ปรับเปลี่ยนให้ดูใหม่ และนำเสนองานของมาสเตอร์ทั้งสองให้อยู่เหนือยุคสมัยและกาลเวลา งานอินทีเรียยังคงสกีมสีหลักสามสีของอาคารเดิมไว้ คือแดง เขียว และน้ำเงิน แต่ปรับโทนสีให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับงานออกแบบแสงซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญของงานปรับปรุงใหม่นี้
ส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดจากการปรับปรุงอาคารล่าสุดนี้ คือการเปลี่ยนทางเข้าโรงแรมจากเดิมซึ่งเข้าผ่านจตุรัสหน้าโรงแรมมาเป็นทางเข้าจากระดับถนนผ่านอุโมงค์ที่ปรับให้ดึงดูดสายตาด้วยการใช้การออกแบบแสงสีน้ำเงินอย่างเข้มข้น อุโมงค์ระดับถนนนี้เคยเป็นทางเข้าของบาร์เต้นรำในแบบแปลนเดิมมาก่อน งานปรับปรุงอินทีเรียโดยส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นล็อบบี ร้านอาหาร และพื้นที่ให้บริการอื่นๆ ถูกทำใหม่ให้มีชีวิตชีวาแบบร่วมสมัยมากขึ้น แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมที่ Rossi และ Uchida ทำไว้ รวมทั้งการเก็บรักษาเฟอร์นิเจอร์งานออกแบบคลาสสิกจากมาสเตอร์ของยุคโพสต์โมเดิร์นหลายคนที่ใช้ในโรงแรม นอกจากนั้นแล้วยังมีการนำภาพสเก็ตช์ของ Rossi หลายชิ้นมาใช้เป็นภาพตกแต่งตามบริเวณโถงทางเดิน ช่วยย้ำเตือนถึงมรดกอันยาวนานด้านการออกแบบของโรงแรม
Il Palazzo เป็นตัวอย่างของการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความร่วมสมัย ในการปรับปรุงโรงแรมครั้งใหม่ล่าสุด ไม่เพียงแต่พยายามรักษาสถาปัตยกรรมและงานออกแบบจากแนวคิดดั้งเดิมของสถาปนิกและนักออกแบบระดับมาสเตอร์ที่สร้างสรรค์ไว้ แต่ยังเติมเต็มจุดมุ่งหมายใหม่ที่ตอบโจทย์โลกในปัจจุบัน โครงการปรับปรุง Il Palazzo ครั้งนี้ ทำให้เราเชื่อได้ว่าสถาปัตยกรรมระดับไอคอนนี้ก็จะยังคงอยู่ต่อไป โดยไม่ถูกรื้อทิ้ง อย่างน้อยก็อีกหลายปี มีรายงานอีกด้วยว่า ทางโรงแรมมีแผนการจะสร้างกิจกรรมบนลานสาธารณะหรือ “piazza” ด้านหน้าอาคาร อาจจะเป็นลานกิจกรรมชุมชนหรือตลาดนัด ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเริ่มแรกของ Rossi ที่จะสร้างสเปซที่ไร้ขอบเขตของและสร้างประสบการณ์ร่วมกันของผู้คนของอาคารกับเมือง ซึ่งถ้าแผนการนี้สามารถเกิดขึ้นจริงก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เพราะนั่นหมายความว่าเราจะได้เห็นวิสัยทัศน์ของ Rossi เป็นจริงมากขึ้นไปอีกระดับ
“สถาปนิกไม่ได้เป็นผู้เลือกที่ตั้ง เราสามารถสร้างสถาปัตยกรรมขึ้นมา แต่ไม่ใช่คนที่สามารถทำให้มันมีชีวิต มันต้องมีการเชื่อมโยงระหว่างสถาปนิกและผู้คน ซึ่งจะได้ผลที่เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ของสถาปนิก” Aldo Rossi, จากหนังสือ Aldo Rossi – Buildings and Projects, Rizzoli 1984