KING POWER, A LEADING DUTY-FREE BUSINESS CELEBRATES THE 28 YEARS OF SUCCESS WITH A BIG RENOVATION FOR ITS SHOPPING COMPLEX ON RANG NAM ROAD
If one were to discuss the way architecture is used to communicate an organization’s corporate identity, King Power Rangnam is one of the most outstanding examples that do not only create a memorable image for the country’s leading duty-free retailer such as King Power for the project also grants a fresh and original experience for travelers and visitors of the store since it was first opened in 2007. In the year 2017, King Power celebrates its 28 years of business operation and King Power Rangnam’s 10th anniversary with the big revamp as the company strives to go beyond duty free and become the “King of Duty Free” as one of world’s top 5 duty free retailers.
The renovation aims to create the even more luxurious experience for the customers with the main focused targets being foreign individual tourism and the Thai clientele. Such direction shapes the design concept of the new King Power Rangnam with Crown Atrium, which has long been the project’s most memorable image, as the key element of the renovation. The team of architects from Architects 49 Limited (A49) who was responsible for the design of King Power Rangnam 10 years ago redesigns the envelope of the Crown Atrium to posses the more complicated cuts and corners, reminiscing the precious gemstone adorning the crown. The design reflects King Power’s vision and value while its physical appearance impress visitors, especially with the light reflected on the sophisticated and polished form of the new envelop throughout the day.
The interior decoration of the Crown Atrium sees the use of diamond-shaped heat protection panels that physically correspond with the cuts and corners of the exterior shell. The material filters the intensity of natural light coming through and consequentially creating thermal comfort for the space. The detail of the design of the ceiling is inspired by latitudes and longitudes, signifying traveling, which is the essence of King Power’s duty free business. Apart from the ‘Curated Maestro’ concept reflected in the retail area on the first and third floor, the readjustment of the floor plan and circulation allows shoppers to enjoy new spatial experiences. Another highlight of the new King Power Rangnam is the Thai Taste Hub that incorporates the rearranged forms of Bangkok’s eclectic architecture to convey Thailand’s idiosyncratic alleyways and vibrant street food. The design, when combined with the variations of materials and patterns, interestingly conveys the unique characteristic of Thai culture.
In addition to the architectural renovation, the landscape architecture is what contributes to the project’s new image. The major highlight is the replacement of the project’s original fountain system with performing fountain system that features 448 high-pressure water shooters along the 50-meter length. The system enables the water to be shot up at the height as high as 6 meters in the beautifully choreographed movements with the moving images projected on the spectacular aquatic mass. When not in use, this particular area can be readjusted into a multi-functional ground that can accommodate different outdoor activities while its physical presence perfectly links the interior and exterior space of the project.
หากจะพูดถึงการสื่อแทนถึงอัตลักษณ์ขององค์กรผ่านสถาปัตยกรรม ปฏิเสธไม่ได้ว่าโครงการ King Power Rangnam นับเป็นตัวอย่างสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งที่ไม่เพียงช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้เป็นที่จดจำแก่ผู้นำด้านธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีอย่าง King Power มาโดยตลอดเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันโครงการแห่งนี้ก็ยังช่วยมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาจับจ่ายใช้สอยได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี 2007 ด้วย และในปี 2017 นี้เอง King Power ถือโอกาสเฉลิมฉลองความสำเร็จทางธุรกิจที่ดำเนินมากว่า 28 ปี ไปพร้อมๆ กับเดินทางมาครบ 10 ปีของโครงการ King Power Rangnam ด้วยการปรับโฉมครั้งใหญ่ให้เป็นมากกว่าแค่ duty free (beyond duty free) เพื่อตอบรับกับเป้าหมายที่จะต้องการจะยกระดับการให้บริการเป็น “King of Duty Free” และก้าวขึ้นสู่ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี 1 ใน 5 ของโลก
การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่หรูหรายิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้บริการแล้ว การมุ่งความสนใจไปที่กลุ่มเป้าหมายซึ่งมีกำลังซื้อสูงอย่าง นักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง (foreign individual tourism) และกลุ่มลูกค้าชาวไทย ยังเป็นตัวช่วยกรอบแนวทางการออกแบบให้กับ King Power Rangnam แห่งใหม่นี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย โดยหัวใจหลักซึ่งเป็นภาพจำของโครงการมายาวนานอย่าง Crown Atrium นั้น เป็นส่วนแรกสุดที่ได้รับการแปลงโฉม โดยทีมสถาปนิกจาก บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด ผู้เคยฝากผลงานไว้บนพื้นที่เดียวกันเมื่อ 10 ปีก่อนนั้น มาพร้อมกับการออกแบบผนังห่อหุ้มส่วน Crown Atrium นี้ใหม่ให้มีเหลี่ยมมุมที่ซับซ้อนขึ้นเหมือนกับอัญมณีประดับยอดมงกุฎ โดยการออกแบบนี้ไม่เพียงสะท้อนวิสัยทัศน์ของ King Power ให้เด่นชัดออกมาเท่านั้น แต่ยังสร้างความประทับใจใหม่ให้กับผู้มาเยือนได้ตลอดทั้งวัน ตามแสงที่ตกกระทบลงไปบนเหลี่ยมมุมที่ซับซ้อนนั้นในแต่ละช่วงเวลาของวันอีกด้วย
ในขณะที่การออกแบบภายในของ Crown Atrium ไม่เพียงมีการใช้แผงกันความร้อนรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่สอดคล้องกับเหลี่ยมมุมของผนังชั้นนอก ซึ่งช่วยลดการส่องผ่านของแสงและสร้างสภาวะน่าสบายเท่านั้น แต่การออกแบบลวดลายบนฝ้าเพดานที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผังเส้นรุ้งเส้นแวง ยังช่วยสื่อถึงการเดินอันเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีของ King Power อีกด้วย โดยนอกจากแนวคิด ‘Curated Maestro’ จะสะท้อนออกมาผ่านการขยายพื้นที่ส่วนร้านค้าปลอดภาษีในชั้นที่ 1 และ 3 ให้มากยิ่งขึ้นแล้ว การปรับเปลี่ยนผังร้านค้า รวมทั้งระบบทางสัญจรภายในใหม่ยังช่วยทำให้ผู้มาจับจ่ายใช้สอยได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย ทั้งนี้ อีกไฮไลท์สำคัญของการปรับโฉม King Power Rangnam ก็คือพื้นที่ส่วน Thai Taste Hub ที่มีการนำรูปทรงสถาปัตยกรรมในกรุงเทพฯ มาจัดวางใหม่เพื่อสื่อถึงถนนและซอย และความเป็น street food ของไทย ซึ่งเมื่อรวมกับการเลือกใช้วัสดุและลวดลายที่มีความหลายหลาย ก็ยิ่งช่วยสะท้อนวัฒนธรรมแบบไทยๆ ออกมาได้อย่างน่าสนใจ
นอกเหนือไปจากการปรับปรุงภาพลักษณ์ในเชิงสถาปัตยกรรมแล้ว อีกส่วนสำคัญที่จะยิ่งเข้ามาช่วยเสริมทัพให้โครงการ King Power Complex ถนนรางน้ำแห่งนี้พิเศษยิ่งกว่าเดิมก็คือการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม โดยไฮไลท์สำคัญนั้นอยู่ที่การรื้อถอนระบบน้ำพุเดิมของโครงการ แล้วแทนที่ด้วยระบบ performing fountain ที่มีหัวจ่ายน้ำมากถึง 448 จุด บนความยาวกว่า 50 เมตร โดยระบบในส่วนนี้นอกจากจะสามารถส่งน้ำขึ้นไปได้สูงถึง 6 เมตร เพื่อใช้สร้างบรรยากาศที่มีสีสันมากขึ้นให้กับโครงการด้วยการออกแบบและฉายภาพงานศิลปะลงบนไปผืนน้ำพุนั้นได้แล้ว เมื่อพื้นที่ดังกล่าวไม่มีการใช้งานก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นลานอเนกประสงค์เพื่อใช้รองรับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย พร้อมๆ กับช่วยเชื่อมสเปซจากภายนอกสู่ภายในให้ต่อเนื่องกันได้อย่างลงตัว