THE AMERICAN HARDWOOD EXPORT COUNCIL (AHEC), BENCHMARK FURNITURE AND THE DESIGN MUSEUM CHALLENGED 9 DESIGNERS TO CREATE A TABLE AND SEATING FOR THEIR PERSONAL USE, TO SUIT THEIR NEW WAYS OF LIVING AND WORKING FROM HOME
PHOTO: DAVID CLEVELAND EXCEPT AS NOTED
(For English, press here)
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Design Museum London พิพิธภัณฑ์เบอร์ต้นๆ ของโลกในด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบร่วมสมัย ได้จัดแสดงนิทรรศการ “Connected” ที่เป็นการรวบรวมผลงานออกแบบชุดโต๊ะและเก้าอี้ จำนวน 9 เซ็ต ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นโดย 9 นักออกแบบชั้นนำระดับนานาชาติ ได้แก่ Ini Archibong (สวิตเซอร์แลนด์), Maria Bruun (เดนมาร์ก), Jaime Hayon (สเปน), Heatherwick Studio (สหราชอาณาจักร), Sebastian Herkner (เยอรมนี), Maria Jeglińska-Adamczewska (โปแลนด์), Sabine Marcelis (เนเธอร์แลนด์), Studiopepe (อิตาลี) และ Studio Swine (สหราชอาณาจักร / ญี่ปุ่น)
จุดเริ่มต้นของโปรเจ็คต์นี้มีที่มาจากโจทย์ยอดฮิตของปี 2020 นั่นคือ “เมื่อ COVID-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนอย่างมีนัยสำคัญ… ” ซึ่ง American Hardwood Export Council (AHEC) Benchmark Furniture และ Design Museum สามพาร์ทเนอร์ผู้ร่วมจัดงาน ได้ชวนให้นักออกแบบทั้ง 9 คน/สตูดิโอ ออกแบบโต๊ะและที่นั่งสำหรับงาน ที่ตอบรับกับการทำงานภายใต้ “วิถีชีวิตแบบใหม่ๆ” หรือการทำงานจากที่บ้านนั่นเอง
วัสดุหลักของการออกแบบชุดโต๊ะทำงานทั้งหมดในโครงการนี้คือ ไม้เนื้อแข็ง 3 ชนิด ประกอบด้วย red oak, maple และ cherry โดยนักออกแบบแต่ละคนจะถูกจับคู่กับช่างฝีมือจาก Benchmark Furniture และต้องร่วมกันผลิตผลงานขึ้นโดยอาศัยเพียงการติดต่อสื่อสารกันในรูปแบบดิจิตอล หรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เท่านั้น สาเหตุที่ทำแบบนี้ก็เพราะต้องการสำรวจว่านักออกแบบและช่างฝีมือจะปรับแนวทางการทำงานของตนอย่างไรในระหว่างการ lock down (อีกสาเหตุก็เพื่อให้นักออกแบบได้นำประสบการณ์ที่ต้องอยู่กับโต๊ะทำงานบ่อยๆ ของตนเองมาปรับใช้กับงานด้วย)
ผลลัพธ์สุดท้ายของการออกแบบ ผลงานแต่ละคอลเลคชั่นนั้นมีความหลากหลายและเป็นส่วนตัวอยู่มาก บางผลงานก็ดูเป็นธรรมชาติเอามากๆ บางผลงานก็มีสีสันโดดเด่น และนี่คือผลงานทั้งหมดในโครงการ Connected
THE KADAMBA GATE
INI ARCHIBONG (SWITZERLAND)
American cherry, red oak and thermally modified red oak
Portrait: Julian Anderson
คอลเลคชั่น Kadamba Gate โดย Ini Archibong เป็นชุดโต๊ะและเก้าอี้สำหรับกลางแจ้ง ซึ่งมีความโดดเด่นอยู่ที่โครงขาโต๊ะที่ทำขึ้นจากไม้แกะสลักหลากหลายขนาด โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากทางเดินหิน Giant’s Causeway ในประเทศไอร์แลนด์เหนือ
โครงขาโต๊ะผลิตขึ้นจากการผสมผสาน เรดโอ๊ค เชอร์รี่ และเรดโอ๊คที่ผ่านความร้อน ท็อปโต๊ะเป็นลามิเนตเคลือบเงาสีสันสดใส และลวดลายสีทองเหลืองบนโต๊ะ ได้รับการออกแบบให้สามารถระบายน้ำได้ดีเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง
NORDIC PIONEER
MARIA BRUUN (DENMARK)
American maple
Portrait: Benita Marcussen
Nordic Pioneer เป็นคอลเลคชั่นที่ Maria Bruun ต้องการนำเสนอให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของงานออกแบบนอร์ดิค โดยเลือกใช้ไม้เพียงชนิดเดียวนั่นคือ American maple รายละเอียดการออกแบบที่สำคัญคือบานพับไม้ที่เชื่อมต่อท็อปโต๊ะเข้ากับไม้กระดานที่สามารถกางออกเพื่อขยายสเปซของโต๊ะ และพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งานแล้ว โดยส่วนขาโต๊ะด้านดังกล่าวจะมีรางสำหรับเคลื่อนขาโต๊ะให้สามารถเลื่อนทแยงเพื่อช่วยรับน้ำหนักไม้กระดานได้ รวมไปถึงรูปลักษณ์โดยรวมที่มีเส้นสายละเอียดอ่อน ตั้งแต่ส่วนรองขาโต๊ะที่ถูกออกแบบให้โค้งมน ที่ตัดกันกับโครงสี่เหลี่ยมของขาโต๊ะได้เป็นอย่างดี
MESAMACHINE
JAIME HAYON (SPAIN)
American cherry
Portrait: James Mollison
Mesamachine เป็นชุดโต๊ะที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย เห็นได้จากหน้าตาที่ดู complex ของมัน ประมาณเดียวกับ “มีดพับสวิส” ที่รองรับการใช้งานที่หลากหลายภายในชิ้นเดียว
คอลเลคชั่นนี้เลือกใช้วัสดุเป็น American cherry โดยมาพร้อมกับเก้าอี้สตูล 2 ตัว ที่ส่วนรองนั่งเจาะลวดลายเป็นรูปใบหน้ายิ้ม เสริมความขี้เล่นให้กับชุดโต๊ะได้เป็นอย่างดี
STEM
HEATHERWICK STUDIO (UK)
American maple
Portrait: Elena Heatherwick
คอลเลคชั่น Stem ที่ออกแบบโดย Heatherwick Studio ได้นำแนวคิด biophilia ที่หากพูดเร็วๆ ก็คือเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ มาใช้เป็นคอนเซ็ปต์หลักในการออกแบบ ด้วยการนำไม้ American maple มาแปรรูปเป็นขาโต๊ะที่ทำหน้าที่เป็นกระถางต้นไม้ไปในตัว
ในการพัฒนาแบบ Thomas Heatherwick ได้ไอเดียมาจากงานฝีมือแกะสลักช้อนไม้ ซึ่งเขาได้นำมันมาใช้ในการทำขาโต๊ะชุดนี้ ส่วนเก้าอี้ เป็นแบบมีพนักพิงที่ตัวเบาะรองก้นและพิงหลังหุ้มด้วยขนสัตว์จากเกาะ Gotland ในประเทศสวีเดน
STAMMTISCH
SEBASTIAN HERKNER (GERMANY)
American red oak and maple
Portrait: Evelyn Dragan
Stammtisch แปลว่า “โต๊ะกลาง” ในภาษาเยอรมัน ซึ่งมีไว้สำหรับเป็นพื้นที่รองรับการพบปะกันระหว่างเพื่อนฝูงหรือครอบครัว โดย Sebastian Herkner ได้นำรูปแบบการใช้งานของ Stammtisch มาปรับใช้ในการออกแบบโต๊ะที่มีหน้าตาค่อนข้าง casual
โต๊ะทำจากไม้ red oak ที่เคลือบสีผิวด้วยน้ำมันธรรมชาติสีขาวด้าน ส่วนถาดขนาดใหญ่สำหรับวางอาหารหรือผลไม้บนโต๊ะ แปรรูปจากไม้ American maple และถาดเล็กๆ กับเก้าอี้สตูล ทำมาจากไม้ red oak ที่ผ่านการเผาไหม้
ARCO
MARIA JEGLINSKA-ADAMCZEWSKA (POLAND)
American cherry
Portrait: Kasia Bobula
คอลเลคชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปแบบประติมากรรม และสถาปัตยกรรมของ Benedictine abbeys โดยแปลออกมาเป็นเส้นโค้งอันโดดเด่นบริเวณขอบโต๊ะที่ทำมาจากไม้ American cherry ทั้งแผ่น ไปจนถึงส่วนมุมของขาโต๊ะที่แผ่นไม้ถูกดัดโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว
ตัวเก้าอี้ได้รับการออกแบบโดยอ้างอิงจากประติมากรรมด้วยการเลียนแบบส่วนโค้งของร่างกาย ซึ่งโดยภาพรวมแล้วดูเรียบง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ
CANDY CUBICLE
SABINE MARCELIS (NETHERLANDS)
American maple
Courtesy of Museum Boijmans Van Beuningen
Candy Cubicle เป็นโต๊ะกึ่งเคาน์เตอร์ที่ Sabine Marcelis หยิบไอเดียมาจากฉากเปิดกระเป๋า suitcase ในภาพยนตร์เรื่อง Pulp Fiction (1994) โดยเป็นโต๊ะที่ติดตั้งล้อเลื่อนให้สามารถพับเปิด-ปิดได้เหมือนกระเป๋าเดินทาง พื้นผิวภายนอกของโต๊ะทำมาจากไม้วีเนียร์ American maple
ใต้โต๊ะมีช่องสำหรับใส่หนังสือและคอมพิวเตอร์แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน มาพร้อมกับเก้าอี้สตูลสีเหลืองกลมที่หน้าตาคล้ายคลึงกับปั๊มน้ำอัตโนมัติอย่างไรอย่างนั้น
PINK MOON
STUDIOPEPE (ITALY)
American maple
Photo: Andrea Ferrari
คอนเซ็ปต์ของคอลเลคชั่น Pink Moon คือการเล่นกับแนวคิดว่าด้วยวัฎจักรของการกำเนิดและเริ่มต้นใหม่ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากพระจันทร์สีชมพูในฤดูใบไม้ผลิ โดยได้หยิบเอารูปทรงพระจันทร์เต็มดวงสีชมพูมาใช้เป็นส่วนของพนักพิงเก้าอี้ ไม้ American maple ถูกหยิบมาใช้ทำส่วนท็อปโต๊ะ ก่อนที่จะใช้เครื่อง CNC เจาะช่องสำหรับเสียบขาโต๊ะซึ่งมีลวดลายที่คอนทราสต์กับท็อปโต๊ะโดยสิ้นเชิง
HUMBLE ADMINISTRATOR’S CHAIR AND TABLE
STUDIO SWINE (UK/JAPAN)
American red oak and cherry
Portrait: Bruno Staub
ชุดโต๊ะและเก้าอี้ชิ้นนี้ Studio Swine สร้างสรรค์ขึ้นในรูปแบบของบัลลังก์ที่หยิบเอาไอเดียการออกแบบสวนจีน และสไตล์ของการออกแบบเก้าอี้ในราชวงศ์หมิงมาใช้
ไม้ American cherry ถูกเลือกมาใช้กับงานชุดนี้เพราะโทนสีคาราเมลของไม้ ให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี รูปทรงโค้งงอของที่พักแขนและพนักพิงแปรรูปขึ้นจากไม้ American red oak
Connected จัดขึ้นที่ Design Museum ลอนดอน ระหว่างวันที่ 11 กันยายน – 11 ตุลาคม 2563 โดยเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล London Design Festival 2020
สามารถรับชม virtual installation นิทรรศการออนไลน์เสมือนจริงได้ทาง https://www.connectedbydesign.online/