ENTER PROJECTS ASIA

art4d พูดคุยกับ Enter Projects Asia ถึงแนวทางการออกแบบของสตูดิโอที่เน้นนำวัสดุอย่าง ‘หวาย’ มาผนวกรวมกับเทคโนโลยี แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของการใช้วัสดุท้องถิ่นในงานออกแบบร่วมสมัย

TEXT: RATCHADAPORN HEMJINDA
PHOTO COURTESY OF ENTER PROJECTS ASIA

(For English, press here) 

เมื่อปี 2020 โปรเจ็คต์ Vikasa สตูดิโอโยคะ โดย Enter Projects Asia ได้รับรางวัลชนะเลิศจากรายการ Dezeen Awards ในสาขา Leisure and Wellness Interior นอกจากในแง่ visual ที่โดดเด่นแล้ว งานออกแบบจากวัสดุหวายขนาดใหญ่ชิ้นนี้ยังสอดแทรกไปด้วย approach ในการทำงานที่มีความเฉพาะตัวของสตูดิโอ นั่นคือการนำเครื่องไม้เครื่องมือสมัยใหม่ มาทำงานกับวัสดุและช่างฝีมือท้องถิ่นในไทย art4d มีโอกาสสัมภาษณ์ Enter Projects Asia ถึงปรัชญาการทำงานของสตูดิโอออกแบบสัญชาติออสเตรเลียที่ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่บนเกาะภูเก็ต ประเทศไทย

Enter Projects Asia เริ่่มมีงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2004 กับโปรเจ็คต์ออกแบบเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ในกรุงเทพฯ ก่อนจะมีโปรเจ็คต์ออกแบบขนาดใหญ่ในสเกล masterplan ในภูเก็ต “มันเป็นโปรเจ็คต์ที่น่าสนใจมาก แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปต่อ” Patrick Keane ไดเร็คเตอร์ของ Enter Projects Asia บอกกับเรา ก่อนจะขยายความต่อว่าตอนนั้นเองที่เขาเห็นโอกาสและศักยภาพที่จะตั้งออฟฟิศที่เมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเปิดกว้างของประเทศนี้ “ผมเพิ่งเคยได้ทำงาน และนำเสนอแบบที่ไม่ต้องเจอกับข้อจำกัดบางอย่างที่ประเทศอื่นๆ มีก็คราวนี้” 

สโคปการทำงานของ Enter Projects Asia ค่อนข้างหลากหลายและเปิดกว้างเช่นกัน จนถึงปัจจุบันนี้พวกเขามีงานออกแบบภายในรีสอร์ท ภัตตาคารบนดาดฟ้าโรงแรม co-working space ไปจนถึง façade และ masterplan โดยมีงาน Vikasa (ในหมวดหมู่ health & wellness) ที่เสร็จเป็นลำดับแรกในเดือนมกราคม 2020 เป็นโปรเจ็คต์ kick off ของสตูดิโอในไทยอันนำมาสู่การลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ สิ่งที่เราคิดว่าเป็นคาแร็คเตอร์การทำงานของพวกเขาคงจะเป็นความก้ำกึ่งระหว่างการทำงานสถาปัตยกรรม ออกแบบภายใน และงานประติมากรรม

Project Rattan คืออีกโปรเจ็คต์ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน Patrick เล่าว่ามันเริ่มมาจากตอน lockdown ที่ทุกอย่างหยุดชะงัก “ตอนนั้น เป็นช่วงเวลาที่ผมตัดสินใจมุ่งไปหาความเป็นท้องถิ่น และลงไปสำรวจวัสดุและภูมิปัญญาพื้นถื่นในประเทศไทย” พวกเขาได้ทำงานเข้ากับ “หวาย” ระหว่างการทำโปรเจ็คต์ Vikasa และตัดสินใจทำงานที่สเกลเล็กลงมาอย่างเฟอร์นิเจอร์

“หนึ่งในนั้นคือ Infinity Collection ผมคิดว่าหวายเป็นหนึ่งในวัสดุที่ยั่งยืนที่สุดในโลก มันหาได้ง่่ายในภูมิภาคนี้ และให้สัมผัสที่ดีกว่าพลาสติกหรือวัสดุสังเคราะห์ชนิดอื่นๆ รวมถึงยังเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้เองแทบจะ 100%” แทนที่จะปล่อยให้ช่างฝีมืองานหวายจมอยู่กับตระกร้า ตะกร้อ หรือเฟอร์นิเจอร์งานหวายที่หาได้ทั่วไปตามตลาดนัดชานเมือง Patrick ชวนพวกเขามาทำงานกับทีม อีกทั้งด้วยคุณสมบัติของหวายที่มีความยืดหยุ่นสามารถขึ้นรูปเป็นทรงเรขาคณิตได้ง่าย นั่นจึงเป็นโอกาสให้เกิดการนำเทคโนโลยีการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์มาสร้าง organic form จนเสร็จออกมาเป็นผลงานที่มีรูปลักษณ์พิเศษคล้ายประติมากรรม

โปรเจ็คต์ล่าสุดอย่าง “SPICE & BARLEY Riverside” เป็นงานหวายที่สูงจากพื้นถึงเพดานถึง 9 เมตร “เราโชคดีที่ได้ลูกค้าที่เชื่อใจเรามาก คือจริงๆ แล้ว ผู้รับเหมาอยากให้เราใช้เหล็กกับพลาสติกเป็นเสามากกว่า แต่สำหรับเรานั่นเป็นตัวเลือกที่ผิด และมีราคาที่สูงมาก” พวกเขาผลักดันแนวความคิดนี้ด้วยการขึ้นรูป 3 มิติ ด้วยซอฟทแวร์และทำโมเดลกายภาพไปอธิบายเพื่อให้โรงงานเข้าใจว่าทุกๆ ส่วนมันจะประกอบเข้ากันได้อย่างไรจนสร้างจริงได้ในที่สุด

“สำหรับผมแล้ว งานหวายมันไม่ได้เป็นแค่ทักษะ แต่คือภูมิปัญญาที่สั่งสมมาจากรุ่นสู่รุ่น ประเพณีเหล่านี้ไม่เคยสูญหายไปจากประเทศไทย แต่ปัญหาคือปัจจุบันหวายถูกตีราคาโดยพลาสติกคุณภาพต่ำที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งสร้างผลเสียต่อธรรมชาติ และโลกของเรา” นอกจากคุณสมบัติและความยั่งยืน อีกสิ่งสำคัญที่วัสดุชนิดนี้มีคือ “เรื่องราว” ประสบการณ์ที่ดีไม่ได้เกิดจากแค่ visual เท่านั้นแต่ต้องการความหมายที่ดีด้วย ในก้าวต่อๆ ไปของ Enter Projects Asia นั้น Patrick ทิ้งท้ายว่า พวกเขากำลังพยายามเอาเทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ๆ มาใช้กับงานศิลปะและงานฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์สามมิติ หรือระบบการก่อสร้างแบบ modular และ prefabrication ซึ่งเน้นการเอาชิ้นส่วนไปประกอบหน้างาน ซึ่่งก็คงต้องรอดูต่อไปว่า Enter Projects Asia จะมีผลงานอะไรออกมาทำให้เราได้ติดตามอีกบ้าง

enterprojects.net
projectrattan.asia