เมื่อโรงแรมต้องมาอยู่บนไซต์แคบลึก 324PRAXIS จึงต้องคิดหาวิธีให้ทุกห้องพักได้รับวิว ‘ภายนอก’ และยังสามารถรักษาบรรยากาศเงียบสงบของการพักผ่อนภายในโรงแรมแห่งนี้
TEXT: NATHATAI TANGCHADAKORN
PHOTO COURTESY OF 324PRAXIS
(For English, press here)
Sep’on Heartfulness Centre เป็นโรงแรมที่มีพื้นที่ใช้สอยเพียง 600 ตารางเมตร ในนคร Nha Trang หรือญาจาง ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวทางตอนใต้ของเวียดนาม ด้วยภูมิประเทศติดทะเลซึ่งประกอบด้วยหาดทรายขาวทอดยาวไกลสุดสายตา สวนสนุกพร้อมกระเช้าลอยฟ้า แหล่งนาเกลือ รวมถึงศาสนสถานเก่าแก่อีกหลายแห่ง ให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสสัมผัสความสวยงามของศิลปะ ช่วงหลายปีมานี้ ญาจางจึงเติบโตขึ้นจากการเข้ามาลงทุนในธุรกิจรีสอร์ทและโรงแรมคุณภาพสูง
โรงแรมนี้ไม่ได้ออกแบบให้เป็นเพียงโรงแรมที่เหล่านักท่องเที่ยวเข้ามาวางกระเป๋าสัมภาระแล้วจากไป สตูดิโอ 324PRAXIS ผู้ออกแบบตั้งใจให้โรงแรมแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างความอึกทึกวุ่นวายตามประสาเมืองท่องเที่ยวเข้ากับบรรยากาศเรียบง่ายของการพักผ่อน ทั้งยังต้องการให้ผู้เข้าพักได้เริ่มต้นเรียนรู้ที่จะซึมซับความหมายของสิ่งรอบตัว มีเวลาหลบจากความวุ่นวายกลับมาสู่ธรรมชาติในวันหยุด อาคารต้อนรับผู้คนด้วยหน้าอาคารที่บิดเอียง เปิดพื้นที่โล่งให้ผู้มาเยือนไม่รู้สึกว่าถูกอาคารบีบรัดจนอึดอัดในชั้นล่าง ขณะเดียวกันการบิดนี้นอกจากเชิญชวนแล้วยังทำให้หน้าตาของอาคารถูกเผยออกมาสู่ถนนมากขึ้น แทนที่เหล่าผู้สัญจรจะมองเห็นเพียงด้านหน้าด้านเดียว ก็สามารถชมรูปลักษณ์เต็มๆ ของระเบียงไม้ของห้องพักที่เรียงตัวกันอยู่ไปด้วย เมื่อเข้ามาภายในสถาปนิกใช้สีเขียวของต้นไม้ที่แทรกตัวอยู่ทั่วอาคารมาช่วยสร้างบรรยากาศเงียบสงบ โดยมีพื้นผิวคอนกรีต เสาเหล็ก และไม้ที่ปราศจากสิ่งเติมแต่งเป็นตัวช่วยเสริมความเรียบนิ่ง
Section
ลักษณะผังอาคารถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนตามตอนลึกด้วยบันได 2 ตัว ที่คั่นอยู่ระหว่างพื้นที่แต่ละส่วน คือ บล็อก A ที่ติดถนน บล็อก B ตรงกลาง และบล็อก C ที่อยู่ด้านในสุด 324PRAXIS นำหลัก Biophilic Design ซึ่งเป็นการออกแบบที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของมนุษย์ผ่านการเชื่อมโยงให้ผู้คนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ มาเป็นแรงจูงใจในการสร้างพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดรับสายลมและแสงแดดบริเวณกลางอาคาร ด้วยการดึงบล็อก B และ C ออกจากกันจนเกิดช่องเปิดโล่งที่ทะลุกันในทางตั้งเป็น air well และออกแบบทางเชื่อมให้โปร่งราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ภายนอกอาคาร ทำให้ห้องพักในทั้ง 2 บล็อกนี้ยังได้รับวิวภายนอกและมีโอกาสเปิดหน้าต่างรับแสงธรรมชาติแม้จะตั้งอยู่ในไซต์แคบลึก
พื้นที่ใช้สอยของอาคารก็เริ่มอย่างง่ายๆ ด้วยร้านกาแฟและบาร์ที่ชั้นล่าง โดยโซนติดถนนหรือบล็อก A เป็นที่ตั้งของห้องพักพร้อมระเบียงชมเมือง บล็อก B ตรงกลางอาคารนั้นเป็นโซนที่มีความพิเศษกว่าใคร เพราะมีทั้งชั้นที่เป็นห้องพักและชั้นที่เป็น facilities ของโรงแรม ซึ่ง facilities เหล่านี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละชั้น ได้แก่ มุมอ่านหนังสือเล็กๆ บนชั้น 2 ห้องสำหรับกิจกรรมโยคะบนชั้น 5 และห้องทำสมาธิที่ตั้งอยู่ด้านบนสุดที่ทั้งห่างไกลจากความวุ่นวายด้านล่างและได้วิวคอร์ทภายใน ในขณะที่บล็อก C ก็เป็นที่ตั้งของห้องพักอีกรูปแบบหนึ่ง ชั้นบนสุดของบล็อกนี้ยังมีห้องพัก duplex type ที่มีโถง double space ของตัวเองอีกด้วย
บรรยากาศเงียบสงบราวกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทั้งที่อาคารมีความโปร่งโล่งถือเป็นอุดมคติของอาคารหลายหลัง 324PRAXIS ร้อยเรียงแต่ละพื้นที่จนเกิดเป็นสภาพแวดล้อมและบรรยากาศเฉพาะตัวขึ้น สิ่งเหล่านี้เองที่ทำหน้าที่เป็น ‘กำแพง’ ที่จับต้องไม่ได้คอยห่อหุ้มอาคารอยู่ บรรยากาศและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ เปลี่ยนแปลงพื้นที่ที่เคยว่างเปล่ามาเป็นพื้นที่ปิดล้อมอันเงียบสงบสำหรับพักผ่อนและใช้เวลากับตัวเองให้มากขึ้น
