ด้วยลักษณะการออกแบบสุดจัดจ้านและมีเอกลักษณ์จาก Jongkim design studio คำว่า COOL ในชื่อของโรงแรมริมหาดแห่งเมืองปูซาน คงไม่ได้เป็นการโอ้อวดไปเท่านั้น
TEXT: PATTIYA HARPUTPONG
PHOTO: STUDIO SIM
(For English, press here)
ใครก็ตามที่จะบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ ‘cool’ ที่สุดนั้น คงต้องใช้ความมั่นใจในระดับหนึ่งเลยทีเดียว และเมื่อโรงแรมแห่งหนึ่งเรียกตัวเองว่า ‘The Coolest Hotel’ นั้นก็ย่อมพบกับความคาดหวังและอยากรู้อยากเห็นจากสาธารณชน ตามมาด้วยคำถามบางข้อที่ชวนให้คิดตามมา เช่น ‘แบบไหนกันแน่ถึงเรียกว่า cool’ ‘โรงแรมที่อ้างว่าตัวเอง cool ที่สุดนี้หน้าตาเป็นอย่างไร’ และ ‘จริงๆ แล้ว cool มั้ย’ ประเด็นนี้อาจจะเป็นสิ่งแรกเลย ที่ทำให้ The Coolest Hotel น่าสนใจ
โรงแรมที่ประกาศตนเองว่า cool ที่สุดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองปูซาน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองในเกาหลีใต้ เมืองแห่งนี้น่าท่องเที่ยวที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมนั้นอาจมีอากาศสดใสและอบอุ่นมาก จึงเป็นที่มาของฉายา ‘เมืองหลวงแห่งฤดูร้อนของเกาหลี’ ปูซานเป็นเมืองที่มีสีสัน ไม่ว่าในทางเปรียบเปรยหรือตามความเป็นจริง เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่แห่งการแสวงบุญของเหล่านักชิมทั้งหลายที่เสาะหาอาหารทะเลสดจากแหล่งที่มา อีกทั้งเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมและทิวทัศน์ธรรมชาติ และที่แน่นอนที่สุดคือเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังหาดทรายและชายฝั่งที่สวยงามขึ้นชื่อ นักท่องเที่ยวนานาชาติมากกว่าครึ่งล้านคนเลือกปูซานเป็นจุดหมายปลายทางหลักในแต่ละปี เมืองแห่งนี้จึงมีทุกสิ่งสำหรับทุกคน ซึ่งแน่นอนว่ามีโรงแรมจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งขนาดเล็กและใหญ่ โรงแรมที่เกิดขึ้นใหม่จะต้องโดดเด่นสะดุดตาและมีเอกลักษณ์เพื่อจะมีที่ยืน ไม่อย่างนั้นก็คงเป็นได้แค่โรงแรมธรรมดาอีกแห่งหนึ่งในเมืองนี้
หาดแฮอึนแดในปูซานมีชื่อเสียงจากทรายสีขาวสวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศที่แข่งขันสูงของโรงแรมในย่านนี้ Jongkim design studio ตัดสินใจนำแนวคิด ‘unconventional diversity, individuality and showing-off’ มาประกาศจุดยืนบนชายหาดด้วยสีสันสดใส หากมองโดยผิวเผินแล้ว สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ The Coolest Hotel ที่ทำให้โรงแรมแห่งนี้ไม่เหมือนใครก็คือการใช้สีสันเจิดจ้าในการออกแบบตกแต่งภายใน จากทางเข้าไปยังเลานจ์ต้อนรับ ต่อไปยังห้องพัก และสระว่ายน้ำบนดาดฟ้า ทุกพื้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศของการพักผ่อนให้ไม่ธรรมดา ที่ไม่เพียงแตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน แต่ยังแตกต่างจากสถานที่อื่นๆ ในเมืองปูซานอีกด้วย
หนึ่งในหลายๆ ประเด็นทำให้โรงแรมแห่งนี้ต่างไปจากโรงแรมอื่นก็คือขนาดของโครงการ อาคารของโรงแรมมีเพียง 12 ชั้น แบ่งเป็นห้องพัก 53 ห้อง การเป็นโรงแรมบูติกในทำเลที่เต็มไปด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาวทำให้ The Coolest Hotel มีข้อได้เปรียบในการออกแบบเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอายุน้อยในช่วงอายุ 20 ถึง 30+ ปี ด้วยการออกแบบที่ดูสนุกสนานและมีชีวิตชีวา และดีไซน์ที่แตกต่างกันไปใน 5 ประเภทห้องพัก ยังไม่รวมถึงการใช้สีสันที่แตกต่างกันในแต่ละชั้นของอาคาร ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้ประสบการณ์การเข้าพักในแต่ละครั้งไม่ซ้ำกันแม้ว่าผู้เข้าพักจะเลือกห้องประเภทเดิมอีกก็ตาม นอกจากนี้ ห้องพักทุกห้องยังได้รับการออกแบบให้หันหน้าสู่ทะเล ซึ่งเป็นเหมือนไฟต์บังคับในการใช้ทำเลที่ตั้งให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ชั้นแรกของโรงแรมเป็นทางเข้าหลักจากระดับถนน การออกแบบทางเข้าในสไตล์โมเดิร์นนิสต์ที่ดูมินิมอล สร้างความแตกต่างไปจากสิ่งที่ผู้คนคาดหวังจากโรงแรมทั่วไปซึ่งมักจะใช้วัสดุที่ดูเหมือนโรงแรม เช่น โทนสีที่เป็นกลาง และพื้นผิวที่สงบเสงี่ยมดูหรูหรา ในทางกลับกัน สีเหลืองสดใสที่จับคู่กับแผงแสงสว่างบนเพดานสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคารได้อย่างดี
ดีไซเนอร์ออกแบบเลานจ์ต้อนรับและคาเฟ่บนชั้น 2 ให้มีหน้าต่างกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ช่วยให้แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาได้อย่างเต็มที่ และช่วยให้ผู้เข้าพักได้ชมวิวทะเลแบบเต็มๆ อีกทั้งยังช่วยให้ภายนอกสามารถเห็นพื้นที่ภายในที่สว่างเรืองดูเชื้อเชิญ ในโปรเจ็กต์นี้ การตกแต่งสไตล์ mid-century ได้รับการปัดฝุ่นบอกเล่าใหม่ด้วยวัสดุและชุดสีที่ทันสมัย Jongkim design studio ทำการจับคู่วัสดุที่มีผิวสัมผัสธรรมชาติ เช่น กระเบื้องดินเผาและเพดานหวายสานเข้ากับสีสันจัดจ้าน ทำให้เกิดบรรยากาศของความกลมกลืนที่ดูตื่นเต้นและผ่อนคลายไปในเวลาเดียวกัน ดูเหนือกาลเวลาแต่ก็ใหม่ นอกจากนี้ ฝ้าเพดานที่มีรูพรุนจากการสานยังซ่อนแสงของไฟหลืบไว้ภายใน ช่วยให้พื้นที่ด้านบนรู้สึกโปร่ง เบาสบาย
เพื่อยกระดับความ cool ขึ้นไปอีกขั้น เครื่องเรือนหุ้มเบาะนั่งในโทนสีอัญมณีอย่างฟ้าและเขียวเข้มถูกจัดวางลงในพื้นที่ ช่วยเติมสีสันบรรยากาศให้เลานจ์ต้อนรับมีความสมดุล โดยนำสีของท้องทะเลมาใช้ สร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและดูสนุกสนาน
ห้องพักทั้งหมด 53 ห้อง สามารถมองเห็นวิวทะเลได้เต็มที่อย่างไม่มีสิ่งใดบดบัง ทุกห้องได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีที่สุดในทำเลให้กับแขกผู้เข้าพัก โดยมีห้องพัก 5 ประเภทให้เลือกเข้าพัก แต่ละ type มีผังและขนาดไม่เหมือนกันและมีสีสันแตกต่างกันออกไป ลวดลายสนุกสนานที่เห็นในเลานจ์ต้อนรับยังคงตามมาปรากฏในห้องพักอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในคราวนี้มารูปแบบที่ลดความจัดจ้านลง เพื่อให้เหมาะกับการพักผ่อนคลายร้อน แต่ยังคงความโดดเด่นไม่จำเจ แน่นอนว่าผู้ออกแบบนำเอาสไตล์ mid-century ขวัญใจมหาชนมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบและการเลือกเฟอร์นิเจอร์ในห้องพักทุกประเภท ทำให้ห้องพักดูทันสมัยแต่ก็สะดวกสบาย
คำว่า ‘cool’ นอกเหนือจากการเป็นคำคุณศัพท์ที่ใช้อธิบายอุณหภูมิหากแปลตามตัวอักษรแล้ว ยังแปลว่า ไม่มีความตระหนกหรือความกังวลอีกด้วย แม้ว่า ‘cool’ มักจะหมายถึงความมั่นใจไร้กังวล และความไม่กลัวที่จะเป็นตัวของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีกฏตายตัวที่สามารถตีกรอบได้ว่า ความ ‘cool’ ต้องมีหน้าตาเฉพาะเจาะจงอย่างไร
บางที The Coolest Hotel อาจไม่ได้ ‘cool’ ในแง่ของอุณหภูมิหรือความผ่อนคลายทางสายตา แต่สิ่งที่ ‘cool’ ที่สุดเกี่ยวกับ The Coolest Hotel อาจจะเป็นความเก๋ ความไม่กลัวที่จะแตกต่าง อย่างที่ Jongkim design studio พูดถึงงานออกแบบของพวกเขาว่า – ‘unconventional diversity, individuality, and showing off’