บันทึกสุดท้ายที่เก็บภาพของอาคารและร่องรอยการใช้ชีวิตภายในของ Nakagin Capsule Tower ซึ่งกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของ Metabolist movement
TEXT: NATHATAI TANGCHADAKORN
PHOTO: KETSIREE WONGWAN
(For English, press here)
Nakagin Capsule Tower: The Last Record
Nakagin Capsule Tower Building Preservation and Regeneration Project
Soshisha publishing, 2022
223 x 199 mm
204 pages
ISBN 978-479-422-559-7
อย่างที่ชื่อหนังสือบอกไว้ Nakagin Capsule Tower: The Last Record คือหนังสือที่เป็นบันทึกสุดท้ายก่อนการรื้อ Nakagin Capsule Tower อาคารระดับตำนานที่ออกแบบโดยสถาปนิก Kisho Kurokawa และสร้างเสร็จในปี 1972
ตัวสถาปัตยกรรมของ Nakagin Capsule Tower นั้นมีความสำคัญในแง่คุณค่าเชิงประวัติศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาคารซึ่งสะท้อนแนวคิด Metabolist Movement ที่นำเสนอความคิดในการพัฒนากลุ่มอาคารขนาดใหญ่หรือ megastructure สำหรับเมืองในอนาคต โดยที่ Kurokawa เองก็เป็นหนึ่งในผู้นำคนสำคัญของแนวคิดนี้ Kurokawa ยังได้ทดลองแนวคิดที่เรียกว่า capsule architecture คือสถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ที่มีหน่วยย่อยเป็นลักษณะแคปซูล ซึ่งนอกจากจะนำมาใช้ในการออกแบบพาวิลเลียนในงาน Expo ’70 ที่โอซาก้าแล้ว Kurokawa ยังออกแบบบ้านด้วยแนวคิดเดียวกันที่เรียกว่า capsule house งานของ Kurokawa สร้างความประทับใจให้กับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่าง Nakagin เป็นอย่างมาก จนได้ว่าจ้างให้ Kurokawa ออกแบบอาคาร mixed-use ใจกลางกรุงโตเกียวให้กับบริษัท
50 ปีผ่านไปหลังจากอาคารสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1972 Nakagin Capsule Tower ก็ต้องกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปจริงๆ เมื่ออาคารถูกรื้อทิ้งหลังจากที่ผ่านการประท้วงและเกิดแคมเปญ ’save Nakagin’ ไปหลายรอบ แต่ในที่สุดก็ต้านไม่ไหว หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์ในปี 2022 เพื่อเสนอบันทึกประวัติศาสตร์หน้าสุดท้ายของ Nakagin Capsule Tower ภายในเล่มประกอบด้วยภาพถ่ายกว่า 400 ภาพ ครอบคลุมภาพของแคปซูล 114 ยูนิต ของอาคาร A และอาคาร B มีภาพถ่ายที่เป็นไฮไลต์แสดงรายละเอียดของการอยู่อาศัยของบางยูนิตพร้อมแบบแปลน ซึ่งฉายภาพให้เห็นถึงการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของคนที่อยู่อาศัยในอาคารในช่วงสุดท้าย
หนังสือเล่มนี้จัดทำโดยโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูอาคารที่ชื่อว่า Nakagin Capsule Tower Preservation and Restoration Project ซึ่งนอกจากหนังสือบันทึกสุดท้ายเล่มนี้แล้ว ทางโครงการยังได้อนุรักษ์แคปซูล 23 แห่ง รวมถึงยูนิต A1302 ซึ่งได้รับการเก็บรักษาโดยพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ซานฟรานซิสโก จาก 23 แคปซูลที่อนุรักษ์ไว้ มี 16 แคปซูลได้จุดหมายปลายทางใหม่ แคปซูล 2 ยูนิตได้ถูกนำไปจัดแสดงถาวร และในปีนี้แคปซูลอีก 5 ยูนิตจะถูกนำไปติดตั้งที่ชายฝั่งในจังหวัด Kanagawa ทางใต้ของกรุงโตเกียว