ชวนอ่านแนวคิดของ HAKO บ้านสำเร็จรูปแนวคิดญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่เลือกปรับฟังก์ชันได้ผ่านโปรแกรมออกแบบและคำนวณราคา โดย MOOD Living
TEXT & PHOTO COURTESY OF MOOD LIVING
(For English, press here)
ในยุคที่ทุกอย่างถูกขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็วในการสื่อสาร นวัตกรรมล้ำยุค และแนวคิดแปลกใหม่ เราไม่อาจปฏิเสธว่าการได้ค้นพบและบุกเบิกประสบการณ์นำมาซึ่งความตื่นเต้นเสมอ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมาย เช่น 3D printing ที่ใช้กับคอนกรีตและดินได้ ในอนาคตอีกไม่ไกลการก่อสร้างอาคารก็คงจะไม่ถูกจำกัดด้วยคำว่า ‘ก่อสร้าง’ อีกต่อไป หรือหากลองมองสิ่งที่ใกล้ตัวหน่อย ความจริงตอนนี้ก็มีวิธีให้เราเลือกใช้ในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก เพียงแต่มันจะตรงกับความต้องการงบประมาณหรือตอบโจทย์เราได้หรือเปล่า
อีกทางเลือกหนึ่งคือโครงสร้างผลิตสำเร็จจากโรงงาน หรือ prefab ที่เราใช้กันมาช้านานและมีการพัฒนาไปข้างหน้าทุกวัน ในคราวนี้ art4d จะพาไปสำรวจแนวคิดของซีรีส์บ้านสำเร็จรูป HAKO ที่ออกแบบโดยสถาปนิก โดยความหมายของคำว่า HAKO ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่ากล่อง ซึ่งก็ตรงกับจุดเด่นของบ้านซีรีส์นี้เป็นอย่างดี แต่บ้านกับกล่องสัมพันธ์กันอย่างไร และมันมีอะไรดีและน่าสนใจบ้าง ชวนคุยกับเอก-กฤตภัค กุลบุศย์ Design Development Director จาก MOOD Living
ทำไมต้องบ้านสำเร็จรูป?
“ด้วยความที่เราเป็นสถาปนิกที่ออกแบบและดูแลงานก่อสร้างทั้งบ้านลูกค้าและบ้านตัวเอง เราพบว่าการสร้างและการแต่งบ้านเป็นงานที่ยากและใช้เวลามาก ทั้งในฐานะเจ้าของบ้านและสถาปนิก ด้วยปัญหาต่างๆระหว่างออกแบบและก่อสร้างที่อาจกินระยะเวลาหลายปี จนมาถึงจุดนึงที่คิดว่าคงจะดีไม่น้อย ถ้าเราสามารถมีบ้านที่เสร็จสวยได้มาตรฐาน ยกมาวางบนที่ดินแล้วเข้าอยู่ได้เลยเป็นทางเลือกอีกทาง” เอกเริ่มอธิบายให้เราฟัง
ข้อดีคือของบ้านสำเร็จรูปคือความรวดเร็วในการผลิตที่เร็วขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับการก่อสร้างบ้านด้วยกระบวนการตามปกติบนไซต์งาน บ้านสำเร็จรูปผลิตเสร็จจากโรงงานจึงยกย้ายได้ทั้งหลัง ทำให้หน้างานไม่เลอะเทอะ เจ้าของและเพื่อนบ้านก็ไม่ต้องทนกับเสียงและฝุ่นที่รบกวนเป็นเวลานาน อีกทั้งถ้าหากความต้องการในการใช้งานพื้นที่เปลี่ยนไปในอนาคต ก็ยังสามารถย้ายไปที่อื่นต่อได้ด้วย
โมดูลาร์ดีไซน์สไตล์ญี่ปุ่น
ซีรีส์ HAKO ถูกพัฒนาให้แตกต่างจากบ้านสำเร็จรูปอื่นๆ ที่เคยมีมา หนึ่งในแนวคิดหลักที่นำมาใช้คือ ‘โมดูลาร์ดีไซน์’ โดยใช้รูปแบบโมดูลาร์ร่วมกับซอฟต์แวร์เฉพาะทาง ทำให้ผู้ที่สนใจสามารถทดลองประกอบฟังก์ชันได้ตามการใช้งานจริง โดยมีเครื่องมือช่วยคำนวณพื้นที่บ้านและราคาไปพร้อมกัน สำหรับส่วนนี้เอกกล่าวว่า “การที่เราออกแบบแต่ละฟังก์ชันของบ้านแยกเป็นโมดูล และให้ลูกค้าสามารถเลือกโมดูลที่ต้องการมาประกอบกันเข้าเป็นบ้านได้เอง คล้ายๆ กับเอาบล็อคมาเรียงต่อกัน ทำให้ลูกค้าได้แบบบ้านที่ตรงกับความต้องการที่สุด”
ด้วยความที่ตัวบ้านแต่ละโมดูลมีขนาดกะทัดรัดเพื่อความสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ผู้ออกแบบจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่ใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งแนวคิดการออกแบบของบ้านญี่ปุ่นสมัยใหม่ (Modern Japanese House) สามารถเข้ามาตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องการใช้สอยทุกพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ และความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนการใช้งานภายในโมดูล เช่น กลางวันใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน ส่วนกลางคืนจะใช้เป็นพื้นที่นอนก็ได้ เป็นต้น
ทั้งสองเรื่องที่กล่าวมาเป็นไปได้ด้วยการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่ผ่านการคิดร่วมกับนักออกแบบชาวญี่ปุ่นให้มีระดับความสูงที่เหมาะสม และเอื้อต่อรูปแบบการใช้ชีวิตในแนวราบ ความสูงที่จำกัดของโมดูลจึงไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัด หากแต่ให้ความรู้สึกพอเหมาะพอดีแก่ผู้อยู่อาศัย
วัสดุที่ง่ายต่อการดูแลรักษาและมีความสวยงาม
HAKO คำนึงถึงเรื่องการดูแลรักษาเป็นเรื่องสำคัญ ไม้เป็นวัสดุที่สวยงามแต่ขณะเดียวกันก็ต้องการการบำรุงรักษาอย่างถี่ถ้วน ยิ่งเจออากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา แม้หลายคนจะอยากมีบ้านไม้ก็คงเคยเกิดความกังวลเรื่องการดูแลกันบ้าง บ้านสำเร็จรูปซีรีส์นี้จึงเลือกใช้วัสดุสังเคราะห์คุณภาพสูงที่ทนทานต่อสภาพอากาศ
“เราคิดว่าปัจจุบันวัสดุสังเคราะห์ทดแทนไม้มีคุณภาพดีขึ้นมากและมีความสวยงามใกล้เคียงไม้ขึ้นเรื่อยๆ เราได้เลือกสรรวัสดุทดแทนไม้ที่ดีที่สุด ตั้งแต่ พื้น ผนัง ฝ้าเพดาน ประตูไม้สังเคราะห์ รวมไปถึงอลูมิเนียม เมทัลชีท และลามิเนตลายไม้ เพื่อให้ได้โทนของบ้านที่อบอุ่น และยังสวยทนนาน ดูแลรักษาง่าย”
HAKO เป็นบ้านที่ MOOD Living ตั้งใจออกแบบและพัฒนาในทุกรายละเอียด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับใครที่กำลังมองหาบ้านสำเร็จรูปคุณภาพสูง ในรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายและคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยของทุกพื้นที่อย่างคุ้มค่า “เราเชื่อว่าพื้นที่เล็กหรือใหญ่ไม่ได้เป็นตัวบอกว่าจะอยู่สบายหรือไม่ แต่อยู่ที่เราจะออกแบบพื้นที่ให้ใช้งานได้อย่างสบายหรือไม่ต่างหาก” เอกทิ้งท้าย
สนใจเข้าชมบ้านตัวอย่าง HAKO ที่บางใหญ่ นนทบุรี ห่างจากเซ็นทรัลเวสเกตประมาณ10 นาที โดยนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าชมได้ในวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์เวลา 10.00 – 18.00 น. ทาง Line Official @MoodLiving