art4d พาสนทนากับ ธนา ทิพย์เจริญ จากบริษัท พิมธา จำกัด หรือที่หลายคนอาจจะรู้จักในชื่อของ Thailand Bamboo โรงงานไม้ไผ่ที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติของวัสดุไม้ไผ่กับสถาปัตยกรรมร่วมสมัย
TEXT: CHIWIN LAOKETKIT
PHOTO: WORAPAS DUSADEEWIJAI EXCEPT AS NOTED
(For English, press here)
ไผ่เป็นวัสดุที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียมาอย่างยาวนาน ทั้งในรูปแบบข้าวของเครื่องใช้และองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม แต่ทว่ามักถูกประเมินในฐานะวัสดุที่มีมูลค่าด้อยกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ จนเมื่อเร็วๆ นี้ การปรับใช้วัสดุเพื่อความยั่งยืนได้กลับมาเป็นเทรนด์ ซึ่งทำให้ผู้คนตระหนักถึงการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและหวนกลับมาเลือกสรรวัสดุในท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง ด้วยเหตุผลว่าไผ่เป็นวัสดุที่สามารถปรับใช้ได้สะดวกและหาได้ง่ายจากท้องถิ่น ซึ่งผลงานของสถาปนิกและนักออกแบบตกแต่งภายในที่สนใจความยั่งยืนได้สร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานดีไซน์ที่ร่วมสมัย หลายโปรเจกต์มีความโดดเด่นทั้งในเชิงเทคนิคการก่อสร้างและตอบโจทย์การออกแบบ จนนำมาสู่การแกะรอยกลเม็ดต่องานไม้
ในด้านการพัฒนาวัสดุประเภทไม้ไผ่ในประเทศไทย ธนา ทิพย์เจริญ จากบริษัท พิมธา จำกัด หรือที่หลายคนอาจจะรู้จักในชื่อของ Thailand Bamboo ได้เล่าให้ art4d ฟังว่า การก่อร่างสร้างตัวในอุตสาหกรรมวัสดุไม้ไผ่ เพื่อตอบสนองความต้องการในการก่อสร้างโครงการต่างๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศกว่า 27 ปีของ Thailand Bamboo มาจากเบื้องหลังของชีวิตที่เติบโตมาท่ามกลางสวนไผ่ในจังหวัดปราจีนบุรี จึงคิดหยิบจับสิ่งใกล้ตัวเหล่านี้ ออกมาเป็นวัสดุทางเลือกที่ใช้ในการก่อสร้างเพื่อความสวยงามและเป็นสิ่งที่คงทนถาวรของอาคารมากยิ่งขึ้น
“ย้อนหลังไปประมาณ 30 ปี ตั้งแต่ช่วงไม่มีอินเทอร์เน็ต ผมพยายามหาหนังสืออ่าน เดินทางไปต่างประเทศ ทดสอบ ทดลอง จากไผ่ลำกลมๆ จนเริ่มคิดอยากทำให้ออกมาเป็นแผ่นเรียบๆ ตั้งเป้าหมายว่าจะทำอย่างไรจึงจะพัฒนาไม้ไผ่ให้สามารถใช้งานได้เหมือนไม้จริง พอจับจุดได้ก็เริ่มรับซื้อไผ่จากเกษตรกรจากหลากหลายภูมิภาคในประเทศไทย โดยเลือกชนิดพันธุ์ไผ่ ได้แก่ ไผ่ตง ไผ่ซางหม่น ไผ่เลี้ยง ฯลฯ มาเพื่อพัฒนาวัสดุ จะพบว่าการสนับสนุนการปลูกไผ่ของเกษตรกร สามารถช่วยในเรื่องความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมเพราะไผ่เป็นไม้ที่เติบโตได้เร็ว ช่วยในการสร้างพื้นที่สีเขียว และการตัดขายก็สามารถปลูกเพื่อทดแทนกันในที่ดินเดียวกันได้”

ธนา ทิพย์เจริญ
นอกเหนือจากการทำงานร่วมกับเกษตรกรผู้ปลูก ธนาได้เล่าต่อด้วยว่า ในฐานะผู้ศึกษาวิจัยด้านวัสดุไม้ไผ่ เขามีโอกาสร่วมงานกับสถาปนิกทั้งในไทยและต่างประเทศ ในการคัดสรรวัสดุสำหรับอาคารหลากหลายประเภท ทั้งบ้าน โรงแรม รีสอร์ท ศาลากลางแจ้ง ฯลฯ ที่มีการก่อสร้างและประกอบส่วนต่างๆ จากไผ่

Blue Tree Phuket | Photo courtesy of Thailand Bamboo

ออฟฟิศ One Bangkok | Photo courtesy of Thailand Bamboo
ด้วยประสบการณ์นี้เอง ธนาจึงชี้ให้เห็นถึงช่องว่างของไอเดียในความนอกกรอบและความสนใจในวัสดุของสถาปนิกชาวยุโรปที่นิยมใช้วัสดุในท้องถิ่น ว่าหลายส่วนในแบบการก่อสร้างของสถาปนิก ต้องมีการปรับเปลี่ยนวัสดุในการรับน้ำหนักของอาคาร การทำงานที่ผ่านมา Thailand Bamboo จึงมีผลงานอย่างอาคารในโรงเรียนรุ่งอรุณ อาคารคลุมโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย รวมไปถึงออฟฟิศ One Bangkok และ Blue Tree Phuket ที่มีนักออกแบบจาก CKP studio ซึ่งเน้นการออกแบบด้วยวัสดุไม้ไผ่มาร่วมทำงาน
“เอาเข้าจริง ถ้าเปลี่ยนเรื่องทัศนคติผู้คนต่อเรื่องวัสดุในเรื่องความไม่ทนทานของไม้ไผ่ได้เป็นเรื่องสำคัญ จะพบว่าไม้ไผ่มีข้อจำกัดน้อยมากแล้ว ในปัจจุบันไม้ไผ่สามารถกัดปลวก กันมด ด้วยการอัดน้ำยา และสามารถใช้ไม้ไผ่ในการปูพื้นสะพาน ทางเดิน ระเบียงขอบสระน้ำ หรือแม้แต่เป็นเปลือกอาคาร เสา คาน ฝ้า เพดานได้ทั้งหมด เทรนด์ปัจจุบันที่มีการก่อสร้างอาคารสไตล์สแกนดิเนเวีย ยิ่งต้องใช้งานไม้ ซึ่งส่วนใหญ่ในไทย สนใจเพียงวัสดุสังเคราะห์ พลาสติก และใช้หินกันมากกว่าไม้”
ท้ายที่สุด ธนากล่าวว่าให้รอติดตามในเรื่องเทคโนโลยีการวิจัยด้านไม้ไผ่ของ Thailand Bamboo ในการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย เพื่อปรับปรุงกาวสำหรับงานไม้ไผ่โดยเฉพาะ และมีการประเมินผลเพื่อทดสอบวัสดุให้ได้ค่ามาตรฐานในการป้องกันการไฟไหม้ ธนายังได้เน้นย้ำว่า ยินดีให้คำปรึกษากับสถาปนิกหลากรุ่นที่สนใจในวัสดุไม้ไผ่เพื่อการออกแบบและการผสมผสานวัสดุอื่นๆ เพื่องานดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้คนร่วมสมัยด้านความยั่งยืน