THE UNDULATING FORM, THE PROTRUDING SILVERY BOWL; WHAT IS THE IDEA BEHIND THE IDIOSYNCRATIC APPEARANCE OF THIS DESIGN BY PLAN ARCHITECT?
TEXT: PRATCHAYAPOL LERTWICHA
PHOTO: KETSIREE WONGWAN
(For English, press here)
ในพื้นที่ย่านหลังสวน กรุงเทพฯ ที่แน่นขนัดไปด้วยอาคารหรูในรูปกล่องสี่เหลี่ยมที่ขึ้นตัวสูงเพื่อยื้อแย่งทิวทัศน์ระดับพรีเมียมของสวนลุมพินีที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล อาคาร Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการ Sindhorn Village เป็นอาคารที่โดดเด่นออกมาจากอาคารหลังอื่นๆ อย่างชัดเจน จากรูปทรงโค้งเว้าเตะตา พร้อมกับชามสีเงินที่ยื่นออกมาจากกึ่งกลางของอาคาร ด้วยรูปลักษณ์ของอาคารที่แปลกตาไปจากอาคารในละแวกโดยรอบ หรือแม้กระทั่งเมื่อเทียบกับบรรดาอาคารต่างๆ ในกรุงเทพฯ นี้เอง ทำให้เรานึกสงสัยขึ้นมาว่า อะไรกันคือเหตุผลที่ทำให้โรงแรมแห่งนี้มีรูปร่างหน้าตาอย่างนี้
ท่ามกลางทิวทัศน์ของสวนสีเขียวใน Sindhorn Village ที่ห้อมล้อมภายนอกล็อบบี้ซึ่งตั้งอยู่ในซุ้มโค้งคอนกรีตขนาดใหญ่ของ Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok วรา จิตรประทักษ์ สถาปนิกจาก Plan Architect ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบอาคารแห่งนี้ บอกกับเราว่า ที่มาของรูปทรงอาคารก็คือสวนที่เราเห็นอยู่ภายนอกนั่นเอง วราเล่าถึงความสำคัญของสวนแห่งนี้ให้เราฟังว่า นอกจากสวนจะมอบความร่มรื่นกับอาคารโดยรอบแล้ว สวนซึ่งกินพื้นที่เกือบครึ่งของ Sindhorn Village ยังเป็นสิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการพัฒนาโครงการแบบใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว แทนการพัฒนาแบบเดิมที่เน้นสร้างอาคารให้เต็มที่เพื่อสร้างพื้นที่ขายให้คุ้มที่สุด อีกทั้งสวนยังเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ความหรูหราแบบใหม่ของเครือโรงแรม Kempinski ที่ชูเรื่องการให้รางวัลของชีวิตผ่านการใกล้ชิดกับธรรมชาติอีกด้วย
เมื่อตั้งโจทย์ว่าจะออกแบบอาคารโดยมี ‘สวน’ เป็นหัวใจสำคัญ วราและทีมจึงเริ่มต้นดีไซน์ด้วยการสร้าง ‘Gateway Arch’ ที่ชั้น 1 ของอาคาร เพื่อเชื่อมพื้นที่สีเขียวที่อยู่ด้านในเข้ากับพื้นที่ด้านนอกและเป็นอีกประตูที่ต้อนรับผู้เยี่ยมเยือนเข้าสู่โครงการ Sindhorn Village พร้อมกันนั้น สถาปนิกก็สร้างความรู้สึกของสเปซซุ้มประตูให้เชื่อมต่อไปกับธรรมชาติผ่านวัสดุอย่างคอนกรีตเปลือย และเจาะช่องแสงขนาดใหญ่ด้านบนซึ่งทำให้บรรยากาศภายในโปร่งโล่งและโอ่อ่า ส่วนฟอร์มของอาคารที่โค้งเว้าไปมา ก็มีที่มาจากการลากเส้นเชื่อมจากตัวสวน จนเกิดเส้นแนวอาคารที่ส่วนล่างโค้งเข้าเพื่อสร้างระเบียงห้องที่ไล่ระดับ และเปิดรับมุมมองพื้นที่สีเขียว ส่วนบนของอาคารมีการเว้ารูปออกเพื่อสร้างแนวบังแสงแดดให้ระเบียงห้องพักด้านล่าง สำหรับอาคารในด้านตรงกันข้ามก็จะมีเส้นโค้งเว้าในทิศทางที่กลับกัน ตอบรับกับบริบทที่แตกต่าง กลายเป็นแนวอาคารส่วนฐานจะเว้าออกและกลับไปเว้าเข้าที่ด้านบนเพื่อรับมุมมองเมือง ไม่เพียงการโค้งเว้าจะทำให้เกิดความตื่นตาตื่นใจและให้ความรู้สึกไม่หยุดนิ่งเวลามองจากภายนอก การโค้งเว้ายังช่วยสร้างมุมมองที่แตกต่างกันไปสำหรับห้องพักแต่ละห้องอีกเช่นกัน
นอกจากบรรยากาศของสวนอันเย็นสบายแล้ว สถาปนิกยังตั้งใจให้ธรรมชาติอย่างแสงแดดและลม เข้ามาช่วยเติมเต็มบรรยากาศของโรงแรมเช่นกัน สถาปนิกออกแบบให้มีช่อง atrium ขนาดใหญ่ในพื้นที่ทางเดินของห้องพัก พร้อมเจาะช่องแสงด้านบนและหน้าต่างระบายอากาศ เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติและลมให้เข้ามาภายใน สร้างการรับรู้ของบรรยากาศภายนอกแม้จะอยู่ภายในอาคาร และทำให้พื้นที่ทางเดินระหว่างห้องในโรงแรมแบบฉบับปกติที่มักคับแคบอุดอู้ ดูโปร่งโล่งและไม่น่ากลัว ส่วนบริเวณชั้นพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำถูกเปิดให้เป็นพื้นที่กึ่ง outdoor ที่ต้อนรับลมและทิวทัศน์จากภายนอกเข้ามาอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยื่นตัวสระว่ายน้ำออกไปนอกอาคาร ให้ผู้ใช้สระได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศต้นไม้สีเขียวของสวนลุมพินีและทิวทัศน์ของสนามม้าราชกรีฑาสโมสร เมื่อแหงนหน้ามองอาคารจากภายนอก เราก็จะเห็นสระน้ำโดดเด่นออกมาจากอาคารชัดเจนด้วยรูปลักษณ์คล้ายกับชามสีเงินขนาดใหญ่ ซึ่งวัสดุสีเงินนี้ก็คือแผ่น perforated stainless steel sheet ที่นอกจากจะทำให้อาคารดูเตะตาขึ้นมาแล้ว ยังช่วยแอบซ่อนงานระบบไว้ข้างในอย่างแนบเนียน
“เราอยากแสดงให้เห็นว่าในขณะที่เราสร้างรูปทรงให้อาคาร แต่เราก็สร้างพื้นที่ที่ดีและมีเนื้อหาจากฟอร์มเหล่านั้นด้วย” วรากล่าวทิ้งท้าย และถึงรูปทรงที่แปลกตาอาจจะชวนให้คิดได้ง่ายๆ ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างเพื่อให้ดูโดดเด่นเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศภายใน Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok แล้ว เราก็สามารถรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของสถาปนิก ที่ต้องการเนรมิตพื้นที่ที่มีคุณภาพดี และมอบประสบการณ์การใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่การปลุกปั้นรูปทรงที่น่าตื่นตา
CLICK IMAGE TO VIEW IN FULL SIZE