สำรวจมุมมองต่อหินอ่อนจาก ZILA Marble & Decoration แบรนด์จำหน่ายวัสดุและผลิตภัณฑ์ตกแต่งจากหินอ่อนธรรมชาติ ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความ ‘จุกจิก’ ในวัสดุตามประสาของสองผู้ก่อตั้ง
TEXT: PICHAPOHN SINGNIMITTRAKUL
PHOTO: WORAPAS DUSADEEWIJAI EXCEPT AS NOTED
แม้การเลือกใช้วัสดุหินอ่อนในงานสถาปัตยกรรมและการตกแต่งจะได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และยังเป็นที่รู้กันดีว่าความสวยงามที่ได้มานั้นต้องแลกมาด้วยราคาและการดูแลเอาใจใส่ที่มากกว่าวัสดุอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นหินอ่อนธรรมชาติก็ยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จนอดสงสัยไม่ได้ว่าสิ่งที่พวกเขามองข้ามข้อจำกัดหรือมองเห็นในเสน่ห์ของหินอ่อนธรรมชาติจริงๆ นั้นคืออะไร?
“ความยากในการได้มาของสีและลวดลายตามธรรมชาติ ความพิถีพิถันในการตัดหรือเจียร และกระบวนการอื่นๆ ที่ค่อนข้างคราฟต์มากๆ สิ่งเหล่านี้ถ้าได้ไปเห็นด้วยตัวเองก็จะได้คำตอบที่ชัดเจนเลย ว่าเพราะอะไรหินอ่อนธรรมชาติถึงมีมูลค่า” ประโยคบอกเล่าสั้นๆ ในบทสนทนากับ หม่ำ-จตุพล ทรัพย์ฤทธา และ แพรว-ช่อผกา โพธิ์ร่มไทร สองผู้ก่อตั้ง ZILA Marble & Decoration แบรนด์จำหน่ายวัสดุและผลิตภัณฑ์ตกแต่งจากหินอ่อนธรรมชาติ ที่ art4d ชวนมาแบ่งปันมุมมองและจุดเริ่มต้นของความสนใจเกี่ยวกับหินอ่อนธรรมชาติของทั้งคู่ จนทำให้อดจิตนาการตามตลอดการสนทนาไม่ได้ว่า หรือจริงๆ แล้วเหนือกว่าเรื่องของเสน่ห์ความสวยงามจากวัสดุมันอาจเป็นเรื่องของ ‘รสนิยมความชอบส่วนตัว’
art4d: ขอเริ่มด้วยคำถามเบสิคๆ ว่าเป็นยังไงมายังไง อินทีเรียดีไซเนอร์อย่างคุณถึงได้ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจจำหน่ายวัสดุและผลิตภัณฑ์ตกแต่งจากหินอ่อน
จตุพล ทรัพย์ฤทธา: หลายคนน่าจะรู้ดีว่าอินทีเรียดีไซเนอร์เราจะหมกหมุ่นอยู่กับพวกวัสดุตกแต่งต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ และพวกชิ้นส่วนกระจุกกระจิกอยู่แล้ว ซึ่งในงานออกแบบของผมส่วนใหญ่ก็มักจะชอบใช้หินอ่อนมาเป็นส่วนหนึ่งอยู่ตลอด ทั้งงานพื้น ผนัง เคาน์เตอร์ และส่วนอื่นๆ ในการตกแต่งภายในทั่วไป พอเราใช้บ่อยๆ เข้า เราก็เริ่มมีไอเดียอยากได้ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ตกแต่งรูปแบบอื่นๆ แบบที่เราต้องการ เลยลองไปติดต่อพวกโรงงานจำหน่ายหินอ่อนดูว่าเขาสามารถผลิตเป็นชิ้นส่วนอย่างที่เราต้องการได้ไหม สรุปว่าก็มีโรงงานผลิตให้กับเราได้จริงๆ แต่พอคุยๆ ไปเค้าก็เสนอให้เราผลิตในปริมาณที่เยอะขึ้นหน่อย เผื่อเราอยากต่อยอดนำไปจำหน่ายได้ด้วยเลย ตรงนี้ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของ ZILA Mable & Decoration วัสดุและผลิตภัณฑ์ตกแต่งจากหินอ่อนธรรมชาติที่เราทำควบคู่ไปงานอินทีเรียดีไซน์ของเรา
art4d: เพราะอะไรถึงสนใจเลือกใช้หินอ่อนในงานออกแบบอยู่บ่อยครั้ง
จตุพล: นอกจากหินอ่อนธรรมชาติมันจะสวยด้วยสีและลวดลายของมันแล้ว พอเริ่มศึกษาและเข้าใกล้กับเรื่องกระบวนการผลิตหรือแม้แต่การสรรหาหินเหล่านี้จากเหมืองในประเทศต่างๆ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันยิ่งมีเสน่ห์ เพราะมันไม่ได้มาง่ายๆ หมายถึงว่าพอมันเป็นหินจากธรรมชาติ แน่นอนว่าเรื่องของสีและลายเราไปกำหนดอะไรมากไม่ได้ ในแต่ละล็อตส่วนใหญ่เลยจะเป็นการเทียบเคียงเอาว่าเราอยากได้ลายประมาณไหน สีประมาณไหน คล้ายกับวัสดุไม้ที่แต่ละท่อนจะมีตาไม้หรือลายไม่เหมือนกัน แต่เราก็เลือกตามความชอบและความสวยงามที่เหมาะสมกับการออกแบบของเราเป็นงานๆ ไป
art4d: แล้วความนิยมของลูกค้าหรือดีไซเนอร์ช่วงนี้นิยมหินอ่อนสีและลวดลายอะไร
ช่อผกา โพธิ์ร่มไทร: ต้องเรียกเป็นชนิดมากกว่า เพราะสีหรือลายมันอาจมีความคล้ายๆ กัน แต่ชนิดของหินอ่อนมีเป็นร้อยเป็นพันเลย ถ้าพูดถึงความนิยมก็น่าจะเป็นหินอ่อน Star Torio เป็นหินอ่อนสีขาว คาดลายสีเทา คิดว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นกันอยู่แล้ว เพราะมันนิยมมากจนหลายแบรนด์ใหญ่ๆ นำไปผลิตเป็นวัสดุทดแทน ซึ่งก็จะมีลายและสีแนวๆ นี้
จตุพล: แต่ความสวยงามของการใช้หินอ่อนจากธรรมชาติจริงๆ จะแตกต่างจากวัสดุทดแทนตรงที่เขาจะเลือกหินอ่อนกันจากความใสของหิน ถ้ายิ่งเนื้อขาวใสมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสวยและราคาสูงด้วย (หัวเราะ) จะพูดว่าเหมือนการเลือกเพชรหรืออัญมณีก็ไม่ผิด ส่วนตัวชอบ Travertine เป็นหินสีออกครีมๆ หน่อย คิดว่าเหมาะกับงานดีไซน์ได้หลายแนวดี minimal ก็ได้ luxury ก็ได้ Travertine จะเป็นสีที่เข้ารอบตลอดเวลาไปเสนอลูกค้า
art4d: เรียกว่าการเลือกใช้หินอ่อนธรรมชาติคือรสนิยมส่วนตัวของเจ้าของบ้านได้ไหม
จตุพล: ก็ไม่ผิดนะ เพราะหินอ่อนธรรมชาติมันมีเรื่องของราคาและการดูแลรักษาที่เจ้าของบ้านจะต้องยอมรับในจุดนี้มาก่อนจะเลือกใช้ ดังนั้นมันก็ต้องเป็นความชอบจริงๆ ของเขา ไม่งั้นคงไปเลือกใช้วัสดุอื่นหรือวัสดุทดแทน อย่างที่บอกว่ากระบวนการต่างๆ มันคล้ายกับเพชรหรืออัญมณี ส่วนตัวลึกๆ ก็คิดว่าถ้าเปรียบเทียบการตกแต่งบ้านเหมือนการแต่งตัวของผู้หญิง หินอ่อนธรรมชาติก็คงคล้ายกับเครื่องประดับเหล่านี้
art4d: ย้อนกลับไปในบทบาทของอินทีเรียดีไซเนอร์ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าเคยเจอลูกค้าที่ถือภาพ reference มาให้ดู แล้วอยากได้งานหินอ่อนดีไซน์แปลกๆ หรือนำไปใช้รูปแบบแปลกๆ บ้างไหม
จตุพล: มีแน่นอน (หัวเราะ) แปลกทั้งรูปแบบการผลิตและติดตั้ง หรือแปลกทั้งการใช้งาน เช่น พวกด้านความเชื่อก็มี อย่างงานหนึ่งที่รู้สึกว่าท้าทายมาก เป็นงานผลิตและติดตั้งหินอ่อนที่เสาในเพนท์เฮาส์ให้มีลักษณะเป็นคลื่นลอนผ้าม่านที่แต่ละลอนมีโค้งและขนาดไม่เท่ากัน ตอนนั้นเราต้องไปนั่งวัดโค้งทีละลอนๆ เพราะเราต้องนำหินมาดัดและประกอบเป็นลอนผ้าม่านให้เหมือนกับไม้โครงที่ขึ้นไว้ ซึ่งมันก็ยากมากนะ แต่ในแง่การผลิตก็ต้องพูดตามตรงว่าเราสามารถทำได้ น่าเสียดายที่โปรเจ็กต์นี้ต้อง hold ไปด้วยเหตุผลอื่นๆ
ช่อผกา: ในมุมของแพรวที่ไม่ได้เป็นดีไซเนอร์แต่ก็มีเจอเรื่องแปลกๆ เหมือนกัน คือเป็นความเชื่อด้านสุขภาพ มีลูกค้ามาซื้อโถหินอ่อนขนาดประมาณแก้วน้ำ เค้าบอกว่าจะซื้อไปใช้บ้วนปาก เพราะมันจะมีแร่ธาตุในหินช่วยเรื่องสุขภาพอะไรสักอย่าง ก็อาจจะคล้ายกับที่คนนิยมซื้อกำไลหินชนิดต่างๆ ไปใส่เพื่อเพิ่มพลังชีวิตหรือความโชคดีอะไรทำนองนั้น
art4d: ด้วยที่วัสดุเหล่านี้เป็นวัสดุจากธรรมชาติจริงๆ ที่อาจหมดไปในสักวันหนึ่ง มีเคยคิดกันเล่นๆ บ้างไหมว่าถ้าวันหนึ่งมันเริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ ทิศทางความนิยมการใช้หินอ่อนจะเป็นยังไงต่อไป
จตุพล: ก่อนหน้านี้ที่เปรียบเทียบหินอ่อนแท้เหมือนกับเพชรหรืออัญมณี ที่มีความพิถีพิถันในการเลือก และยังต้องทะนุถนอมในการดูแลรักษาด้วย ความเห็นส่วนตัวเลยคิดว่ามันเลยเป็นสิ่งที่ทำให้หินอ่อนแท้มีราคาสูงตั้งแต่ในปัจจุบันที่มันยังสามารถหาได้ แล้วถ้าวันหนึ่งมันหายากขึ้น หินที่เรามีอยู่ในมือมันก็อาจจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกก็ได้ (หัวเราะ)
ช่อผกา: เราเน้นไปที่ด้านความคราฟต์เกี่ยวกับหินอ่อน ก็คือใส่เรื่องดีไซน์หรือความเป็นไปได้ใหม่ๆ เข้าไป วันหนึ่งมันก็อาจจะเปลี่ยนจากวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านกลายเป็นชิ้นงานสะสม เหมือนกับงานศิลปะที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นก็ได้ อันนี้เป็นมุมมองส่วนตัวนะ เพราะรวมๆ แล้วคนที่จะสนใจหินอ่อนแท้จากธรรมชาติจริงๆ ก็ต้องเป็นคนที่มีความชอบจริงๆ และย้ำว่าคงเป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัวของเขาด้วย เพราะมันราคาสูงและทุกวันนี้ก็มีวัสดุทดแทนเข้ามาเยอะ ถ้าไม่ได้ชอบจริงๆ ก็คงหันไปเลือกใช้วัสดุประเภทอื่นๆ ไปแล้ว