BAAN KHA-NAM NOI

บ้านหลังน้อยจากยางนาสตูดิโอที่สร้างขึ้นจากวัสดุที่รื้อถอนจากอาการเก่า พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะเบียดเบียนพื้นที่ของธรรมชาติ โดยการตั้งอยู่ในร่มชายคาของเล้าหมูเก่าในพื้นที่แทน

TEXT: KITA THAPANAPHANNITIKUL
PHOTO: RUNGKIT CHAROENWAT EXCEPT AS NOTED

(For English, press here

เพราะการสร้างบ้านหลังหนึ่งไม่ได้เกิดจากอากาศ หากแต่เกิดจากใช้ทรัพยากรใหม่และการขอยืมพื้นที่จากธรรมชาติอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ บ้านขนำน้อย โดยยางนาสตูดิโอจึงเลือกที่จะสร้างขึ้นจากวัสดุที่เกิดจากการรื้อถอนอาคารเก่า พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะเบียดเบียนพื้นที่ของธรรมชาติ โดยการตั้งอยู่ในร่มชายคาของเล้าหมูเก่าในพื้นที่แทน

บนพื้นที่กว่า 11 ไร่ ในอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงหบุรี อาคารยาว 98 เมตร สองหลังที่มี span เสา 8 เมตร เรียงขนานกันในที่ดินแห่งนี้เดิมทีเคยมีการใช้งานเป็นโรงเลี้ยงหมูมาก่อน ทำให้อาคารมีลักษณะเป็นอาคารจั่วที่มีความสูงเพื่อระบายอากาศและมีช่วงเสากว้างเพื่อการวางคอกหมู อาคารทั้งสองนี้เชื่อมต่อกันด้วยพื้นคอนกรีตที่แผ่กินพื้นที่ทั้งสองอาคาร ยางนาสตูดิโอ จึงเริ่มปรับแต่งพื้นที่เดิมให้เหมาะกับการเป็นบ้านมากขึ้น เริ่มจากการทุบพื้นคอนกรีตระหว่างสองอาคารให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับปลูกต้นไม้ และทุบพื้นที่บางส่วนภายใต้ชายคาเพื่อเตรียมการสำหรับการทำฐานรากให้กับบ้านใหม่ที่ต้องการเสาเพิ่มเติม ซึ่งเสาใหม่เหล่านี้ก็ได้เชื่อมกับเสาเดิมของเล้าหมูด้วยโครงสร้างพื้นเหล็กเพื่อลดภาระของการทำโครงสร้างเพิ่ม และเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของเจ้าของบ้านเพียงแค่สองคน บ้านขนำน้อยจึงไม่ได้เปลี่ยนอาคารเก่าเป็นบ้านทั้งหมด แต่เลือกใช้ประโยชน์จากของเก่าที่ทั้งกว้างและสูงด้วยวิธีอื่น ทั้งหลังคาที่จบเพียงแค่ระยะคานที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างบ้านและหลังคาเล้าหมูที่สามารถป้องกันความร้อนและเสียงเมื่อฝนตก รวมถึงการออกแบบบ้านให้อยู่ภายใต้ระยะชายคาเล้าหมูเดิมที่ทำให้ไม่จำเป็นต้องทำหลังคาใหม่อีกด้วย

ในแง่พื้นที่ใช้สอย โครงสร้างจั่วสูงยาวที่มีสองหลังทำให้บ้านขนำน้อยถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกที่ติดกับพื้นที่สีเขียวคือพื้นที่อยู่อาศัยที่มีการใช้ลักษณะของเรือนไทยภาคกลางในแบบที่ร่วมสมัย โดยแบ่งเป็นการใช้งานเป็นสามก้อนหลักๆ คือ ส่วนห้องนอน ส่วนห้องครัว และส่วนพักผ่อน ซึ่งแต่ละส่วนนั้นถูกเชื่อมกันด้วยชานอันเป็นพื้นที่กึ่งภายนอก พร้อมกับมีการเปลี่ยนระดับเมื่อเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ และที่สำคัญคือยังพื้นที่ใต้ถุนในแบบที่เราคุ้นชินกันไว้  ทั้งนี้ก็เพื่อการระบายอากาศและป้องกันความชื้นจากผิวดินที่ส่งผลต่อการยืดหดของวัสดุเก่าที่จะนำมาใช้ในบ้าน ในขณะที่อีกหลังที่อยู่ด้านหลังที่ดินนั้นถูกเปลี่ยนเป็นส่วนบริการต่างๆ ทั้ง เวิร์กช็อป โรงเรือนปลูกผัก โดยทั้งส่วนนี้ถูกเชื่อมกันด้วยสะพานไม้ที่ยกสูงเท่ากับพื้นบ้าน ทำให้ในบางเวลา สะพานนี้ก็ทำหน้าที่เป็นระเบียงที่สามารถนั่งเล่นท่ามกลางพื้นที่สีเขียวตรงกลางของทั้งสองอาคาร ที่สำคัญคือ พื้นที่ใช้งานทั้งหมดของบ้านหลังนี้มีเพียงแค่ 148 ตารางเมตร ซึ่งอาจดูเล็กเมื่อเทียบกับพื้นที่อาคารเก่าทั้งหมด ทั้งนี้เองก็เพื่อการใช้งานที่เพียงพอสำหรับผู้อยู่อาศัยเพียงสองคน ตอกย้ำการใช้วัสดุที่ไม่สิ้นเปลืองเกินความจำเป็น และพื้นที่ว่างที่ถูกเว้นไว้ก็ยังสามารถเพิ่มเติมสำหรับความต้องการต่างๆ ที่อาจจะมาในอนาคต ซึ่งก็ไม่ได้หมายถึงอนาคตอันไกลแต่อย่างใด เพราะปัจจุบัน พื้นที่โล่งบางส่วนที่ได้เปลี่ยนกลายเป็นสระว่ายน้ำสำหรับการฝึกสุนัขไปแล้ว ชวนให้เราคิดถึงความหมายของบ้านที่ไม่ใช่วัตถุที่คงทนถาวร หากแต่พร้อมปรับเปลี่ยนและเติบโตไปพร้อมกับผู้อยู่อาศัย

เหมือนว่าบ้านขนำน้อยไม่ใช่บ้านที่สร้างใหม่ แต่เป็นบ้านประกอบใหม่จากของเดิมมากกว่า ถึงจะเป็นบ้านใหม่ แต่บรรยากาศของการออกแบบภายในยังคงเก็บเรื่องราวความทรงจำของพื้นทีเก่าไว้ในทุกส่วนจากวัสดุที่ได้จากการรื้อถอนบ้านไม้เก่าของผู้อยู่อาศ้ยและตัวเล้าหมูเอง ทั้งประตูบ้านเฟี้ยมที่รื้อจากบ้านเก่าที่กลายผนังหัวนอนของบ้านใหม่  โครงเหล็กกลมจากเล้าหมูเดิมที่กลายเป็นราวแขวนเสื้อผ้า หรือของที่ดูจะใช้ประโยชน์ไม่ได้อย่างเศษอิฐที่มีหลายแบบหลายขนาด ก็ถุูกจัดวางให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของผนังดูคล้ายกับงานศิลปะชิ้นหนึ่ง โดยงานฝีมือทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากสล่าไม้ที่มีความเชี่ยวชาญในวัสดุและเปลี่ยนให้ของที่ดูเป็นเพียงเศษซากได้ประกอบร่างขึ้นใหม่กลายเป็นงานฝีมือ

คำว่าขนำนั้นมีความหมายว่า กระท่อมขนาดเล็กชั่วคราวที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา แม้ว่าบ้านขนำน้อยแห่งนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าขนำในภาพจำของใครหลายๆ คน แต่จุดประสงค์นั้นเหมือนกัน คือเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวที่เปลี่ยนแปลงหรือถูกรื้อถอนได้ซึ่งช้วยลดการใช้วัสดุใหม่และการทำโครงสร้างถาวร  เล้าหมูเก่าและบ้านไม้เก่าก็ได้กลายเป็นบ้านขนำน้อย และบ้านขนำน้อยแห่งนี้ก็อาจกลายเป็นบ้านใหม่สักวันใดวันหนึ่ง ซึ่งฉุกให้เราคิดถึงข้อเท็จจริงว่า บ้านหลังหนึ่งมีชีวิตยืนยาวกว่าผู้อยู่อาศัยเสมอ และบ้านขนำน้อยแห่งนี้ก็เป็นเหมือนตัวแทนของวัฐจักรของบ้านกับชีวิตที่หมุนไปผ่านสายตาของคำว่าความยั่งยืน

fb.com/YangNarStudio

Yangnarstudio.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *