Photo: Ketsiree Wongwan ติดตามการเติบโตไปอีกก้าวของสตูดิโอออกแบบสถาปัตยกรรม OPENBOX ที่โปรโมต 6 สถาปนิก มากประสบการณ์ให้ขึ้นมามีบทบาทในแถวหน้า ภายใต้การดูแลของรติวัฒน์และปราง สุวรรณไตรย์
TEXT: PRATCHAYAPOL LERTWICHA
PHOTO CREDIT AS NOTED
(For English, press here)
จากจุดตั้งต้นของออฟฟิศที่ หนุ่ย-รติวัฒน์ สุวรรณไตรย์ และ ปราง-ปราง สุวรรณไตรย์ ร่วมกันก่อตั้งเมื่อปี 2004 มาถึงตอนนี้ Openbox Architects and Openbox Group คือสตูดิโอมืออาชีพที่เชี่ยวชาญและช่ำชองในการออกแบบงานสถาปัตยกรรม ซึ่งฝากผลงานที่โดดเด่นหลากหลายประเภท ตั้งแต่สเกลบ้านพักอาศัยอย่าง Marble House, งาน Senior Living – Jin Wellbeing County, งานหลังคาโซลาร์เซลล์คลุมที่จอดรถที่กลายเป็น landmark อย่าง Power Wing, คอนโด high-rise อย่าง Saladaeng One ไปจนถึงอาคารสูง Mix-used กลางชิดลม ที่อยู่ภายใต้การดูแลของแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Aman พวกเขายังได้รับรางวัลการันตีมากมาย เช่น A+Firm Awards Special Mention in the Best in Asia จากสื่อสถาปัตยกรรมชื่อดัง Architizer ซึ่งส่งผลให้ OPENBOX ได้รับงานออกแบบสถาปัตยกรรมในหลายประเทศทั่วโลก
Saladaeng One | Photo: DOF SKY|GROUND
Marble House | Photo: W Workspace
วันนี้ OPENBOX พร้อมเติบโตไปอีกก้าวด้วยการโปรโมต 6 สถาปนิกมากประสบการณ์ขึ้นมามีบทบาทในแถวหน้า ภายใต้การดูแลของรติวัฒน์ และปรางมาฟังจากรติวัฒน์และทีม Associate ทั้ง 6 ถึงหมุดหมายสำคัญนี้ และทิศทางของ OPENBOX ในอนาคต
art4d: การเติบโตของ OPENBOX ในครั้งนี้มีเป้าหมายอะไร
รติวัฒน์: พอเราทำงานออกแบบที่หลากหลายมากขึ้น ผมเห็นว่าบริษัทต้องการการเติบโตทั้งเรื่องการขยายขอบเขตของงานออกแบบหรือการแตกไลน์ไปทำธุรกิจอื่นๆ แต่การที่บริษัทหรือผลงานจะเติบโตขึ้นได้ ผมมองว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ คนในบริษัทต้องเติบโตไปด้วย ผมจึงโปรโมตให้น้องๆ มากฝีมือที่ผ่านการทำงานกับผมมาอย่างเข้มข้น 6 คนเติบโตขึ้นมาเป็น Associate เพื่อขับเคลื่อน OPENBOX ในอนาคตต่อไป
Ratiwat Suwannatrai | Photo: Ketsiree Wongwan
art4d: ทีมงานที่จะเติบโตเป็น Associate จะมีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างไร
รติวัฒน์: เขาจะมีอำนาจในการตัดสินใจในหลายๆ เรื่องได้ด้วยตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เป็นเบื้องหลังที่แข็งแกร่งมาตลอด ส่วนใหญ่ทำงานกับเรามากว่าสิบปี แต่ละคนเป็นคนที่ผมเชื่อมั่นให้ไปประชุมพูดคุยกับลูกค้าเองในทุกๆ ครั้ง งานที่พวกเขาทำออกมาก็เป็นผลงานที่น่าพอใจ
art4d: ทำไมคุณถึงมองว่า OPENBOX พร้อมแล้วที่จะเติบโตไปอีกขั้น
รติวัฒน์: ผมรู้สึกว่าทีมนี้พร้อมแล้วจากการทำงานและการใช้ชีวิตด้วยกันมา อีกส่วนเป็นเพราะช่วงนี้คือช่วงที่พึ่งผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาด เรามีความพร้อมจะเติบโตมานานแล้ว แต่ชะลอไว้นาน พอสถานการณ์โรคระบาดผ่านไป มันเหมือนเป็นช่วง restart ของโลก เราจึงคิดว่าเป็นจังหวะที่ดี
from left, Pruchya Yatha, Wannapat Jenpanichkarn, Sudatip Pipatthakorn, Ratiwat Suwannatrai, Nattawan Supanan, Theerawat Prakrittikul, Apiwat Limpananakthong | Photo: Ketsiree Wongwan
art4d: อยากให้ทีมงานทั้ง 6 คนช่วยแนะนำตัวและแนะนำความรับผิดชอบในทีมให้ทุกคนได้รู้จักกันหน่อย
วรรณภัทร: ปลาย-วรรณภัทร เจนพานิชการ นะคะ ปกติจะดูแลงานสถาปัตยกรรมภายในทั้งหมดค่ะตัวอย่างผลงานที่เคยทำก็คือ Marble House, Woodsmith Center, REDD Premium Self Storage, CHEVALA Wellness Huahin และที่กำลังจะเปิดตัวคือ ENDL โรงเรียนสอนทำอาหารที่ ปาร์คนายเลิศ
ปรัชญา: โฟม-ปรัชญา ยะถา ครับ ดูแลเรื่องงานตึกสูงของออฟฟิศเป็นหลัก อย่างเช่นโครงการ Saladaeng One, Rhythm Estate, The Line Sukhumvit 101, Jin Wellbeing County รวมไปถึงโปรเจ็คต์อื่นๆ เช่น The Base Phuket ผมก็รับผิดชอบงานออกแบบที่ต่างประเทศด้วย เช่นที่บังคลาเทศ จีน และปากีสถาน
อภิวัฒน์: สวัสดีครับ ผม ท็อป-อภิวัฒน์ ลิมปนนาคทอง งานที่รับผิดชอบส่วนใหญ่เป็นงานคอนโดทั้ง high-rise และ low-rise รวมไปถึงงาน residential ในสเกลอื่นๆ ผลงานที่เคยรับผิดชอบก็เช่นงาน La Habana Hua Hin และงาน Power Wing ช่วงนี้งานที่กำลังรับผิดชอบอยู่ ส่วนใหญ่เป็นบ้านส่วนตัวขนาดใหญ่พิเศษครับ
ณัฐวรรณ: มีน-ณัฐวรรณสุภานันท์ ค่ะ ดูแลงานประเภท residential ทั้งในไทยและต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ งานที่เคยได้รับผิดชอบและชอบเป็นพิเศษเป็นการส่วนตัวคืองาน Marble House ค่ะ
ธีรวัฒน์: สวัสดีครับ ผม หอย-ธีรวัฒน์ ประกฤติกุล ผมจะดูแลงาน residential ประเภทบ้าน ตั้งแต่บ้านหลังเล็กไปจนถึงหลังใหญ่ รวมทั้งงานพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ด้วยครับ เช่นงาน SOL Residence Sathon-Yen Akat
สุดาทิพย์: สวัสดีค่ะ เอิง-สุดาทิพย์ พิพัฒน์ฐากร ค่ะ ดูแลส่วน Corporate Communication หรือการเผยแพร่ผลงานของ Openbox Architects and Openbox Group ทั้งหมดทั้งใน social media หรือสื่อต่างๆ และการนำเสนอโปรไฟล์บริษัทต่อลูกค้าที่เข้ามา
Jin Wellbeing County | Photo: Panoramic Studio
Power Wing | Photo: Panoramic Studio
art4d: การก้าวขึ้นเป็น Associate ใน OPENBOX ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรสำหรับพวกคุณบ้าง
วรรณภัทร: เราจะมีบทบาทในการสื่อสารกับลูกค้า ผู้รับเหมา ช่าง และ party ต่างๆ มากขึ้น มีความรับผิดชอบเข้มข้นขึ้น แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือเรายังทำงานแบบมืออาชีพ และเน้นเรื่องการสร้างสรรค์งานออกแบบที่ลงรายละเอียดเหมือนตอนเป็น studio เล็กๆ
ปรัชญา: ใช่ครับ กระบวนการทำงานไม่ได้แตกต่างจากเดิมมาก แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนคืออำนาจในการตัดสินใจ
art4d: แต่ละคนมีไอเดียอะไรบ้างในการพา OPENBOX เติบโตไปข้างหน้า
สุดาทิพย์: สำหรับเอิงที่ดูแลเรื่องการสื่อสาร อยากจะทำให้ออฟฟิศเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งในประเทศเอง และในต่างประเทศที่เราโฟกัสมากขึ้น ช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้เรารู้ว่าวิธีการสื่อสารที่เคยทำแบบเดิมมันก็อาจจะไม่เหมาะสมแล้วความท้าทายต่อไปคือจะทำอย่างไรให้เราสามารถส่งผลงานออกไปให้กว้างขวางขึ้น และสื่อสารว่าช่วงที่ผ่านมาเรายังคงทำงานอย่างมืออาชีพแบบที่เคยทำต่อเนื่องมาโดยตลอด ตอนนี้เราพยายามพัฒนาเรื่องเทคนิคการสื่อสารและศึกษาเรื่องการออกแบบการใช้งานสื่อให้มากขึ้นค่ะ
ปรัชญา: ผมมองไปที่การปรับการทำงานในทีมให้กระชับ หรือเสริม skill น้องๆ ให้แข็งแกร่ง อย่างเมื่อก่อนเราอาจไม่ได้มีคนสอนงานที่ชัดเจน น้องก็จะใช้เวลาเรียนรู้นาน ตอนนี้เรามีการ training น้องๆ และปรับกระบวนการทำงานให้กระชับขึ้น ทุกคนทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้แต่ละคนมีเวลาไปบาลานซ์การใช้ชีวิตหรือไปเรียนรู้ในสิ่งอื่น สมาชิกในทีมก็สามารถเติบโตในสกิลที่ตัวเองถนัดได้
วรรณภัทร: เป้าหมายของปลายที่ดูแลพาร์ท interior design ก็คือจะพยายามขยายงานให้ครอบคลุมครบทุกประเภท อย่างตอนนี้เรามีงาน wellness clinic ที่ทำให้เราอยากจะลงลึกและต่อยอดในงานสเกลโรงพยาบาลหรือธุรกิจ wellness ต่อไป จากงานในหลายๆ รูปแบบที่เรามีผลงานที่ชัดเจนอยู่แล้ว
ณัฐวรรณ: เป้าหมายของเราคืออยากเห็นงานของ OPENBOX ในต่างประเทศมากขึ้นค่ะ เรามองว่าอยากให้งานของ OPENBOX สร้างแรงบันดาลใจในระดับนานาชาติ เหมือนตอนที่เราไปดูอาคารที่สถาปนิกระดับ master ออกแบบ
อภิวัฒน์: ผมมองเรื่องความหลากหลายของผลงานครับ อยากเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทดลอง และออกไอเดียพัฒนาความคิดที่ชัดเจนของตัวเอง ซึ่งจะทำให้งานที่ออกไปมีความหลากหลาย ในองค์กรก็จะมีสีสันมากขึ้น ทีมแต่ละทีมได้ทำงานที่แตกต่างกันแล้วเกิดการแลกเปลี่ยนกันตลอดเวลา
ธีรวัฒน์: การที่เรามาอยู่ตรงนี้ก็อยากจะให้ทีมงานทุกคนเติบโต และพัฒนาความสามารถไปพร้อมกัน
art4d: ก่อนหน้านี้ ภาพจำของ OPENBOX คือภาพของคุณหนุ่ยและคุณปรางภาพนี้จะยังอยู่มากน้อยแค่ไหน
อภิวัฒน์: ภาพของ OPENBOX คือคุณหนุ่ยและคุณปรางที่ทำหน้าดูแลภาพรวม ไม่ได้ไปไหน พร้อมกับพวกเราทั้งหมดที่ขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นครับ เปรียบเทียบง่ายๆ ให้เห็นภาพ ตอนนี้เหมือนพวกเราเป็นทีมประติมากรที่ทำงานเพื่อสร้างผลงานไม้ขึ้นมา โดยมีคุณหนุ่ยคุณปรางใส่แนวคิด และเหลาเก็บมุมนู้นมุมนี้เล็กน้อยให้สวยงามครับ
Photo: Ketsiree Wongwan
art4d: สุดท้ายมีอะไรอยากฝากให้กับคนที่จับตาการเติบโตของ OPENBOX ในครั้งนี้อยู่หรือเปล่า
ณัฐวรรณ: ไม่ว่าจะเป็นก่อนหน้า หรือในอนาคตที่ตามมา งานที่พวกเราทำออกมาทุกงานเป็นงานที่ทำด้วยความตั้งใจสุดฝีมือไม่เปลี่ยนแปลง ก็อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวพวกเราและในทีม OPENBOX ค่ะ
ขอให้ทุกคนติดตามชมก้าวต่อไปของ Openbox Architects and Openbox Group ในปีที่ 20 และผลงานต่อไปที่จะให้พวกเราได้ชื่นชมกันในแวดวงสถาปัตยกรรมของไทย ที่ไม่ได้จำกัดพื้นที่ในการออกแบบอยู่ในประเทศไทยอีกต่อไป