BATTERSEA POWER STATION

Photo: Brendan Bell

WilkinsonEyre รีโนเวทโรงไฟฟ้าถ่านหินในลอนดอนที่ครั้งหนึ่งเป็นตัวแทนความรุ่งโรจน์ทางอุตสาหกรรม ให้กลายเป็นห้างสรรพสินค้า ที่พักอาศัย และพื้นที่พบปะที่มอบความบันเทิงให้กับผู้คนในเมืองแทน

TEXT: KORRAKOT LORDKAM
PHOTO CREDIT AS NOTED

(For English, press here

ก่อนถึงการปิดตัวอย่างถาวรในปี 1983 โรงไฟฟ้าถ่านหิน  Battersea Power Station เคยเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรมของสหราชอาณาจักรโดยมีสถาปัตยกรรมอิฐสูงใหญ่เป็นส่วนประกอบ ตลอดช่วงชีวิตของ Battersea Power Station ตัวอาคารผ่านการเปลี่ยนแปลงและก่อสร้างเพิ่มเติมหลายครั้งโดยใช้เวลานานถึงกว่า 20 ปีนับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 1935 ก่อนจะสำเร็จเป็นอาคารอิฐพร้อมปล่องไฟสี่ปล่องดังที่ได้กลายเป็นภาพจำในปัจจุบัน มาถึงวันนี้ Battersea Power Station เพิ่งได้รับบทบาทใหม่หลังจากปิดร้างมาเป็นเวลานานในฐานะสถานที่พบปะของชาวเมือง เมื่อโครงสร้างของอดีตโรงไฟฟ้าถ่านหินถูกเปลี่ยนเป็นแลนด์มาร์คเพื่อการจับจ่าย กินดื่ม สำนักงาน และโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่แห่งใหม่ทางด้านทิศใต้ของแม่น้ำเทมส์ ณ กรุงลอนดอน

ความสำเร็จในด้านสถาปัตยกรรมของ Battersea Power Station นั้น ผู้คนยกย่องให้เครดิตกับการทำงานของ Sir Giles Gilbert Scott สถาปนิกหลักของโครงการ โดยในยุคเริ่มต้นรูปแบบทางสถาปัตยกรรมของโรงไฟฟ้านั้นเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลาย แรกเริ่มอาคารได้ James Theo Halliday เป็นสถาปนิกผู้วางแนวทางภาพลักษณ์ทั้งภายนอกและภายในอาคารมาก่อน Scott จะเข้ามาควบคุมต่อ เช่น การเลือกให้อาคารใช้อิฐเป็นวัสดุหลักในการหุ้มโครงสร้างเหล็ก และเลือกใช้ปูนมอร์ตาร์เป็นสีฟาง ทั้งหมดเพื่อให้รูปลักษณ์ภายนอกของโรงไฟฟ้า ‘เป็นมิตร’ ทางสายตาแก่ผู้พบเห็นมากขึ้น ลดความเป็น ‘อุตสาหกรรม’ ของอาคารขนาดมหึมาริมแม่น้ำลง

ภาพโรงไฟฟ้าถ่านหิน Battersea Power Station ขณะยังเปิดทำการในช่วงทศวรรษที่ 1960 | An image of Battersea Power Station when it was still actively operating during the 1960s | Photo: Getty Image

หน้าที่ของ Scott ในขณะนั้น คือการเข้ามาจัดการกับรูปลักษณ์ภายนอกของอาคารโดยตรง อันเนื่องจากขนาดและสถานที่ตั้งของมันได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณะชนอย่างแพร่หลาย ความมหึมาของอาคารยังทำให้โรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งนี้ถูกผู้คนเอ่ยถึงในเชิงเปรียบเปรยกับอาคารทางศาสนา เช่น brick cathedral หรือ cathedral of power โดย Gavin Stamp นักประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมยังกล่าวว่า การเปรียบโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นดังมหาวิหารแห่งอำนาจนั้นสอดคล้องกับลัทธิการบูชาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแทนที่ความศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอย่างก่อน Stamp ยังกล่าวว่า การออกแบบของ Scott นั้นเป็นความพยายามในการนำเสนอสภาวะความเป็นสมัยใหม่แบบที่ไม่ใช่การใช้สถาปัตยกรรมกระจกที่กำลังมีอิทธิพลอย่างมากในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 แต่ได้ใช้สถาปัตยกรรมในรูปแบบ Art Deco ในสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษที่ 1920 ที่ Scott เคยเดินทางไปประสบพบเห็นแทน ซึ่งทำให้ผลงานของเขาถูกสถาปนิกจำนวนไม่น้อยในยุคนั้นมองว่าบิดเบือนไปจากหลักการของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ โดยบอกว่า Scott นั้นใส่ใจการแสดงออกด้านสไตล์ของอาคารมากเกินไปแทนที่จะมุ่งสะท้อนการใช้งานพื้นฐานของอาคาร ซึ่งก็เป็นดังที่ Scott ได้ให้ความคิดเห็นต่อสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ในยุคของเขาไว้ว่า การลดทอนการประดับตกแต่งและการใช้องค์ประกอบที่ขาดชีวิตชีวานั้นได้แพร่กระจายไปสู่ทุกอาคารอย่างขาดการไตร่ตรอง และ Scott คิดว่าแรงเหวี่ยงของการออกแบบนั้นจะหวนมาสู่จุดสมดุลที่ที่การใช้องค์ประกอบและการประดับประดานั้นจะถูกจัดวางอย่างเหมาะสมในที่ที่มันเป็นที่ต้องการและไม่ใช่ที่อื่นใด

อย่างไรก็ตาม กาลเวลาปัจจุบันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมของ Battersea Power Station นั้นควรค่าที่จะถูกเก็บรักษาและส่งต่อ โดยในปี 1980 และปี 2007 Battersea Power Station ได้รับเลือกให้เป็นอาคารอนุรักษ์ Grade II และ Grade II* ตามลำดับ จนเมื่อเดือนตุลาคมในปี 2022 ที่ผ่านมานี่เอง ที่ Battersea Power Station ได้เปิดต้อนรับผู้คนในฐานะศูนย์การค้า ที่พักอาศัย รวมถึงการเป็นสถานที่รองรับสำนักงานของ Apple แห่งใหม่ใจกลางเมือง

ก่อนการปรับปรุง โรงไฟฟ้าอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมไปมากจากการถูกทิ้งร้างมานานปี โดยหลักแล้วอาคารโรงไฟฟ้าแห่งนี้ประกอบไปด้วยโถง Turbine Hall A และ B ประกบด้านซ้ายและขวาของอาคาร อยู่เบื้องล่างและรองรับ Switch House ฝั่งละห้องรวมถึงปล่องควันสูงเสียดฟ้าทั้งสี่ โดยตรงกลางเป็นโถงใหญ่ Boiler House ที่สภาพก่อนปรับปรุงหลงเหลือเพียงกรอบกำแพงอิฐปราศจากหลังคา โครงการการปรับปรุง Battersea Power Station ที่ปรากฏล่าสุดนี้ได้ WilkinsonEyre เป็นสถาปนิกของโครงการ มีแนวคิดหลักคือการให้โรงไฟฟ้าได้เผยเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของตัวเอง ผ่านองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมเดิมที่ถูกอนุรักษ์ไว้ผสมไปกับดีไซน์ใหม่ๆ ที่จะปรากฏขึ้นในทั่วทุกส่วน

Turbine Hall A สภาพก่อนการปรับปรุง | Turbine Hall A before the renovation | Photo: WilkinsonEyre

Turbine Hall B สภาพก่อนการปรับปรุง | Turbine Hall B before the renovation | Photo: WilkinsonEyre

พื้นที่ใจกลางเป็นโรงต้มน้ำที่ถูกถอดหลังคาออกไปเมื่อจำเป็นต้องขนย้ายเครื่องจักรใหญ่ออกไปในคราวโรงไฟฟ้าปิดตัว ผนังอิฐหลายส่วนพังทลายไปในช่วงก่อการปรับปรุง | The center of the station was home to the Boiler House whose roof structure was dismantled when the massive machineries were to be removed after the power station permanently shut down. Multiple parts of the brick walls deteriorated before the renovation commenced | Photo: WilkinsonEyre

หลังจากการปรับปรุง Battersea Power Station ได้ถูกแบ่งการใช้งานหลักๆ ออกเป็นส่วนต่างๆ ได้แก่ ส่วนศูนย์การค้ากินพื้นที่ชั้นล่างสุดของอาคารที่รวม Turbine Hall ซ้ายขวารวมถึงชั้นแรกของโถง Boiler House เดิมไว้ นอกจากนั้นก็มีส่วนความบันเทิงต่างๆ อย่างโรงภาพยนตร์และโถงจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ที่ชั้นสองเหนือ Boiler House ขึ้นไป ส่วนสำนักงานของ Apple กินพื้นที่ 6 ชั้นบนสุดเหนือ Boiler House ส่วนที่พักอาศัยกินพื้นที่ 2 ส่วนคือส่วน Switch House เดิมทั้งซ้ายและขวาเหนือ Turbine Hall และอีกส่วนคือพื้นที่ส่วนหนึ่งของชั้นเหนือดาดฟ้าของส่วนสำนักงาน ต่อมาก็ยังมีการปรับปรุงห้องควบคุมเดิมทั้งสองฝั่ง ฝั่ง Control Room B กลายเป็นบาร์เครื่องดื่ม ส่วน Control Room A เป็นพื้นที่รองรับการจัดอีเวนท์ที่โดดเด่นด้วยการคงเอกลักษณ์การออกแบบห้องแบบ Art Deco และยังคงองค์ประกอบที่แสดงถึงเรื่องราวที่มาของอาคารอย่างการคงไว้ซึ่งอุปกรณ์ควบคุมต่างๆ ไว้ด้วย

 

Section

โถงร้านค้า Turbine Hall A ในวันเปิดตัวโครงการ แสดงการโครงสร้างทางเดินสำหรับชั้นลอยภายในอาคารเดิม | An image of Turbine Hall A turned retail spaces captured on the opening day of the project, depicting the structure of the walkway of the mezzanine floor of the original building | Photo: John Sturrock

แนวคิดการรักษาไว้ซึ่งองค์ประกอบเดิมแล้วนำเสนอใหม่ให้สอดคล้องไปกับงานใช้งานปัจจุบันนั้น ยังสามารถพบได้ในองค์ประกอบหลักอย่างเอกลักษณ์ของกำแพงอิฐโดยรอบ ถึงแม้อาคารจะยังคงสภาพเป็นอาคารอิฐเหมือนดังที่เป็นมาในอดีต แต่กำแพงอิฐในหลายส่วนของสถานที่นี้เกิดจากการรื้อกำแพงเดิมลงแล้วก่อสร้างใหม่แทนที่การรักษาของเก่าไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะกำแพงอิฐฝั่งตะวันตกที่สภาพก่อนปรับปรุงนั้นพังทลายลงไปเกือบหมด การออกแบบและก่อสร้างจึงเป็นการรื้ออิฐจำนวนมากออกไปแล้วสร้างใหม่ให้เหมือนเก่า ทั้งนี้ สถาปนิกยังคงความพยายามในการสื่อสารเรื่องราวของอดีตผ่านผนังอิฐในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นส่วนโถงร้านค้าที่สถาปนิกได้เผยกำแพงอิฐสูงใหญ่พร้อมให้เห็นโครงสร้างเหล็กรองรับภายในให้ผู้เยี่ยมชมได้รับรู้ที่มาที่ไปของอาคาร รวมไปถึงส่วนที่อยู่อาศัยในหลายห้อง ที่ก็มีการเปิดพื้นผิวให้เห็นผนังอิฐตามแนวคิดเดียวกันด้วย

ผนังในโถงต้อนรับเผยให้เห็นการก่อสร้างอาคารด้วยอิฐพร้อมโครงสร้างเหล็กรองรับ เพื่อสื่อเรื่องราวของอาคาร | The walls of the lobby’s interior unveils the construction details where bricks and steel structure exist as the main components, reminiscing the history of the building | Photo: Backdrop Productions

ส่วนห้องพักเผยการก่อสร้างด้วยอิฐแสดงที่มาที่ไปของอาคาร | The residential units reveal the traces of brick walls to reference the building’s history | Photo: Hufton and Crow

นอกจากนั้น อีกองค์ประกอบสำคัญที่ถูกปรับปรุงโดยการคงเอกลักษณ์เดิม คือปล่องควันคอนกรีตทั้งสี่ปล่องที่ได้ถูกรื้อลงทั้งหมดเนื่องจากมีสภาพไม่เหมาะสมกับการใช้งานในปัจจุบัน แล้วได้รับการหล่อขึ้นใหม่โดยให้คงรูปลักษณ์ตามอย่างในอดีต ยิ่งกว่านั้นหนึ่ง ในปล่องควันเหนือ Turbine Hall A ได้ถูกออกแบบให้เป็นปล่องลิฟท์ที่นำผู้คนขึ้นไปสู่ลานโล่ง ณ ปลายปล่องอันเป็นลานชมทัศนียภาพของเมืองลอนดอนในแบบที่มันไม่เคยถูกใช้งานในลักษณะนี้มาก่อน

จุดชมทัศนียภาพ ณ ปลายปล่องควัน Charlie JH Round-Turner Charlie JH Round-Turner | The observation deck at the highest point of the chimney (Charlie JH Round-Turner) | Photo: F10 Studio Ltds

การได้รับบทบาทใหม่ในฐานะสถานที่เพื่อความบันเทิงของผู้คน เป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์จากการเป็นอาคารตัวแทนอำนาจและความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรมในอดีตไปอย่างสิ้นเชิง วันนี้อดีตโรงไฟฟ้าถ่านหินถูกสวมภาพลักษณ์ใหม่ในฐานะพื้นที่ที่อุทิศตนเพื่อคนทั่วไป ภาพผู้คนพบปะโดยรอบสนามหญ้าหน้าอดีตโรงไฟฟ้าสูงใหญ่ เป็นหนึ่งเครื่องยืนยันที่ดีอันหนึ่งในการให้ความสำคัญกับความเชื่อมโยงระหว่างเมืองกับผู้คนผ่านสถาปัตยกรรม ที่ไม่ว่าอดีตของพื้นที่จะเคยเป็นเช่นไรมาก่อนก็ตาม

Photo: Charlie JH Round-Turner

wilkinsoneyre.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *