ที่นี่ไม่ใช่บ้านที่มีคอร์ทยาร์ดอยู่ตรงกลาง แต่เป็นคอร์ทยาร์ดที่มีบ้านล้อมรอบ ELASTICOFarm ออกแบบบ้านเพื่อทดลองพื้นที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ๆ ที่ทำตัวกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมด้วยวิธีไม่เหมือนใคร
TEXT: NATHATAI TANGCHADAKORN
PHOTO: ANNA POSITANO, GAIA CAMBIAGGI | STUDIO CAMPO
(For English, press here)
หากต้องรีโนเวทบ้าน 2 ชั้นกลางสวนสักหลัง ให้ทุกคนลองใช้เวลาคิดตามเล่นๆ สักหนึ่งนาทีว่าหน้าตาบ้านหลังนั้นจะออกมาประมาณไหน อาจมีเงื่อนไขสองสามข้อ เช่นการยุ่งกับโครงสร้างเดิมให้น้อยที่สุด การมีพื้นที่นั่งเล่นชมวิวสวยๆ สักมุม หรือรูปลักษณ์ภายนอกที่เตะตา The Hole with the House around หลังนี้ตอบโจทย์ทั้ง 3 ข้อ แต่ว่าไม่น่าจะใช่ในแบบที่ทุกคนกำลังนึกถึง ด้วยฝีมือของ ELASTICOFarm บริษัทสถาปนิกที่รับทั้งงานออกแบบอาคารและโปรดักต์ดีไซน์ ซึ่งก่อตั้งโดย Stefano Pujatti, Alberto Del Maschio และ Sara dal Gallo ความพิเศษของ ELASTICOFarm คือการเรียนรู้และทดลองหาความท้าทายในการออกแบบอยู่เสมอ ทั้งด้านวัสดุ การใช้เทคโนโลยี การประกอบกันของรูปทรงต่างๆ อันสามารถเห็นได้จากโปรเจ็กต์นี้อย่างชัดเจน
The Hole with the House around เดิมเป็นบ้านที่ตั้งอยู่กลางสวนส่วนบุคคลแห่งหนึ่งในย่าน Cambiano เมือง Turin ประเทศ Italy โดย Pujatti นำบ้านยุค 70s หลังนี้มาใช้ในฐานะ ‘ฐาน’ ของอาคารหลังใหม่ที่เขาตั้งใจทดลองค้นหาวิธีการอยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีรูปแบบแตกต่างไปจากเดิม ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ใช่การต่อเติมทั่วๆ ไป แต่เป็นบ้านโครงสร้างคอนกรีตหนาหนักหลังเดิมที่มีอาคารโครงสร้างเหล็กเกาะติดอยู่ด้านบน ด้วยทั้งรูปร่างหน้าตาและพื้นผิววัสดุภายนอกอาคารที่แตกต่างกันของทั้งสองอาคาร จึงดูราวกับช่องว่างระหว่างวัยของเด็กน้อยที่กำลังขี่หลังคุณปู่อยู่อย่างไรอย่างนั้น โดยหลังคาของบ้านเดิมถูกทุบและสร้างใหม่เป็นพื้นที่ระเบียงกว้างขวางให้กับบ้านด้านบนอีกด้วย
โปรเจ็กต์นี้ถูกก่อสร้างให้พึ่งพิงโครงสร้างเดิมให้น้อยที่สุด ที่เหลือคือหน้าที่ของเสาเหล็กสีเหลืองซึ่งยกตัวอาคารให้สูงขึ้นเท่าระดับทิวไม้ท้องถิ่นในเทือกเขาแอลป์ซึ่งเป็นทิวทัศน์เฉพาะตัวของพื้นที่นี้ สถาปนิกต้องการให้บ้าน ‘เปิดรับ’ ธรรมชาติรอบๆ เข้ามาด้วยวิธีไม่เหมือนใคร นั่นคือภายในบ้านทุกฟังก์ชันถูกตกแต่งด้วยสีเขียวหลากเฉด เมื่อประกอบกับเสาตัว Y แล้วก็อาจกล่าวได้ว่าบ้านหลังนี้คือต้นไม้ต้นหนึ่ง เพียงแต่กลับด้านนอกมาอยู่ด้านใน และส่วนใจกลางของบ้านก็ออกแบบเป็นคอร์ทยาร์ด (hole) ให้ต้นไม้และแสงแดดซึ่งเป็นธรรมชาติแท้จริงแทรกตัวเข้ามา และคอยเชื่อมมุมมองจากส่วนต่างๆ ของบ้านให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกถึงธรรมชาติจากทั้งสองทาง
นอกจากนี้ตัวบ้านยังเป็นอาคารประหยัดพลังงานด้วยการเลือกใช้ฉนวนโพลียูรีเทนโฟมที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนและความเย็น รวมถึงป้องกันการผ่านของเสียง ส่วนผิวอาคารภายนอกก็ถูกกรุด้วยแผ่นอลูมิเนียมลอน (corrugated aluminum) ซึ่งเป็นระบบการก่อสร้างแบบแห้งทั้งหมด ซึ่งยังคอยสะท้อนทิวทัศน์ภายนอกให้เห็นภาพทิวไม้รางๆ อีกด้วย
บ้านส่วนที่ก่อสร้างใหม่มีทางเข้าเป็นบันไดเหล็กทอดตัวลงมาเชื้อเชิญ ในภาพรวมแล้วผังของบ้านมีลักษณะเป็นฟังก์ชันที่ร้อยเรียงต่อเนื่องจนกระทั่งกลับมาบรรจบกันที่ทางเข้า เริ่มต้นที่ห้องนั่งเล่นคอยต้อนรับอยู่ด้านหน้า จากนั้นจึงเป็นห้องกินข้าว ครัว ส่วนเซอร์วิส และจบรอบที่ห้องนอน บนความตั้งใจของสถาปนิกในการออกแบบการอยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีรูปแบบแตกต่างไปจากเดิม แทบทุกการเปลี่ยนผ่านระหว่างฟังก์ชันจึงมีการเล่นระดับผ่านการใช้บันไดร่วมกับทางลาดเกิดเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดคือห้องครัวเนื่องจากเจ้าของบ้านเป็นเชฟ พื้นที่ทำอาหารของบ้านหลังนี้จึงถูกออกแบบให้เชื่อมต่อทางสายตากับส่วนทานอาหารไปจนถึงห้องนั่งเล่น ทั้งยังมองเห็นพื้นที่ rooftop ของบ้านเดิมซึ่งเป็นทั้งพื้นที่ใช้งานและสวนอย่างใกล้ชิด
เรียกได้ว่าบ้านหลังนี้มีครบทุกอย่างที่การปรับปรุงบ้านใหม่พึงจะมี และด้วยการสอดแทรกความอยากรู้อยากทดลองของ ELASTICOFarm ทำให้บ้านหลังนี้น่าจะอยู่สนุกไม่น้อยเลยทีเดียว