เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของ Häfele Thailand เราได้ชวน John Clare, Managing Director ของแบรนด์ มาสนทนาถึงแนวคิดและกระบวนการสร้างสรรค์อุปกรณ์ที่สอดประสานระหว่างการใช้งานคุณภาพสูงและดีไซน์ทันสมัย
TEXT: NATHATAI TANGCHADAKORN
PHOTO: WORAPAS DUSADEEWIJAI
(For English, press here)
ตลอดกว่าร้อยปีมานี้ Häfele ได้ยืนหยัดอยู่ในฐานะแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และฮาร์ดแวร์สำหรับงานสถาปัตยกรรมชั้นนำจากเยอรมนี เช่นเดียวกับการดำเนินกิจการในไทยกว่า 30 ปี ที่ Häfele Thailand ได้มอบโซลูชันอันล้ำสมัยเพื่อยกระดับและเสริมประสิทธิภาพของที่อยู่อาศัย
ตั้งแต่อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยจนถึงระบบดิจิทัลล็อคสุดล้ำ Häfele นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน อย่างเครื่องใช้และตู้เก็บของในครัว จนถึงอุปกรณ์ในห้องน้ำแบบครบชุดและสุขภัณฑ์ รวมถึงระบบดิจิทัลล็อค ความเชื่อมั่นในคุณภาพ การใช้งาน และการออกแบบนี้เองที่ทำให้ Häfele Thailand ได้รับความไว้วางใจจากบรรดานักออกแบบภายในและสถาปนิก
ในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปี Häfele Thailand ทาง art4d มีโอกาสพูดคุยกับ John Clare ซึ่งเป็น Managing Director ของแบรนด์ ว่าระหว่างฮาร์ดแวร์ที่มีความหลากหลาย คุณภาพสูง การใช้งานอันยอดเยี่ยมและดีไซน์ที่สวยงาม มาเชื่อมโยงกันได้อย่างไร
art4d: จากมุมมองของคุณ การใช้งานและดีไซน์ของ Häfele เชื่อมโยงกันได้อย่างไร
John Clare: หลายอย่างมันเชื่อมโยงกันอยู่แล้ว เราจะเห็นว่าความต้องการของนักออกแบบและสถาปนิกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่องานออกแบบและเทรนด์เปลี่ยนแปลง ฮาร์ดแวร์ก็ต้องเปลี่ยนตามไปด้วยเพื่อสนับสนุนเรื่องนั้น เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งก็เปลี่ยนอีก สิ่งเหล่านี้นำมาสู่ความต้องการที่แตกต่าง ทั้งสีสัน การสัมผัส ความรู้สึก เราต้องพบเจอจุดเปลี่ยนผ่านเสมอ และนั่นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคอยสังเกต
ขณะที่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ศตวรรษถัดไปในระดับโลก และทศวรรษที่ 4 ในไทย ความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์จากเยอรมนี คุณภาพ และนวัตกรรมยังมั่นคง เรามุ่งมั่นที่จะมอบการใช้งานอันเป็นเลิศและคุณภาพที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าในทุกผลิตภัณฑ์ของเรา ส่วนด้านการออกแบบ คอนเซ็ปต์ของ Häfele คือต้องมีเอกลักษณ์และเหนือกาลเวลา พิสูจน์ได้โดยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีแม้แต่ด้ามจับ Häfele ยังได้รับรางวัลมาหลายครั้ง เช่น iF DESIGN AWARD และ Red Dot Design Award เป็นต้น
art4d: Häfele มีวิธีตามเทรนด์การออกแบบได้อย่างไรบ้าง
JC: ส่วนหนึ่งก็คือการทำงานร่วมกับนักออกแบบและสถาปนิกซึ่งเราทำกันอยู่แล้วกิจวัตร เมื่อมีอาคาร โรงแรม คอนโดมิเนียม หรือศูนย์การค้าใหม่เกิดขึ้น เราก็จะเห็นเองว่ามันอะไรเกิดขึ้นในนั้นบ้างและสังเกตเทรนด์จากตรงนั้น
นั่นคือข้อมูลชุดหนึ่ง ต่อจากนั้นเราก็ไปดูงาน trade show ระดับโลก ทีมเราแวะเวียนไปสำรวจงานเหล่านั้นเสมอ บ้างก็ไปยุโรป จีน หรือสิงคโปร์ และงานอื่นๆ ที่บรรดานักออกแบบจะได้มารวมตัวกันเพื่อสำรวจเทรนด์และอะไรหลายอย่างที่เป็นไปได้
ที่กล่าวมาคือการพยายามตามให้ทันกระแสของพวกเรา นอกจากนี้เรายังมีทีมที่เรียกว่า product category ซึ่งจะไปยังตลาดต่างๆ แล้วทำความเข้าใจเทรนด์เหล่านั้น พวกเขาทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ของเรา กลุ่มนักออกแบบ และทีมฝ่ายขาย Häfele พยายามคาดการณ์อย่างเต็มที่ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตลาด
art4d: คุณช่วยยกตัวอย่างแนวคิดของ Häfele Design Studio หน่อย
JC: สำหรับเรา ดีไซน์สตูดิโอเป็นสถานที่สำคัญที่ชุมชนนักออกแบบสามารถมาเยือน มองเห็น สัมผัส และรู้สึกถึงตัวผลิตภัณฑ์ นักออกแบบล้วนมีความคิดสร้างสรรค์ แต่บางครั้งพวกเขาก็มองไม่เห็นภาพว่าของสิ่งนั้นทำงานอย่างไร แล้วจะสามารถทำงานได้ในแบบที่พวกเขาต้องการหรือไม่
เราตั้งเป้าที่จะพัฒนา Häfele Design Studio ให้กลายเป็น Häfele Experience Center ซึ่งเป็นแหล่งรวมแรงบันดาลใจชั้นนำสำหรับลูกค้าของเรา เพื่อจะให้คำปรึกษาและแนะนำแนวทางที่ดีที่สุดในการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย เป้าหมายของเราคือสร้างแรงบันดาลใจให้การออกแบบที่ทันสมัย พร้อมให้บริการสุดพิเศษผ่านศูนย์บริการของเรา
เรามีดีไซน์สตูดิโอที่กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และหัวหิน ความแตกต่างที่เราเห็นในแต่ละภูมิภาคคือลูกค้าของเรามีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน อย่างลูกค้าที่อยู่ภาคเหนือต่างจากภูเก็ตซึ่งมีความหรูหรามากๆ ดังนั้นเราจึงพยายามจัดสรรเพื่อสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันไป ช่วยพวกเขาเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้
art4d: เราได้เห็นโปรเจกต์ที่คุณร่วมงานกับนักออกแบบชาวไทยในโอกาสฉลองครบรอบปีที่ 30 Häfele Thailand คุณมองแนวทางของ Häfele ในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง ในเรื่องการออกแบบหรือโปรเจกต์ร่วมกับนักออกแบบในไทย
JC: Häfele Thailand ยังมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับนักออกแบบชาวไทยอีกหลายโปรเจกต์ในอนาคต รวมถึงการส่งเสริมกลุ่มนักเรียนนักศึกษาในสาขาออกแบบ ด้วยการชักชวนให้พวกเขามาร่วมมือกับแบรนด์ของเราในการนำเสนอไอเดียงานออกใหม่ๆ สำหรับโปรเจกต์ในอนาคต
Häfele สนับสนุนนักออกแบบไทยภายใต้ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เราคือคนที่จะช่วยมอบเครื่องมือที่เหมาะสมในการทำงานให้กับพวกเขา ส่วนนักออกแบบก็ได้แรงบันดาลใจและสามารถนึกภาพผลงานหรือประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ซึ่งอาจยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้
ปี 2567 ถือเป็นปีแรกที่ Häfele ได้ทำงานร่วมกับนักออกแบบชาวไทยในการสร้างสรรค์ผลงานดีไซน์ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ เพื่อเฉลิมฉลองปีที่ 30 ของแบรนด์ในประเทศไทย เราตื่นเต้นที่ได้ประกาศความร่วมมือกับนักออกแบบในท้องถิ่น การจับมือกันที่น่าตื่นเต้นครั้งนี้ยังได้สะท้อนความเชื่อมั่นของเราที่จะสร้างงานดีไซน์ไม่เหมือนใครที่สะท้อนถึงลูกค้าชาวไทยด้วย
คอลเล็กชันตัวใหม่นี้เป็นการร่วมงานกับหมู ASAVA (พลพัฒน์ อัศวะประภา) สำหรับตู้เย็น ‘HÄFELE Retro Minibar (Cute Series)’ ตามด้วยอู๋ PIA Interior (ภฤศธร สกุลไทย) สำหรับ ‘30 80 Door Set Collection’ และ Bloody Hell Big Head (BHBH) หรือธนวัต ศักดาวิษรักษ์ ซึ่งมาดีไซน์ของขวัญ exclusive จำนวนจำกัดให้เรา