เก้าอี้หลากสีที่ซ้อนทับกันอยู่ในนิทรรศการของ วิชญ มุกดามณี ถูกจัดเรียงขึ้นด้วยความตั้งใจ เพียงเพื่อพบกับวาระสุดท้ายที่พังทลายลง เช่นเดียวกับการเลือกตั้งเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
TEXT: KARJVIT RIRERMVANICH
PHOTO COURTESY OF 333GALLERY
(For English, press here)
นิทรรศการนี้จบลงแล้ว เช่นเดียวกับการเลือกตั้งเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
2023 จนถึงตอนนี้เป็นปีที่ประหลาด เหมือนจะฟื้นจากโควิด แต่ก็ยังมีคนติดโควิดอยู่เรื่อยๆ แถมมีหวัดตามฤดูกาลที่แรงกว่าโควิดมาซ้อนอีกชั้นหนึ่ง เหมือนมีอะไรทับซ้อนแล้วมาหลอกหลอนเราไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น มีคุกในโรงพยาบาล มีรัฐบาลผสม มีเงินดิจิตอลที่ยังไม่รู้ว่ามีจริงไหม ทั้งในแง่ที่มันอยู่ในโลกดิจิตอล และในแง่ที่มันอยู่ในคำโฆษณาให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเท่านั้น
ในวันปิดนิทรรศการ วิชญ มุกดามณี ตั้งใจจะแจกเก้าอี้พลาสติกหลากสีที่เขาจัดวางซ้อนชั้นไปจนเกือบสุดเพดาน 333Gallery ให้กับใครก็ตามที่มาหาเขาในวันนั้น นิทรรศการชื่อ ‘ทรุด’ หรือ ‘Collapsed’ ในภาษาอังกฤษนี้ย้อนแย้งกับสิ่งที่มันเป็น วิดิโอในผนังฝั่งหนึ่งแสดงความประณีตละเมียดละไมของวิชญ ในการค่อยๆ ทดลองซ้อนเก้าอี้ขึ้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ในขั้นตอนของการเตรียมการ กิจกรรมนั้นเชื่องช้า อ่อนไหว และต้องระมัดระวัง เพราะหนึ่งเก้าอี้ที่ล้มจากด้านบนหมายถึงโดมิโนที่เก้าอี้ทั้งหมดจะล้มพังทลาย
เก้าอี้เหล่านี้ทำหน้าที่เป็น infographic แสดงผลการเลือกตั้งเมื่อกลางปีที่ผ่านมา จำนวน 400 ตัวของมันแทนจำนวน 400 เขตเลือกตั้ง และสีสันของมันก็แทนสีของพรรคการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ตรงกลางสุดของห้องมีเก้าอี้สีส้ม 32 ตัวซ้อนกันแทนจังหวัดกรุงเทพมหานคร ใจกลางของประเทศไทย (มีสีแดงแทรกไม่เข้าพวกอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะกลมกลืนกันในการมองทีแรก แต่ก็ดูไม่เข้าพวกในที่สุด) จากจุดนั้นไล่ลงไปเป็นภาคใต้ที่มุมหนึ่งของแกลเลอรี เห็นได้เด่นชัดเพราะตรงปลายเป็นสีทองแทนพรรคประชาชาติ ในส่วนนี้สีฟ้าร่อยหรอจนแทบมองไม่เห็น ส่วนอีกมุมหนึ่งของห้องที่เป็นภาคเหนือและอีสานเก้าอี้ดูแน่น เบียดเสียด และหลากหลาย มีสีส้มและสีแดงเป็นหลัก แทรกด้วยสีอื่นๆ
ผนังของแกลเลอรีจัดแสดงผลงาน painting ประกอบกับงาน installation เก้าอี้ ตัวงาน painting ที่มีสีสันชัดเจนในแต่ละเฟรม “ใน painting มันมีบางสีที่ overpower สีอื่นอยู่ และกรอบสีแดง เราตั้งใจหมายถึงพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง” วิชญแวะมาอธิบายกับเรา ระหว่างที่เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะอธิบายบริบททั้งหมดของนิทรรศการให้นักท่องเที่ยวชาวฟิลิปปินส์ฟัง นักท่องเที่ยวคนนี้รับเก้าอี้สีส้มกลับประเทศไป 1 ตัว
ลูกสาววัย 6 ขวบของผมสนุกสนานเพลิดเพลินกับการเลือกสีเก้าอี้ที่เธออยากได้กลับบ้าน จนมาสะดุดตากับเก้าอี้สีน้ำตาลในละแวกภาคอีสานของนิทรรศการ วิชญอธิบายว่าสีนี้แทนพรรคไทยสร้างไทย เนื่องจากสีน้ำเงินมีหลากหลายเฉดจนต้องเลือกเอาสีที่มาทดแทน อุปสรรคก็คือเก้าอี้ตัวนี้อยู่ตัวล่างสุดของจังหวัดนั้น และผมเชื่อและสรุปเอาเองว่าวิชญเตรียมการนิทรรศการทั้งหมดมาเพื่อวินาทีนี้ ที่เขาจะได้ผลักเก้าอี้หลากสีที่อยู่เหนือเก้าอี้สีน้ำตาลตัวนั้นล้มลง และนิทรรศการทั้งหมดจะ ‘ทรุด’ ลงจริงๆ ตามชื่อของมัน และพาเอาเก้าอี้ในแถวอื่นๆ ล้มลงระเนระนาดจนไม่สามารถอ่านเนื้อหาของ infographic ผลการเลือกตั้งได้เข้าใจอีกต่อไป
วิชญบรรจงเซ็นเก้าอี้สีน้ำตาลตัวนั้นให้กับลูกสาวของผม “ความตั้งใจของเราคือ ในวันปิดนิทรรศการ เราจะคืนผลโหวตเหล่านี้ ให้กับประชาชนที่เป็นเจ้าของมันกลับไปดูแล” เขาอธิบายในระหว่างนั้นและร่วมถ่ายรูปกับลูกสาวผมที่จะมีสิทธิ์เลือกตั้งในอีก 12 ปีข้างหน้า หรือในอีก 3 การเลือกตั้งถัดไปถ้าไม่มีการรัฐประหารอีก
ภาพนั้นเป็นภาพของเด็กหญิงคนหนึ่งกับศิลปิน พร้อมกับเศษซากปรักหักพังของเก้าอี้ในฉากหลัง ที่ตรงกันข้ามกับความเชื่องช้า ประณีต ละเอียดลออ ของการก่อร่างสร้างนิทรรศการนี้ขึ้นมาที่โชว์อยู่ในวิดิโอในอีกฝั่งหนึ่งของนิทรรศการ วิดิโอนี้ยาวนานเกินกว่าเราจะสนใจดูจนจบ มันเป็นวิดิโอของศิลปินและผู้ช่วยสองสามคน ค่อยๆ ช่วยกันเรียงเก้าอี้เหล่านี้ตามผลการเลือกตั้งจริงๆ ขึ้นมาทีละตัว ทีละตัว เพียงเพื่อให้ในวันสุดท้ายมันถูกพังทลายลง โดยตัวศิลปินเพียงคนเดียว ที่ไม่ได้เป็นต้นตอของข้อมูลและเหตุผลที่มันถูกสร้างขึ้นมา
และเพื่อให้ความหวังและความฝันของประเทศนี้ ส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไป ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่ง เก้าอี้เหล่านี้ จะถูดจัดวางตามความต้องการของประชาชน และจะไม่มีใครมาทำให้มัน ‘ทรุด’ ลงตามอำเภอใจได้อีกเลย