TWO AIRCRAFT INTERIOR DESIGN COMPANIES OFFER SOME PRACTICAL SOLUTIONS FOR AIR TRAVEL DURING COVID-19 PANDEMIC
TEXT: PAWIT MAHASARINAND
PHOTO: COURTESY OF AVIO INTERIORS / HAECO
(For English, press here)
ถึงแม้จะยังไม่มีวัคซีนทั้งป้องกันและรักษาโควิด-19 แต่หลาย ๆ คนก็มี (หา) เหตุผลเรื่องงานให้ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินกันแล้วเร็ว ๆ นี้ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาธุรกิจการบินเป็นธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักที่สุด จากที่เคยพูดกันว่า “เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ขึ้นเครื่องบินได้” กลายเป็นต้องถามว่า “แน่ใจนะจะขึ้นเครื่องบิน” จากที่เคยอยากไปถึงจุดหมายให้เร็วที่สุดด้วยค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ตอนนี้ผู้โดยสารต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพของทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทางก่อนแล้ว ในขณะเดียวกันสายการบินต่างๆ ก็ต้องหาวิธีให้กลับมาให้บริการตามเดิมโดยเร็วที่สุด หลังจากที่เครื่องบินส่วนใหญ่จอดนิ่งสนิทอยู่นานเป็นเดือน จะมัวแต่รอให้รัฐบาลช่วยเยียวยาหรือตัดสินใจว่าควรเป็นรัฐวิสาหกิจต่อไปก็คงไม่ได้แล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อน บริษัทออกแบบภายในเครื่องบิน 2 บริษัทได้นำเสนองานออกแบบที่เป็นประโยชน์กับทั้งผู้โดยสารและสายการบิน ซึ่งเราน่าจะได้เห็นกันบนเครื่องบินจริงๆ เร็วๆ นี้
Glasssafe. Photo courtesy of Avi Interiors
‘Glasssafe’ ของบริษัท Avi Interiors ที่เมืองเนเปิลส์ เป็นอุปกรณ์เสริมที่ประกอบง่าย ถอดง่าย ทำความสะอาดง่าย เมื่อติดตั้งกับที่นั่งผู้โดยสาร จะช่วยทั้งสร้างพื้นที่ส่วนตัวและป้องกันของเหลวอันไม่พึงประสงค์ เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อไวรัส ‘Glasssafe’ ทำจากวัสดุใส เพื่อให้บรรยากาศในห้องผู้โดยสารไม่อับทึบและไม่ไปรบกวนงานออกแบบภายในของเดิมมากนัก แต่ถ้าสายการบินชอบแบบทึบก็มีให้เลือก ใสแบบนี้คู่รักนักเดินทางก็ยังส่งสายตามุ้งมิ้ง (ผ่าน ‘Glasssafe’) ยังคุยกันหนุงหนิง (ผ่านหน้ากากอนามัย) ยังจับมือกรุบกรับ (ผ่านถุงมือ) ได้ แต่ข้ามขั้นไปจุ๊บจั๊บไม่ได้แน่ๆ
บริษัทเดียวกันยังได้นำเสนอ ‘Janus’ ซึ่งตั้งชื่อตามเทพเจ้าโรมันโบราณผู้มีสองหน้า งานออกแบบนี้ต้องใช้การปรับที่นั่งตรงกลางของแถว (ที่ไม่ค่อยมีใครอยากนั่ง) ให้หันไปทางด้านหลังของตัวเครื่อง สวนกับทิศทางการบิน ซึ่งด้วยความเร็วสูงของการบินก็ไม่ได้ทำให้เวียนหัว แต่ละที่นั่งจะติดตั้งแผ่นกั้นซึ่งก็มีทั้งแบบใสและทึบทั้งด้านข้างและบน เพื่อแยกผู้โดยสารในแถวเดียวกันให้เหมือนออกห่างจากกันและที่สำคัญก็คือป้องกันไม่ให้หายใจรดกัน
ทั้ง ‘Glasssafe’ และ ‘Janus’ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีซึ่งอาจมาแทนการเว้นที่นั่งตรงกลางให้ว่างไว้และเสียรายได้ค่าตั๋วเครื่องบินไปนั่นเอง
Janus. Photo courtesy of Avi Interiors
อีกประเด็นหนึ่งก็คือ ปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารกับปริมาณสินค้าที่ขนส่งทางอากาศนั้นแปรผกผันกัน ห้องผู้โดยสารโล่ง แต่ห้องเก็บสินค้านั้นแน่นขนัด HAECO Cabin Solutions ที่รัฐแคโรไลนา บริษัทลูกของ Hong Kong Aircraft Engineering Company Limited (HAECO) ได้พัฒนางานออกแบบ 4 แบบที่จะช่วยให้ผู้โดยสารและสินค้าอยู่ด้วยกันในห้องโดยสารได้เสร็จพร้อมผลิตภายในเดือนเดียว โดยคำนึงถึงทั้งการรักษาระยะห่าง (ที่ตอนนี้เรียกกันใหม่ว่า physical distancing แล้ว) รายได้ของสายการบิน ตลอดจนน้ำหนักและสมดุลที่เหมาะสมต่อการบินด้วย
แบบแรกเป็นแผ่นวางกล่องสินค้าที่รับน้ำหนักได้ 1,000 ปอนด์ (453 กก.) ต้องถอดแถวเก้าอี้ที่นั่งออกไปก่อน แต่ขนาดก็ออกแบบมาพอดีให้เว้นทางเดินตรงกลางได้ แบบที่สอง all-in-one package storage device ใช้พื้นที่ทั้งบนและหน้าที่นั่งวางกล่องสินค้า รับน้ำหนักเต็มที่ 500 ปอนด์ (226 กก.) ต้องถอดเบาะที่นั่งออกก่อน แต่ยังวางโครงไว้ตามเดิม สองแบบสุดท้ายนำมาประกอบได้ทันทีไม่ต้องถอดอะไรออก in-seat package stowage system ใช้พื้นที่บนเก้าอี้ ส่วน seat front package stowage system ก็ใช้พื้นที่หน้าเก้าอี้เพื่อวางกล่องสินค้า ทั้งสองแบบนี้รับน้ำหนัก 240 ปอนด์ (108 กก.) ทั้งสี่แบบนี้ติดตั้งได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ และเมื่อห้องผู้โดยสารเป็นลูกผสมแบบนี้แล้ว เจ้าของสัตว์เลี้ยงผู้ไม่ยอมพรากจากลูกรักน่าจะคิดอะไรออกแล้วยิ้มได้ทันที
Photo courtesy of HAECO
นี่คงเป็นตัวอย่างบางส่วนของความคิดสร้างสรรค์ที่ยังพรั่งพรูแม้ในยามคับขัน และอันที่จริงการออกแบบภายในเครื่องบินก็ยังเป็นสาขาที่นักออกแบบชาวไทยยังไม่ได้ให้ความสนใจมากเท่าที่ควร แต่ในสมัยที่รัฐบาลกำลังพยายามทวงคืนสถานะการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค โดยการผลักดันการก่อสร้างโครงการใหญ่อย่างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance, Repair and Overhaul: MRO) ที่สนามบินอู่ตะเภาเช่นนี้ น่าจะถึงเวลาแล้วที่อาจารย์ผู้สอนและนักศึกษาผู้เรียนสาขาการออกแบบอุตสาหกรรมและวิศวกรรมการบินจะมาทำงานร่วมกันบ้าง
Janus. Photo courtesy of Avi Interior