LET’S STROLL THROUGH THE NEW HEADQUARTERS OF JORAKAY CORPORATION AND EXPERIENCE HOW SEE JORAKAY, THE BRAND’S LATEST PRODUCT LINE, IS INTRODUCED INTO THE SPACE
TEXT: PAPHOP KERDSUP
PHOTO: KETSIREE WONGWAN EXCEPT AS NOTED
(For English, press here)
เชื่อว่าหลายคนคงจะได้เห็นหน้าตาของอาคารสำนักงานใหญ่หลังใหม่บนถนนกรุงเทพกรีฑาของ บริษัท จระเข้คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “จระเข้” ผ่านทางโซเชียลมีเดียกันมาบ้างแล้ว กับการออกแบบ façade ด้วยอะลูมิเนียมคอมโพสิต ห่อหุ้มภายนอกอาคารจนได้รูปร่างที่ดูไปแล้วก็คล้ายกับหัวของจระเข้อยู่ไม่น้อย ซึ่งงานนี้ได้บริษัทสถาปนิกแถวหน้าอย่าง A49 มาช่วยแปลงความคิดให้เกิดเป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่ใครๆ ก็ต้องบอกว่ามีลักษณะที่เฉพาะตัวมาก
ตัวอาคารถูกแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 อาคาร จัดวางให้ฟังก์ชั่นภายในนั้นสอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ที่ต่างกันภายในองค์กร เช่น อาคาร A บริเวณส่วนหน้าสุดสำหรับฝ่ายบริหารที่เป็นเสมือนมันสมองผู้กำหนดวิสัยทัศน์ของบริษัท อาคาร C บริเวณหลังสุดซึ่งจะตรงกับตำแหน่งของหางจระเข้สำหรับฝ่ายการตลาด ซึ่งเป็นผู้กำหนดทิศทางของแบรนด์จระเข้ และยังมาพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่เตรียมไว้ให้พนักงานได้ใช้สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งหมดนั้นถูกออกแบบโดยมีแนวคิดของการสร้าง “ความสุข” ผ่านสเปซเป็นฐานด้วยกันทั้งสิ้น
กาวซีเมนต์ กาวยาแนว น้ำยาสำหรับทากันซึม สิ่งเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของแบรนด์จระเข้ที่ใครๆ ก็รู้จัก แต่นอกจากนวัตกรรมปูกระเบื้องและซ่อมสร้างแล้ว “สีจระเข้” (SEE Jorakay) ก็ถือเป็นอีกไลน์ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่น่าจับตามองเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีนวัตกรรมที่ทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีทางเลือกสำหรับใช้งานได้หลากหลายด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อจระเข้ย้านมาบ้านหลังใหม่ทั้งที ก็ไม่พลาดที่จะใช้สเปซต่างๆ เป็นตัวช่วยโชว์ความสามารถของผลิตภัณฑ์สีจระเข้ด้วย ที่เห็นได้ชัดทั่วทั้งอาคารคือการเลือกสี GColor Stuki Premium กับบริเวณเสาของอาคาร รวมถึงภายในห้องน้ำ ซึ่งจะว่าไปผลิตภัณฑ์นี้ถูกออกมาเพื่อคนที่ชอบการตกแต่งแนวลอฟต์โดยเฉพาะ ทำให้เมื่อทาลงไปแล้วจะได้ลวดลายที่มีความเงาคล้ายกับหินอ่อนเลย
ขณะเดียวกัน GColor Stuki Premium ก็ยังถูกใช้งานทั่วทั้งบริเวณเสาและผนังในส่วน Happiness Lounge พื้นที่อเนกประสงค์ที่บริเวณชั้นที่ 1 ของอาคารด้วย ซึ่งด้วยแนวคิดที่ต้องการให้ฟังก์ชั่นส่วนนี้เป็นพื้นที่สำหรับให้ผู้คนได้มาพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานของจระเข้เองหรือลูกค้าที่เข้ามาติดต่อก็ตาม การใช้สีโทนเข้มที่ให้ความรู้สึกเงียบสงบ ขณะเดียวกันผิวสัมผัสของสีก็ดูเย็นสบาย ช่วยทำให้ Happiness Lounge แห่งนี้ส่งเสริมการใช้งานได้อย่างที่ผู้ออกแบบและแบรนด์ต้องการจริงๆ
อีกส่วนที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เราเป็นอย่างมากคือการใช้ผลิตภัณฑ์ Color Cement ของสีจระเข้ที่บริเวณพื้นภายในอาคาร ซึ่งด้วย texture ของเนื้อซีเมนต์ในสีที่มีความหยาบอันเป็นลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์ บวกกับการฝังเส้นแบ่งพื้นออกเป็นช่องในขนาดเท่าๆ กัน ทำให้เมื่อมองด้วยตาแล้วจะเข้าใจผิดว่าพื้นนั้นถูกปูด้วยแผ่นกระเบื้องทันที
อีกไฮไลท์ที่สำคัญของสำนักใหญ่หลังใหม่แห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณส่วนหน้าสุดของอาคารคือ Jorakay Museum พื้นที่นิทรรศการที่นอกจากจะจัดแสดงของสะสมส่วนตัวของผู้ก่อตั้งที่เกี่ยวข้องกับ “จระเข้” ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ วัตถุโบราณ หรือสินค้าจากที่ต่างๆ แล้ว (มากจนได้ Guinness World Records ยังบอกว่าเป็นคอลเล็กชั่นสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว) ยังจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์จระเข้ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน จนถึงอนาคตด้วย ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ผลิตภัณฑ์ Color Stucco ของสีจระเข้ถูกใช้เป็นพระเอกหลักบนผนังส่วนนิทรรศการ ด้วย texture ที่มีความหยาบและมีมิติเฉพาะตัว ทำให้มันชวนให้เรานึกถึงผิวหนังของจระเข้ที่ถูกลดทอนให้ร่วมสมัยลงด้วยเหมือนกัน
ในบริเวณใกล้กันกับส่วนนิทรรศการ ผนังขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ติดกับลิฟต์ส่วนหน้าถูกใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงพื้นผิวแบบต่างๆ ของผลิตภัณธ์ Color Stucco ซึ่งมีลวดลายที่ต่างกันให้เลือกใช้ถึง 6 แบบ คือ ลาย 8 O’Clock ลาย Rocky Snow ลาย Sand Stone ลาย Lava Rock ลาย Slide Slade และลาย Brick โดยแต่ละลวดลายนั้นเกิดขึ้นจากเทคนิคทาด้วยเครื่องมือและฝีมือของช่างที่ต่างกัน และด้วย texture ที่มีความเฉพาะนี้เอง ที่บางลวดลายก็ดูคล้ายกับวัสดุ เช่น คอนกรีต หิน หรืออิฐ (แต่มีน้ำหนักเบากว่าวัสดุจริงมาก) หรือบางลายก็ดูคล้ายกับฝีแปรงบนภาพวาดสีน้ำมัน ทำให้พื้นที่จัดแสดง Color Stucco นี้น่าจะช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจในการเลือกใช้สีจระเข้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์สีจระเข้ภายในอาคารสำนักงานใหญ่ตามส่วนต่างๆ ที่เรายกมา เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เห็นตัวอย่างการใช้งานจริงแล้ว ในเร็วๆ นี้ “สีจระเข้” ยังเตรียมเปิดโชว์รูมของตนเองในพื้นที่เดียวกัน (บริเวณอาคารด้านหลัง) เพื่อต่อยอดแรงบันดาลใจและแสดงให้เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการใช้ผลิตภัณฑ์อีกด้วย แถมยังจะมาพร้อมกับพื้นที่ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถมาผสมสีในโทนที่ต้องการได้ด้วย ซึ่งโชว์รูมที่ว่านี้จะมีลักษณะอย่างไร หรือจะต่างไปจากการออกแบบโชว์รูมอื่นๆ แค่ไหน ติดตามรายละเอียดได้เร็วๆ นี้