ATELIER KI JUN KIM AND STUDIO IN LOCO JOIN FORCES TO REVAMP THE OLD BUILDING IN MYUNG-DONG AND TURN THE PLACE INTO THE NEIGHBORHOOD’S NEW LANDMARK
TEXT: PICHAPOHN SINGNIMITTRAKUL
PHOTO: JOONHWAN YOON
(For English, press here)
ท่ามกลางความคึกคักในย่านการค้า Myung-dong ใจกลางกรุงโซล อาคาร Shinhan EX:PACE ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมทางแยกติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Myung-dong เป็นอาคารโฉมใหม่ของ Shinhan Bank ผลงานออกแบบของสตูดิโอเจ้าถิ่น Atelier KI JUN KIM และ Studio in Loco ที่ร่วมกันปรับโฉมตึกเก่าที่สร้างขึ้นในปี 1992 ให้กลายเป็นตึกที่ห่อหุ้มด้วย façade คลื่นโค้ง พร้อมกับปรับเปลี่ยนฟังก์ชันภายในให้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของยุคสมัย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดในเกาหลีใต้แห่งนี้ไปอย่างผิดหูผิดตา
พื้นที่ใช้สอยทั้ง 6 ชั้นของตึก ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ โดยโซนแรกคือโซนธนาคารและสำนักงาน ซึ่งมีพื้นที่ส่วนที่เปิดให้บริษัทเทคโนโลยีและกลุ่มสตาร์ทอัพได้เข้ามาใช้บริการ ส่วนอีกโซนหนึ่งเป็นโซนพักผ่อนที่ Shinhan Bank ตั้งใจเปิดให้คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามานั่งเล่นชมทิวทัศน์ผ่าน façade กระจก ที่สามารถมองเห็นความคึกคักของย่านได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
ส่วนของ façade โค้งที่โดดเด่นนั้น สถาปนิกได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานออกแบบโบสถ์ La Chiesa di San Carlo alle Quattro Fontane ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ของสถาปนิก Francesco Borromini ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยระบบ façade นี้เกิดจากโมดูลของกระจกที่เรียงต่อเนื่องกันทั้งสิ้นรวม 320 โมดูล ใน 14 รูปแบบคลื่นโค้ง รวมกันเป็นทรงคลื่นที่ห่อหุ้มอาคารทั้งหมด ให้ความรู้สึกเหมือนอาคารพริ้วไหวอยู่ตลอดเวลา แต่ละโมดูลประกอบขึ้นจากกระจก 3 ชั้นที่มีความหนารวม 41.52 มม. ประกอบด้วย กระจกคู่อาร์กอนก๊าซ (Double glazing), กระจกโลวอี (Low-E) เพื่อช่วยป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร และกระจกเคลือบเซรามิก Dot frits เพื่อสร้างลวดลาย pattern ส่วนโครงสร้างที่รองรับกระจกใช้เหล็กที่มีค่า strength สูง เพื่อลดขนาดหน้าตัดของชิ้นส่วนโครงสร้างให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีการเลือกใช้ Super mirrored stainless steel ในการตกแต่งผิวด้านล่างของโมดูล เพื่อเพิ่มมิติในการการสะท้อนแสงเงาของบริบทในย่านอีกด้วย
ลงทุนและออกแบบรายละเอียดกันขนาดนี้ เรียกได้ว่านอกจากจะสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับตัวธนาคารเองแล้ว ก็ยังเป็นการสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของย่านนี้ทั้งย่านไปด้วยเลยในเวลาเดียวกัน