บูธ WINDSOR แบรนด์ประตูหน้าต่างไวนิลในงานสถาปนิก’ 67 ครั้งนี้ มาในรูปแบบพาวิลเลียนสไตล์โมเดิร์น ที่แสดงคุณสมบัติการป้องกันความร้อน เสียง และรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์งานดีไซน์ได้อย่างอิสระ
TEXT: NATHATAI TANGCHADAKORN
PHOTO: DUANGSUDA KITTIVATTANANON
(For English, press here)
งานสถาปนิก’ 67 คราวนี้มีหลากหลายบูธที่น่าสนใจมาร่วมแจมเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการด้านงานออกแบบ ทั้งผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงการสถาปัตยกรรมกันเช่นเคย โดยหนึ่งในแบรนด์ที่มาเข้าร่วมงานสำคัญประจำปีของปีนี้คือ WINDSOR แบรนด์ประตูหน้าต่างไวนิล ผู้นำตลาดในแถบอาเซียนโดยนวพลาสติกอุตสาหกรรม ในเครือ SCGC
ไม่ว่าจะมีรูปลักษณ์ภายนอกอย่างไร หรือมีคอนเซ็ปต์เรียบง่ายหรือซับซ้อนแบบไหน สถาปัตยกรรมย่อมมาพร้อมประตูและหน้าต่างเสมอ (อาจยกเว้นอาคารเลี้ยงนกนางแอ่นสำหรับรังนกไว้สักประเภท แต่นั่นก็ถือเป็นส่วนน้อย) และด้วยความก้าวหน้าของนวัตกรรมในปัจจุบัน วัสดุของกรอบบานก็มีมากมายให้เลือกสรรตามไปด้วย ในบทความชุดนี้เราจะมาพูดถึง ‘ไวนิล’ ที่ WINDSOR ใช้เป็นวัสดุหลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่าง ภายใต้โจทย์ที่ต้องสามารถตอบรับงานออกแบบได้ทุกประเภท ตั้งแต่บ้านพักอาศัยไปจนถึงอาคารพาณิชย์
WINDSOR มุ่งสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่มีคุณภาพอย่างมีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดยนำเสนอผ่าน 3 ใจความหลักของบูธในงานสถาปนิก’ 67 ได้แก่ ‘Ultimate Protection’ คุณสมบัติการปกป้องบ้านและผู้อยู่อาศัย, ‘New Product Design’ ตอบโจทย์งานออกแบบได้อย่างอิสระ และ ‘Sustainability’ วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ที่อัดแน่นอยู่ภายในพาวิลเลียนรูปทรงเรียบง่าย ทว่ามีทั้งความโมเดิร์นที่สื่อถึงความทันสมัยของแบรนด์ และพื้นที่ให้ประตูหน้าต่างหลากหลายขนาดได้แสดงศักยภาพ
Ultimate Protection – คุณสมบัติการปกป้องบ้านและผู้อยู่อาศัย
ประตูและหน้าต่างเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นต้องทนต่อสภาพแวดล้อม และมีความสำคัญอย่างมากในการจัดการสเปซภายใน เนื่องจากต้องทำหน้าที่ทั้งเปิดให้ผู้ใช้งาน แสง หรือสายลมพัดผ่านเข้ามาได้ แต่บางเวลาก็ต้องปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว และปกป้องเราจากสิ่งไม่พึงประสงค์ภายนอก
ภายในบูธบริเวณชั้นหนึ่งของพาวิลเลียน ทางแบรนด์ชักชวนให้ทุกคนได้เข้ามาชมการใช้งานผลิตภัณฑ์จริงจาก WINDSOR ที่ไม่ใช่เพียงการจัดวางให้ลองสัมผัส แต่รวมไปถึงการทดสอบในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบเจอบ่อยๆ ในการอยู่อาศัย นั่นคือการทดสอบการป้องกันความร้อนและการทดสอบการป้องกันเสียง
บานประตูหน้าต่าง WINDSOR สามารถลดทอนความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีกว่าวัสดุอื่น จึงช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมคุณสมบัติช่วยลดเสียงรบกวนได้ถึง 32 เดซิเบล และป้องกันมลภาวะฝุ่น PM2.5 เพื่อให้นักออกแบบและผู้ใช้งานมั่นใจว่าอาคารจะอยู่สบาย นอกจากนี้ยังหมดกังวลเรื่องการรั่วซึมที่อาจเกิดขึ้นได้จากวัสดุอื่นๆ
New Product Design – ตอบโจทย์งานออกแบบได้อย่างอิสระ
มาทางด้านงานออกแบบกันบ้าง ไฮไลต์ของบูธ WINDSOR ในปีนี้คือผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ อย่าง SIGNATURE PRO และ RIGHT XTEND ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ด้าน SIGNATURE PRO เหมาะกับการใช้ในงานออกแบบที่ต้องการมุมมองที่เปิดกว้าง อาทิ บ้านพักตากอากาศ รีสอร์ทหรือที่พักแบบพูลวิลล่า ด้วยระบบบานเลื่อนรูปแบบใหม่ที่ทำความกว้างได้ถึง 5.6 เมตร และสูงได้ถึง 3 เมตร ทำให้สามารถเว้นที่ว่างให้ทัศนียภาพของธรรมชาติภายนอกเข้ามาสู่ภายในได้เต็มที่
ทางด้าน RIGHT XTEND ซึ่งพัฒนาต่อเนื่องมาจาก RIGHT series ที่เน้นความโมเดิร์น เรียบง่ายทว่าทันสมัย ก็อัปเกรดขนาดวงกบเป็น 10 เซนติเมตร ช่วยให้เรียบเสมอกับระนาบผนัง และรองรับความสูง ได้ถึง 2.7 เมตร นอกจากนี้ยังมีกุญแจล็อก 6 พิน และการเสริมอุปกรณ์ป้องกันการยกบาน เหมาะกับการใช้งานในที่อยู่ อาศัยที่ต้องการความอุ่นใจ
Sustainability – วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
แง่มุมสุดท้ายที่ต้องพูดถึงของ WINDSOR คือจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมที่ได้กล่าวไปข้างต้น ไม่ใช่เพียงความทนทาน และความสวยงามของผลิตภัณฑ์เท่านั้น ไวนิลเป็นหนึ่งในวัสดุที่เข้ามาทดแทนการใช้ไม้จริงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน กระบวนการผลิตก็ใช้พลังงานต่ำ และยังมีเทคโนโลยีที่สามารถลด Waste จากกระบวนการประกอบได้ถึง 100% ยิ่งไปกว่านั้น การติดตั้ง WINDSOR ในบ้านหนึ่งหลังลดการปล่อยคาร์บอนได้กว่า 39 kgCO2 ซึ่งเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 5 ต้นเลยทีเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวให้อาคารที่เราออกแบบมีความใกล้ชิดกับโลกมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ทุกคนสามารถไปสัมผัสประสบการณ์จริง และชมนวัตกรรมอื่นๆ จาก WINDSOR กันให้เต็มที่ ได้ที่บูธ WINDSOR หมายเลข L20 ในงานสถาปนิก’ 67 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี วันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567