สำรวจเรื่องราวของแบรนด์น้ำหอมซึ่งเลือกใช้เทคนิค Slow Perfumery ที่แตกต่างจากการผลิตจำนวนมากในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างสรรค์น้ำหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะกับการใช้สะท้อนบุคลิกและตัวตนที่ไม่เหมือนใคร
TEXT: CHIWIN LAOKETKIT
PHOTO COURTESY OF LE LABO
(For English, press here)
สำหรับดีไซเนอร์และนักสร้างสรรค์ หลายคนอาจจะรู้จัก Le Labo กันมาแล้ว Le Labo เป็นแบรนด์น้ำหอมที่ก่อตั้งขึ้นจากปรัชญา Slow Perfumery โดยท้าทายอุตสาหกรรมน้ำหอมที่ผลิตในปริมาณมากด้วยแนวทางที่พิถีพิถันและไม่เร่งรีบ กลิ่นแต่ละกลิ่นได้รับการสร้างสรรค์ออกมาด้วยความเป็น craft ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้แบรนด์น้ำหอมแบรนด์นี้มีผู้ติดตามในหมู่ผู้รักงานออกแบบและผู้ที่ชื่นชอบงานฝีมือ
จุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจการออกแบบกลิ่นหอมของแบรนด์ Le Labo เกิดขึ้นที่เมืองกราซ (Grasse) ใน French Riviera แถบฝรั่งเศสตอนใต้ ฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นำมาสู่การเปิดแล็บแรกที่ New York ซึ่งสะท้อนความสวยงามและศิลปะของเทคนิคการปรุงน้ำหอมแบบงานฝีมือ ในช่วงแรกเริ่ม Le Labo มีการทำน้ำหอมอยู่ประมาณ 10 กลิ่นและเทียนหอมจุดภายในบ้าน 1 กลิ่นชื่อว่า Santal 26
ต่อมา Santal 26 ได้รับการพัฒนาเป็นสเปรย์ฉีดภายในบ้าน และนำไปสู่แรงบันดาลใจในการผลิตเป็นน้ำหอมต่อมา สูตรของน้ำหอมมีส่วนผสมหลักเป็นไม้จันทน์ออสเตรเลีย (Australian sandalwood) ผสมผสานด้วยกระวาน (cardamom) โน้ตของดอกไอริส (iris) ดอกไวโอเล็ต (violet) และไม้ซีดาร์อบรมควัน (cedarwood) น้ำมันหอมระเหยจากเครื่องเทศ และ musk รวมวัตถุดิบแล้วถึง 33 ชนิด เป็นที่มาของ Fine Fragrance ในชื่อ Santal 33 ที่ได้รับการเปิดตัวเมื่อปี 2011
กลิ่น Santal ได้รับการออกแบบให้ผู้ใช้เกิดประสบการณ์ของการเดินทางผ่านประสาทสัมผัส ไปสู่ผืนธรรมชาติอันกว้างใหญ่ Santal ได้รับการพัฒนากลิ่นให้อยู่ในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงผิวกาย รวมไปถึงรูปแบบสำหรับนำไปจัดวางเพื่อสร้างสรรค์กลิ่นให้สเปซ อย่างงานออกแบบเทียนหอมในถ้วยคอนกรีต (concrete candle) ขนาด 1.2 กิโลกรัม ซึ่งมีการหลอมส่วนผสมเนื้อเทียนในห้องปรุงน้ำหอมเพื่อเน้นวัตถุดิบน้ำมันหอมระเหยโดยเฉพาะ ส่วนถ้วยคอนกรีตบรรจุเทียนได้รับการออกแบบจากช่างฝีมือในรัฐเมน (Maine) สหรัฐอเมริกา ด้วยวัสดุฝุ่นหินรีไซเคิลทำให้ถ้วยมีสีสันสวยงามและมีความแตกต่างกัน เหมาะสำหรับนำมาจัดวางภายในบ้าน สปา พิพิธภัณฑ์ หรือห้องจัดแสดงนิทรรศการ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบศิลปะและงานฝีมือเบื้องหลังน้ำหอม Le Labo เป็นแบรนด์ที่ตอบสนองการแสวงหาบางสิ่งที่มีเอกลักษณ์ กลิ่นที่สะท้อนถึงบุคลิกและตัวตน ในโลกของน้ำหอมที่ผลิตในระบบอุตสาหกรรม Le Labo จึงเป็นทางเลือกที่สร้างสรรค์ประสบการณ์ของกลิ่นหอมที่เป็นไลฟ์สไตล์ของนักออกแบบที่ไม่เหมือนใคร