พาชมผลงานของผู้ชนะรางวัลในแต่ละสาขาทั้ง 7 ชิ้นในงาน Degree Shows 2024
TEXT: NATHATAI TANGCHADAKORN
PHOTO: KETSIREE WONGWAN
(For English, press here)
วันที่ 1 มีนาคม 2568 Degree Shows ได้ฤกษ์กลับมาจัดอย่างเป็นทางการอีกครั้งเพื่อเหล่านิสิตนักศึกษาด้านการออกแบบจากต่างสาขาและสถาบันที่ทยอยเรียนจบกันไปในปีที่ผ่านมา หลังจากหายหน้าหายตากันไปสักพัก ผลงานจากทั่วสารทิศใน 7 สาขาที่เปิดรับสมัครถูกคัดเลือกกันอย่างเข้มข้น ผ่านกระบวนการและสายตาของนักออกแบบผู้เชี่ยวชาญ จนในที่สุดก็ได้ผู้ชนะรางวัล Best of ประจำสาขากันครบถ้วน ตั้งแต่ Architecture Design, Interior Design, Product Design, Graphic Design, Animation & Motion Design, Fashion Design และ Jewelry Design โดยมีรายละเอียดดังนี้
สาขา Architecture Design
The Multiply โดย ณัทพัชร ทองมั่น
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
The Multiply เป็นโปรเจกต์ที่มีโจทย์เป็นปัญหาการใช้ความรุนแรงในเด็กทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสิทธิ ซึ่งนำมาสู่ปัญหาแรงงานเด็กต่างด้าวในประเทศไทย ณัทพัชรนำเสนอแนวทางการ empower เด็กกลุ่มนี้ผ่านโปรแกรมทางสังคมที่จะสร้างเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กและครอบครัวในทิศทางที่กำหนดไว้ โดยใช้ mobile architecture ที่มีความยืดหยุ่นเป็นสถานที่ดำเนินการ โปรเจกต์นี้ทดลองนำสถาปัตยกรรมมาท้าทายปัญหาทางสังคม ในขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงข้อจำกัดและสิ่งที่สถาปัตยกรรมสามารถมีส่วนร่วมได้
สาขา Interior Design
ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนและการออกแบบวัสดุไม้ บางโพ โดย จิรายุ จันทสอน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนและการออกแบบวัสดุไม้ บางโพ เป็นโปรเจกต์รีโนเวทอาคารที่กระจายตัวอยู่ทั่วถนนประชานฤมิตร ย่านบางโพ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นย่านของช่างไม้มาแต่เดิม เพื่อส่งเสริมให้องค์ความรู้เก่าถูกพัฒนาต่อยอดให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น โดยใช้พื้นที่เก็บของของร้านค้าไม้ต่างๆ 8 อาคารบนแนวแกนคลองวัดเสาหินในอดีตมาปรับปรุงด้วยข้อต่อไม้รูปแบบต่างๆ และวัสดุที่หาได้ในพื้นที่ และเพิ่มการใช้งานใหม่ อาทิ ศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด ไปจนถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์อย่างคาเฟ่และร้านค้า
สาขา Product Design
Joss 304 โดย พลอยนิศา สบายสุวรรณ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
Joss 304 เป็นผลงานออกแบบศาลพระภูมิที่มีใจความสำคัญคือการ upcycling เพราะบ่อยครั้งคอนกรีต ไม้ หรือวัสดุอื่นๆ ของศาลพระภูมิมักถูกเอาไปทิ้งอย่างน่าเสียดายโดยไม่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อื่นเพียงแค่เพราะความเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พลอยนิศาผู้ออกแบบจึงมีมุมมองว่าตัวศาลพระภูมิเองนั้นไม่ใช่รูปเคารพ หากแต่เป็นเพียงที่ตั้งให้กับรูปเคารพ เมื่อศาลพระภูมิเก่าหรือทรุดโทรมลง ก็ควรถูกนำไปใช้ต่อได้อย่างสะดวกใจ Joss 304 จึงประกอบขึ้นด้วยโครงสร้างง่ายๆ จากวัสดุที่ไม่ได้ถูกดัดแปลงรูปร่างเดิมไปมากนัก โดยยังคงองค์ประกอบของศาลพระภูมิตามแบบฉบับไว้
สาขา Graphic Design
Pause & Play: A Casual Introduction to Uncertainty โดย อัญชิสา อัศวเหม
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Pause & Play เป็นโปรเจกต์ที่จะพาทุกคนไปทำความคุ้นเคยกับ ‘ความไม่แน่นอน’ ด้วย play kit หนึ่งกล่องที่แบ่งออกเป็น 5 ส่วนภายใต้ระบบกริดง่ายๆ คือ Tower: Balanced, Dice: Focus on what you can control, Illusion: Seeing things the way they are, Unwritten: Uncertainty can be exciting และ Makesense: Not everything make sense, and it does not have to โดยแต่ละส่วนไม่จำเป็นต้องเล่นต่อเนื่องกัน แนวคิดพื้นฐานของโปรเจกต์นี้เพียงแค่ต้องการให้เรา ‘หยุด’ การใช้ชีวิตที่วุ่นวายสักครู่ แล้วมา ‘เล่น’ ลองสัมผัสความไม่แน่นอนที่ถูกเพิ่มความเป็นมิตรขึ้นมา อนาคตที่ไม่แน่นอนก็อาจไม่น่ากลัวเท่าที่เคย
สาขา Animation & Motion Design
Oneself (กาลครั้งหนึ่ง…ถึงตัวฉัน) โดย อาดัม หวังเบ็ญหมัด
วิทยาลัยนานาชาติ วิทยาเขตหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
Oneself เป็นอนิเมชัน 2 มิติที่เล่าเรื่องราวการค้นหาตัวเองในฐานะศิลปินของเด็กหนุ่มผู้ชื่นชอบ Vincent van Gogh หรือแวนโก๊ะ เด็กหนุ่มชื่อ Vil ทำหน้าที่เป็นตัวเอกของเรื่องราวนี้โดยมีเสียงผู้บรรยายประกอบ เนื้อเรื่องค่อยๆ แสดงให้เห็นถึงความกังวลใจของเขาซึ่งต้องการเป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์ ทว่าความชื่นชมในตัวศิลปินผู้ยิ่งใหญ่กลับถ่ายทอดออกสู่ผลงานตัวเอง กลายเป็นข้อกังขาในสายตาผู้อื่น ภาพของ Oneself โดยมากเป็นสีขาวดำ และแสดงเส้นฝีแปรงซึ่งเป็นสิ่งที่อาดัมเลือกใช้เป็นตัวแทนสไตล์ของแวนโก๊ะ เมื่อปรากฏร่วมกับการเล่าถึงชีวิตและเส้นทางการพัฒนาของเขา Oneself จึงสามารถมอบ ‘ความเข้าใจ’ ให้ทั้ง Vil ผู้บรรยาย และผู้ชมได้ในตอนจบ
สาขา Fashion Design
Trophy (house) wife โดย ธนัชพร วรธงไชย
มหาวิทยาลัยศิลปากร
Trophy (house) wife เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการหยอกล้อและผสมผสานรูปแบบของ ‘ชุดแม่บ้าน’ จากสมาคมแม่บ้านของ 5 เหล่าทัพไทย และอาชีพแม่บ้าน เกิดเป็นดีไซน์ที่มีความสนุกสนาน ฉูดฉาด แต่ยังคงพื้นฐานของเทคนิคงานทอ ปัก และทรงอย่างชุดทางการไว้ คอลเล็กชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไปไม่ได้ในฐานะ ‘แม่บ้าน’ โดยแต่ละชุดใช้วัสดุ แพทเทิร์น และสไตล์ที่แตกต่างกันไป
สาขา Jewelry Design
A Contemporary Accessories Design Project, Representing the Value of Ikebana Flower Arrangement โดย ณัฏฐณิชา เพชรมาลัยกุล
มหาวิทยาลัยศิลปากร
โปรเจกต์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการจัดดอกไม้แบบอิเคบานะซึ่งมีต้นกำเนิดในวัฒนธรรมญี่ปุ่น อิเคบานะนั้นแฝงด้วยหลักปรัชญาที่สอนให้มองแก่นแท้ของชีวิตผ่านศิลปะและธรรมชาติ ณัฏฐณิชาเล็งเห็นถึงปัญหาด้านสภาพจิตใจของคนไทยในปัจจุบัน จึงตั้งใจถ่ายทอดความงามอย่างเรียบง่ายผ่านฟอร์มและเส้นสายของเครื่องประดับที่มีความโค้ง ความละเอียดอ่อน แม้กระทั่งความไม่สมบูรณ์ในตัวดอกไม้ นอกจากนี้ยังมีการนำรายละเอียดบางอย่างของการจัดดอกไม้เช่น อุปกรณ์ขัดยึดดอกไม้ รูปแบบการขัดของกิ่ง มาเป็นส่วนเสริมให้โครงสร้างหลักของเครื่องประดับมีความน่าสนใจ
สุดท้ายตามธรรมเนียม เมื่อมีสุดยอดของแต่ละสาขาก็ย่อมต้องมีสุดยอดของสุดยอด หรือรางวัล Best of the Best ซึ่งในปีนี้ตกเป็นของ ธนัชพร วรธงไชย เจ้าของผลงาน Trophy (house) wife และ Best of Fashion Design เป็นผู้คว้าไปด้วยการลงคะแนนของคณะกรรมการทั้ง 14 ท่าน จาก 7 สาขา
สำหรับปี 2025 นี้ น้องๆ คนไหนกำลังทำธีสิสจบอยู่ ก็สามารถสมัครเข้าร่วม Degree Shows 2025 ได้แล้วที่ https://forms.gle/8VMR5UiuzXEV5yzaA