AFTER THE ANNOUNCEMENT OF THE 25 FINALISTS ON 25TH AUGUST 2020, THE SECTION COMMITTEE PICKED THE LOGO BY DESIGN FIRM, TEAM INARI, WHO DESIGNED THE MONSTER-LIKE CHARACTER AS THE EXPO 2025 OSAKA KANSAI’S LOGO
TEXT: PAKPOOM LAMOONPHAN
PHOTO CREDIT AS NOTED
(For English, press here)
หลังเกิดกรณีที่โลโก้โอลิมปิค 2020 เดิมมีปัญหาถูกร้องเรียนจากอีกฟากโลกเรื่องการก็อปปี้ ซึ่งแม้จะดูเป็นความบังเอิญ แต่จากทิศทางการนำเสนอข่าวในตอนนั้นก็ทำให้สังคมญี่ปุ่นทั้งในโลกจริงและชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย เหตุการณ์นี้ส่งผลให้กระบวนการออกแบบโลโก้งานใหญ่ๆ ระดับชาติหลังจากนั้นของญี่ปุ่นเปลี่ยนไป คืออย่างน้อยก็ต้องมีขั้นตอนที่ให้คนทั่วไปมามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการจัดประกวด หรือกระทั่งใช้วิธีคัดเลือกด้วยการโหวตแบบที่ชนะในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อเป็นเหตุผลช่วยลดแรงกระแทกจากสังคม อย่างที่เห็นได้จากโลโก้โอลิมปิคใหม่ หรือมาสคอตโอลิมปิคชื่อ miraitowa ที่ผู้จัดโอนการตัดสินใจไปให้นักเรียนประถมทั่วญี่ปุ่นเป็นคนเลือก
ล่าสุดก็เช่นกันกับโลโก้ของ Expo 2025 Osaka Kansai ที่โอซาก้า ซึ่งเคยจัดงานนี้ในปี 1970 (แต่ก็จัดที่ญี่ปุ่นมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว) โดยโลโก้งานจะคัดเลือกจากดีไซเนอร์และคนทั่วไป ผลงานที่ส่งเข้ามามีมากถึง 5,894 ผลงาน หลังจากประกาศผู้เข้ารอบสุดท้ายแล้ว วันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา กรรมการก็ได้เลือกผลงานของบริษัทออกแบบ TEAM INARI (ซึ่งประกอบไปด้วย Himada Tamotu, Amemiya Miyuki, Omata Nobuhiko, Kamimura Shinya, Nunokawa Yuko และ Fujisawa Yusuke) ที่ทำออกมาเเว่บแรกดูแล้วเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตประหลาด คล้ายเซลล์หรืออวัยวะภายในที่มีลูกตาหลายๆ อัน ด้าน Tamotsu Shimada ซึ่งเป็น art director ของบริษัทก็ออกมาบอกว่ามันคือความมีชีวิตชีวาของชีวิต “เพราะมันเต้น เด้งไปมามันจึงมีชีวิต” ส่วนสาเหตุว่าทำไมต้องเป็นเซลล์ ก็เพราะว่าพวกเขาต้องการสืบทอด DNA โลโก้งาน Expo โอซาก้าเมื่อปี 1970 และนอกจากนั้น ดีไซเนอร์ยังไม่ได้คิดโลโก้เป็นแค่ symbol แต่ทั้งตัวอักษรตัวเลขจะขยับได้ ทำหน้าที่เป็นคาแรกเตอร์ไปพร้อมกัน
ประธานกรรมการตัดสิน (ที่ก็เป็นคนโอซาก้าด้วย) อย่าง Tadao Ando ให้เหตุผลที่กรรมการเลือกงานชิ้นนี้ว่า เพราะว่างานชิ้นนี้มีการเชื่อมโยงไปถึงชีวิต มีความหวังถึงอนาคต และเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นออกมาจากสัญลักษณ์นิ่งๆ เรียบๆ ทั่วๆ ไปความไม่เหมือนใคร และการเลือกเดินไปในทิศทางที่แตกต่างก็สื่อถึงการมีเอเนอจี้ของโอซาก้าได้ดี ส่วนความคิดเห็นจากฟากฝั่งชาวเน็ตนั้น เรียกได้ว่ามีกระแสตอบรับทันทีด้วยแฟนอาร์ตมากมายมหาศาล ทั้งที่เกลียดจนทำออกมาล้อ หรือว่าเพิ่มไอเดียน่ารักๆ ให้กับโลโก้ตัวนี้ แต่ก็ทำให้มันเป็นที่จดจำและมีความเป็นเทศกาลสมเป็นเมืองโอซาก้า อย่าลืมว่าในครั้งหนึ่ง เคยมีหอคอยแห่งตะวัน ที่ Tarō Okamoto ออกแบบไว้เป็นสัญลักษณ์แห่ง Expo 70 ที่ยังถูกอนุรักษ์มาจนถึงทุกวันนี้
Expo 2025 Osaka Kansai ครั้งนี้มาในธีม “Designing Future Society for Our Lives” ที่ว่าด้วยการส่งเสริมให้ทุกคนบนโลกมีวิถีชีวิตในแบบของตัวเอง เพื่อสร้างสังคมที่มีความยั่งยืนให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ โดยงานจะจัดขึ้นในปี 2025 ระหว่างเดือนเมษายน – ตุลาคม