GQ’S FUTURISTIC FABRIC AND INNOVATION IS REPRESENTED THROUGH THEIR NEW FLAGSHIP STORE GQ DNA CONCEPT STORE DESIGNED BY PLEASE FEEL INVITED
TEXT: NAPAT CARITBUTRA
PHOTO: BKKGRAPHER EXCEPT AS NOTED
(For English, press here)
จู่ๆ แบรนด์เสื้อผ้า GQ ก็กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวร้าน pop-up store ตามสถานีรถไฟฟ้า BTS หรือในไม่นานมานี้กับร้านสาขาใหญ่อย่าง GQ DNA Concept Store ที่พร้อมพงษ์ Please Feel Invited ดีไซเนอร์ผู้รับหน้าที่ออกแบบร้านให้กับ GQ อย่างต่อเนื่อง บอกกับเราว่า เรื่องที่ท้าทายกว่าโจทย์จาก GQ Apparel ที่ต้องการพื้นที่ที่สื่อถึงภาพลักษณ์ ‘เจ้าแห่งนวัตกรรมและอนาคต’ คือการทำงานกับไซต์ที่อยู่ตรงรอยต่อของอาคารพาณิชย์ 2 อาคาร พอดิบพอดี
ข้อดีของอาคารพาณิชย์คือการเข้าถึงที่สะดวก แถมป้ายหน้าร้านยังเป็นบิลบอร์ดดึงดูดความสนใจจากคนบนรถที่ติดแหงกแถวนั้นได้ดี ส่วนข้อเสียก็มีอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น เสาอาคารที่โผล่มากลางทางเข้าร้าน หน้าตัดของอาคารที่ไม่เท่ากันสองด้าน สายไฟของบังหน้าร้านเต็มๆ ฝ้าภายในที่ค่อนข้างต่ำมาก หรือข้อจำกัดด้านขนาดของพื้นที่ อย่างไรก็ดี ธัชพล ธนบุญชัย หัวหน้าทีมออกแบบจาก Please Feel Invited บอกกับ art4d ว่าเขามองเป็นความท้าทายมากกว่า
ข้อจำกัดที่ว่า shape ให้รูปร่างหน้าตาของร้านออกมาเป็นแบบที่เราเห็น Please Feel Invited ตัดสินใจบิดทางเข้าร้านให้หันเฉียง 90 องศา ล้อไปกับหน้าตัดของอาคาร เช่นเดียวกันกับ façade ป้ายบิลบอร์ดจอ LED ซ้อนชั้นขึ้นไปด้านบน ที่ถูกบิดองศาเปิดมุมมองออกสู่ถนนมากขึ้นให้เกิดมุมมองที่มองได้หลายมุม ประตูทางเข้าร้านและตู้ดิสเพลย์ถูกกำหนดด้วยตำแหน่งเสากลางพื้นที่อาคาร ส่วนเสาที่วางตัวระเกะระกะด้านในนั้นถูกทำให้กลืนไปกับสเปซโดยรวมด้วยงานอินทีเรีย
พ้นจากตู้ดิสเพลย์โชว์สินค้าใหม่ และส่วน workshop พื้นที่ด้านในร้านถูกแบ่งออกเป็นสองด้าน ทางขวามือต่อเนื่องจากประตูร้านเป็นผนังที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้ปรับการใช้งานได้ทั้งแขวนเสื้อและวางสินค้า ฝั่งตรงข้ามคือเคาน์เตอร์ชำระเงินที่เชื่อมติดกับจุดตัดแก้กางเกง (workshop bar) โดยด้านหลังจะเป็นผนังโชว์สินค้า GQ Perfect Shirt จากพื้นถึงเพดาน และบันไดสำหรับการเดินขึ้นไปหยิบสินค้า ส่วนด้านในสุดของพื้นที่นั้นเป็นที่ตั้งของห้องลองเสื้อ 2 ห้อง และห้องน้ำ
Photo courtesy of GQ Apparel
ด้วยข้อจำกัดจากฝ้าเพดาน ส่วนหน้าสูงถึง 5 เมตร ขณะที่ด้านหลังต่ำเพียง 1.9 สเตนเลสและกระจกเงาจึงถูกนำมาใช้เป็นวัสดุหลัก ต้องบอกว่างานนี้พวกเขาลงทุนกับงาน lighting ไม่น้อย ทั้งโซน workshop กับไฟสีขาวที่ส่องทะลุผนังฉลุออกมา หรือไฟภายในร้านที่ Please Feel Invited เลือกใช้ไฟเส้นยาวและ Barrisol เพดานผืนใหญ่ที่ให้ความสว่างโดยรอบได้ทั้งหมด ทั้งนี้ก็เพื่อให้สเปซภายในร้านดูโล่งกว้างขวางขึ้นเมื่อมองจากภายนอก และสื่อสารถึงความ “ล้ำสมัย” ของแบรนด์
“จริงๆ แล้วคีย์เวิร์ดสำคัญมันคือคำว่า ‘time tunnel spaceship’ ถ้าสังเกตดีๆ ฟอร์มของ façade นั้นก็มาจากรูปทรงโค้งแบบอุโมงค์ ที่เราเอามาจับตั้งในแนวดิ่งและบิดไปมา” สิรภพ พูลศรี ดีไซเนอร์ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ เล่าให้เราฟัง และคงเป็นเหตุผลว่าทำไมความรู้สึกโดยรวมของสเปซจึงดูล้ำๆ ตั้งแต่ façade ยันห้องน้ำกระจกใสที่จะเปลี่ยนเป็นสีขุ่นอัตโนมัติเมื่อมีคนใช้ (สนับสนุนสุขภัณฑ์รุ่นล่าสุดโดย TOTO) โดดเด่นออกมาจากสภาพแวดล้อมแถวนั้น