Noble TERRA นำเสนอความหรูหราผ่านความสวยงามแบบเรียบง่าย การอยู่อาศัยที่หลอมรวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติ และสเปซที่เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่อาศัย ภายใต้ใจความหลัก ‘Connecting & Grounding’
TEXT: KITA THAPANAPHANNITIKUL
PHOTO: KETSIREE WONGWAN
(For English, press here)
หากพูดถึงนิยามของที่อยู่อาศัยแบบ Classic Luxury เราอาจนึกถึงบ้านที่มีขนาดมหึมา หรือการใช้วัสดุที่มีความระยิบระยับ หากแต่ Noble TERRA นั้นได้เสนอนิยามใหม่ของความหรูหราที่เริ่มต้นจากการมองออกไปในภาพกว้าง ตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง ณ ซอยจำเนียรเสริม ในใจกลางเมืองอย่างย่านพระราม 9 หรือการมอบกลุ่มสังคมที่มีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนบ้านเพียง 29 หลัง พร้อมทั้งมองลึกลงไปในนิยามของความหรูหราแบบร่วมสมัยที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้การออกแบบที่เรียบง่าย หากแต่เชื่อมโยงทุกชีวิตภายในโครงการเข้ากับธรรมชาติและตัวตนของผู้อยู่อาศัยเอง
จากความเดิมในตอนที่แล้ว เราลองมาสำรวจกันถึงรายละเอียดของ Noble TERRA ที่ออกแบบโดย Anonym กันว่า ภายใต้ไอเดียหลักอย่าง ‘Connecting & Grounding’ งานออกแบบที่เกิดขึ้นได้นำเสนอมิติของการอยู่อาศัยที่หลอมรวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติได้อย่างไรกันบ้าง
‘Connecting & Grounding’ การอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน
Anonym ได้เริ่มต้นการออกแบบจาก keyword อย่าง ‘Connecting & Grounding’ ที่ให้ความสำคัญกับการกลับไปอยู่ร่วมอาศัยกับธรรมชาติอย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน อาทิ การเดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน การเปิดรับแสงธรรมชาติ ผ่านตัวอาคารที่ได้โอบรับเอาธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมอย่างแยกไม่ขาด
ในภาพรวม Noble TERRA มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวสามชั้นใน 4 รูปแบบ ประกอบไปด้วย FOLIUM, CORTEX, POLLINIS และ RADIX ที่มีจุดร่วมกันคือการสร้างมิติของธรรมชาติให้ปรากฏขึ้นกับตัวบ้านภายนอก ตั้งแต่การใช้ผนังกระจกในทางเข้าด้านหน้าที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นคอร์ทต้นไม้ที่เป็นเหมือนหัวใจหลักของบ้านตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวเท้าเข้าไปภายใน หรือแม้แต่การจัดสรรกระบะปลูกต้นไม้ที่กลมกลืนไปกับ façade ด้านหน้าอาคารซึ่งมอบความรู้สึกคล้ายกับว่าต้นไม้กำลังค่อยๆ งอกและเติบโตขึ้นมาจากตัวบ้าน
พื้นที่เริ่มต้น 382 ตารางเมตร ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่ต่างกัน
บ้านทั้ง 4 รูปแบบเริ่มต้นจาก RADIX ในขนาด 382 ตารางเมตร POLLINIS ในขนาด 409 ตารางเมตร CORTEX ในขนาด 457 ตารางเมตร และ FOLIUM ในขนาด 498 ตารางเมตร แม้จะมีขนาดที่แตกต่างกัน สถาปนิกก็ได้วางผังบ้านทุกรูปแบบให้ตอบโจทย์ทุกคนภายในบ้าน ทั้งการมอบพื้นที่ส่วนตัว และการมอบพื้นที่อเนกประสงค์ให้ครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ซึ่งแต่ละห้องจะยังคงมีระเบียง หรือช่องเปิดหน้าต่างกระจกใส เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสถึงวิวของธรรมชาติทั้งภายในและภายนอก
ซึ่งในแต่ละรูปแบบของบ้านนั้นก็จะมาพร้อมกับฟังก์ชันที่แตกต่างกันเล็กน้อย เช่น RADIX ที่จะมาพร้อมกับ outdoor terrace ที่เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ภายนอกในชั้น 3 POLLINIS ที่มาพร้อมกับ penthouse ในชั้น 3 หรือในขนาดใหญ่สุดอย่าง FOLIUM ที่มีจำนวน 5 ห้องนอนและ family space เพิ่มขึ้นมา
พื้นที่ Tree court ที่เชื่อมโยงทุกคนในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน
สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของ Noble TERRA ในประเภท FOLIUM CORTEX และ POLLINIS นั้นคือพื้นที่ Tree court กลางบ้านสำหรับปลูกต้นไม้ที่เปรียบเสมือนหัวใจของบ้านแต่ละหลัง เมื่อเข้ามาภายใน ภายใต้พื้นที่ Triple space ที่เปิดโล่งตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 3 พื้นที่ Tree court นี้แทรกตัวอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหารอันเป็นพื้นทีหลักของบ้านเพื่อเชื่อมโยงทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งหากมองขึ้นไป พื้นที่เปิดโล่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยระเบียงและทางเชื่อมของแต่ละชั้น ทำให้ทุกคนในบ้านสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในห้องต่างๆ แม้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน และสร้างความสัมพันธ์ทั้งทางสายตาและทางความรู้สึกให้กับผู้อยู่อาศัยทุกๆ คน
ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของการสร้างความรู้สึกให้กับที่อยู่อาศัย พื้นที่ Tree court ภายใต้ Triple space นี้ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยมอบสุขภาวะที่ดีให้กับผู้ใช้งาน ทั้งการเป็นช่องเปิดโล่งทางตั้งที่ช่วยสร้างการไหลเวียนอากาศจากชั้นล่างสู่ชั้นบนภายในอาคาร ควบคู่ไปกับหลังคา Sky roof ที่เปิดรับแสงธรรมชาติตลอดทั้งวัน แสงแดดที่สาดทอดเข้ามาในพื้นที่ภายในไม่เพียงแต่มอบชีวิตให้กับต้นไม้เบื้องล่าง หากแต่ช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง สภาพแวดล้อม บ้าน และผู้คนในไปเวลาเดียวกัน
วัสดุสี Earth Tone ที่ได้รับแรงบันดาลใจสีสันของธรรมชาติ
ไม่เพียงแต่รายละเอียดในพื้นที่ แต่วัสดุที่ Anonym ได้เลือกใช้ภายในโครงการนั้นต่างก็ถูกคัดสรรมาภายใต้สัมผัสและสีสันที่กลมกลืนเข้ากับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาลเข้มของต้นไม้ที่ถูกเลือกใช้ในส่วนพื้นไม้และประตูภายในบ้าน สีน้ำตาลอ่อนของดินที่ถูกใช้ในส่วนผนังภายในและ façade ด้านนอก ซึ่งการออกแบบนั้นยังคงลงลึกไปถึงรายละเอียดต่างๆ เช่นการซ่อนไฟและการซ่อนเฟอร์นิเจอร์ built in ที่มีความเรียบเนียน เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติมากที่สุด
พื้นที่ Landscape ที่ขยายขอบเขตพื้นที่ธรรมชาติไปยังทุกบรรยากาศ
งาน Landscape ของโครงการ Noble TERRA เป็นฝีมือของภูมิสถาปนิก Landscape Collaboration ซึ่งออกแบบให้ธรรมชาติอันร่มรื่นแทรกอยู่ในรายละเอียดต่างๆ นอกรั้วบ้าน ด้วยจำนวนบ้านเพียง 29 หลัง ผู้ใช้งานในทุกๆ หลังสามารถใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งใช้พื้นที่นี้เพื่อพบปะและขยายขอบเขตของการใช้ชีวิตให้ไม่อยู่เพียงแต่ในตัวบ้าน ตั้งแต่พื้นที่ private sanctuary clubhouse ที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำและม่านน้ำตกขนาดใหญ่ที่มอบความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ตลอดทั้งวัน guest lounge พื้นที่ส่วนกลางที่เปิดโล่งเพื่อรับทัศนียภาพภายนอก และ sensory garden ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และ hardscape ที่ลูกบ้านสามารถมานั่งเล่นได้ในทุกๆ วัน พื้นที่ส่วนกลางเหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการอาศัยอยู่ร่วมกับธรรมชาติในทุกๆ วัน ไปพร้อมกับรายละเอียดของงานสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบบนพื้นฐานเดียวกัน
Noble TERRA โครงการที่ให้ความสำคัญจากข้างในสู่ข้างนอก
มนุษย์ผูกพันกับธรรมชาติอยู่เสมอ ในสถาปัตยกรรมที่มั่นคงแข็งแรง เราต่างมองหาพลวัตของธรรมชาติที่รายล้อมตัวเราอยู่ตลอดเวลา อาจกล่าวได้ว่า Noble TERRA ที่ออกแบบโดย Anonym และ Landscape Collaboration ภายใต้คอนเซ็ปต์หลลักอย่าง Connecting & Grounding นั้นชวนให้เราเชื่อมโยงกับ ‘ภายใน’ ที่ครอบคลุมความหมายหมายทั้งในเชิงกายภาพในรูปแบบของ space ที่เปิดโล่งของบ้าน และในเชิงจิตวิทยาผ่านการเชื่อมปฏิสัมพันธ์กันระหว่างผู้คนในครอบครัว รวมถึงการพาผู้อยู่อาศัยเชื่อมโยงกลับไปยังความหรูหราที่หาได้ยากยิ่งในปัจจุบันอย่างพื้นที่ธรรมชาติ บนสถาปัตยกรรมที่อยู่กึ่งกลางระหว่างการใช้งานในชีวิตประจำวันและสุนทรียภาพของงานออกแบบ ที่การสัมผัสต้นไม้ด้วยมือของตัวเอง การสัมผัสพื้นดินด้วยเท้าเปล่า หรือการรับรู้แสงและเงาของธรรมชาติที่ทอดสาดเข้ามา ที่เปลี่ยนไปตามวัน เวลา และฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ถูกออกแบบให้เป็นจริงและเป็นใจความสำคัญของการใช้ชีวิตประจำวันในทุกๆ วัน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่