นิทรรศการโดย อารยา ราษฎร์จำเริญสุข นำเสนอผลงานในรูปแบบวิดีโอที่เทียบเคียงภาพของผู้คนกับสารพัดสัตว์ อันแสดงให้เห็นชีวิตที่ทั้งแตกต่างและคล้ายคลึงระหว่างกัน
TEXT: KANDECH DEELEE
PHOTO COURTESY OF NOVA CONTEMPORARY
(For English, press here)
3 เรื่องเล่าของบ้านวังหมา
ในหลายครั้ง ความคุ้นชินมักจะนำเราไปสู่การละเลยความสัมพันธ์ ทุกสิ่งทุกอย่างดูจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน-กลายเป็นเรื่องเดียวกัน เห็นอยู่โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ย-ตั้งอยู่โดยไม่จำเป็นต้องถาม กว่าจะตระหนักได้ก็ต่อเมื่อมันขาดพร่องไปแล้ว แม้แต่ในนิเวศวิทยาที่ดูแน่นิ่ง มั่นคง ราวกับเป็นกายเนื้อเดียวกัน ก็เต็มไปด้วยพลวัตที่เคลื่อนไหว สรรพสิ่งล้วนดำรงอยู่ร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนความต่างระหว่างกัน ความต่างนี่เองที่เป็นรอยเหลื่อม เป็นพรมแดนที่แบ่งออก เป็นชั้นสุญญากาศบางๆ ที่ประกอบสร้างทั้งเอกเทศและเอกภาพ ทั้งบ้านและอาณาจักร ทั้งสุนัขและมนุษย์
3 เรื่องเล่าของบ้านวังหมา เป็นโปรแกรมฉายผลงานวิดีโอ โดย อารยา ราษฎร์จำเริญสุข ว่าด้วยเรื่องราวของ บ้านวังหมา ในจังหวัดเชียงใหม่ที่เธอได้สร้างขึ้นเพื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสุนัขที่เธอรับอุปการะ ภายในนิทรรศการประกอบไปด้วยผลงานวิดีโอสามชิ้นซึ่งพันผูกกันด้วยภาวะอันเหลื่อมซ้อนที่ท้าทายการนิยามและความคุ้นชิน
เริ่มต้นจาก Necessity’s Rhythm (2020) อารยาพาเราย้อนกลับไปสำรวจสายสัมพันธ์แต่เก่าก่อน ในวิดีโอปรากฏภาพหญิงใส่หน้ากากที่ถามคำถามเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ในศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น เก่าก่อนหรือตอนนี้ ส่วนตัวหรือสาธารณะ เส้นหรือสี แนวคิดหรือรูปแบบ ภาพหรือคำ ศิลปะหรือชีวิต ฯลฯ ถึงทวิภาวะเหล่านี้จะล้วนเป็นคำถามจำเจ (cliché) ที่แม้แต่เธอเองก็กล่าวว่ามันเป็นกรงที่ขังเราเอาไว้ แต่การที่เธอหยิบความซ้ำซากชวนชาชินเหล่านี้ขึ้นมาพูดซ้ำ ก็เป็นการเผยให้เห็นป้ายประทับและชุดคำถามที่ยังคงวนเวียนอยู่รอบมณฑลของศิลปะราวกับเป็นกรรมเก่า จากคำถามหนึ่งไปสู่อีกคำถามหนึ่ง จากคู่ตรงข้ามชุดหนึ่งไปสู่คู่ตรงข้ามอีกชุดหนึ่ง อารยาเลือกที่จะละการตอบ และมอบให้ผู้ชมเป็นผู้เติม ความพยายามในการหมุดหมายคุณสมบัติจึงทำให้ผู้ชมตระหนักถึงพรมแดนของการนิยามที่เคลื่อนออก อารยาทำให้ศิลปะดูเหมือนจะเป็นทุกสิ่งและไม่เป็นสักสิ่งไปในเวลาเดียวกัน
ถัดมาที่ Jaonua: The Nothingness (Animal Sightseeing Tour) (2016) อารยาจัดรถทัวร์สัตว์ที่คอยรับส่งผู้โดยสารสี่เท้าหลากชนิด ซึ่งจะขึ้นมาบนกระบะหลังรถเพื่อชมเมือง ตลาด วัด ท้องทุ่ง และบ้านคน อารยาได้ทำการกลับหัวกลับหางตำแหน่งแห่งที่ของผู้ชมและผู้ถูกชมให้กลายเป็นทัวร์สวนสัตว์แห่งการกลับไขว้ สัตว์กลายเป็นผู้ชมและคนกลับกลายเป็นผู้ถูกชมเสียเอง แต่เธอก็ไม่ได้ทลายทวิภาวะอันบอบบางนี้ด้วยการสลับด้านแบบตรงทื่อ เธอเพิ่มความท้าทายผ่านการพิกัดให้ตำแหน่งของผู้ชมวิดีโอให้อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับเหล่าสรรพสัตว์สี่ขา รู้ตัวอีกที ผู้ชมเองก็ยืนอยู่ในคอกเล็กๆ ที่ขนาบข้างด้วยเพื่อนต่างสายพันธุ์ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของกรุ๊ปทัวร์ครั้งนี้
วิดีโอชิ้นนี้จึงนำเสนอภาพของพื้นที่ที่เหลื่อมซ้อนกัน ผู้คน สัตว์ และผู้ชมวิดีโอ ที่แม้จะดำรงอยู่ในช่วงชั้นและตำแหน่งที่ต่างกัน แต่ทั้งหมดกลับผลัดกันเล่นเป็นทั้งผู้ชมและผู้ถูกชมสลับกันไปมา ไม่มีผู้ใดที่สามารถถือครองสถานะใดสถานะหนึ่งได้อย่างมั่นคงถาวร ทั้งหมดจำต้องรับและจำต้องปล่อย จำต้องถือและจำต้องวาง รอยเหลื่อมของความต่างจึงสร้างพันธะของความเหมือนขึ้นในเวลาเดียวกัน ทั้งหมดนี้ทำให้เราย้อนกลับมาพินิจถึงความยอกย้อนของศิลปะ ศิลปินสามารถเป็นได้ทั้งผู้สร้าง ผู้ชม และผู้ถูกชม เช่นเดียวกับผู้ชมที่สามารถเป็นได้ทั้งผู้ถูกชม ผู้ชม และผู้สร้าง และลึกลงไปในความต่างระหว่างสถานะซึ่งเป็นพื้นที่เว้นว่างจนเอื้อให้เกิดสนามของการละเล่น ก่อให้เกิดความต่างในสนามของความเหมือนที่ซ้อนลงไปอีกชั้น
จนมาถึง Dog’s Palatial House (2022) วิดีโอที่ว่าด้วยเรื่องราวของเหล่าสุนัขที่เธอรับอุปการะในบ้านวังหมา อารยา ‘ถ่าย’ ชีวิตประจำวันของเหล่าสุนัข และ ‘ทำ’ เรื่องราวประกอบกิจกรรมของสุนัขเหล่านั้น เธอเล่าเรื่องผ่านเสียงบรรยายที่ถูกบีบให้แหลมเล็กคล้ายกับ ‘เสียงสอง’ ที่ผู้คนมักเอาไว้หยอกล้อกับสัตว์ด้วยความเอ็นดู ตัววิดีโอว่าด้วยเรื่องราวเหล่าสุนัขในบ้านวังหมาที่ต้องการตามหาบรรพบุรุษของตน พวกมันถูกหลอนหลอกจากผีบรรพบุรุษที่ดูเหมือนจะสิงสู่อยู่ในทุกสิ่ง ตั้งแต่ยอดไม้ เตาเผา รูปปั้นนก ฯลฯ แต่จนแล้วจนรอดทั้งหมดนี้ก็ยังคงเป็นคำถามที่หาไม่พบ พวกมันเชื่อมโยงกับบรรพบุรุษได้เพียงนามธรรม อย่างความฝัน ความรู้สึก และอาเพศ หรือใกล้เคียงที่สุดก็คือกรรมพันธุ์บางอย่างที่ตกทอดมาสู่ร่างเนื้อของพวกมัน
ในทางหนึ่ง กิจกรรมหมาๆ เหล่านี้ล้วนเสียดสีไปถึงกิจกรรมของมนุษย์อย่างขำขื่น ทั้งความหมกมุ่นเกี่ยวกับการค้นหารากของตน การสถาปนาอำนาจผ่านความรู้ ไปจนถึงการเล่นล้อกับวิธีวิทยาของงานโบราณคดีและประวัติศาสตร์นิพนธ์ (historiography) แต่ในอีกทางอารยาก็เผยให้เห็นถึงรอยเหลื่อมที่แฝงอยู่ในภาพที่คุ้นชินอันแสนสามัญ ทั้งภาพสุนัขพร้อมใจกันเห่า ภาพสุนัขขุดดิน ภาพสุนัขนอนหลับ มันคุ้นชินเสียจนไพล่ไปถึงความไร้สาระ ความไร้สาระทั้งหมดนี้จึงสะท้อนย้อนกลับมาท้าทายกิจอันสูงส่งของมนุษย์ สุนัขและมนุษย์จึงเป็นภาวะของความเหมือนที่ดำรงอยู่ในความต่าง ใกล้ชิดพร้อมกับห่างเหิน ชิดเชื้อแต่แปลกแยก เป็นอีกครั้งที่ความคุ้นชินถูกบิให้ปริออกถึงสิ่งที่ไม่คุ้นเคย
อะไรคือความสัมพันธ์ระหว่างความหมายแต่เก่าก่อนกับตอนนี้
หรือมันทั้งมีและไม่มีอะไรอยู่เลย
3 เรื่องเล่าของบ้านวังหมา โดย อารยา ราษฎร์จำเริญสุข จัดแสดงที่ โนวา คอนเทมโพรารี ระหว่างวันที่ 12-13 กรกฎาคม 25671
_____________
1 ในวันที่ 13 กรกฎาคม โนวา คอนเทมโพรารี ได้ทำการจัดทำการจัดกิจกรรมเสวนา felt to fail: เหมือนจะหลุด ดุจจะร่วง โดย ดร.สายัณห์ แดงกลม และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยรัตน์ พลมุข ว่าด้วยประเด็นของการอ่านผลงานชุดนี้ผ่านมุมมองแบบวงศาวิทยา (genealogy) โดยอ้างอิงถึงความสัมพันธ์กับงานชุดอื่นๆ ที่ผ่านมาของอารยา และกิจการอ่านที่นำไปสู่ความเป็นไปได้และข้อจำกัดที่เกิดขึ้นจากสาแหรกของงานศิลปะ อีกทั้งยังว่าด้วยการเปรียบเทียบงานของอารยาเข้ากับวรรณกรรมของ สุวรรณี สุคนธา ที่ว่าด้วยความขรุขระของการไถลออกจากความเป็นมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ และตรรกะของความเป็นอื่น