Category: PHOTO ESSAY

PHOTO ESSAY : THE ARCHITECTURE OF DEMOLITION

TEXT & PHOTO: AKAI CHEW

(For English, press here

สิงคโปร์เป็นเมืองที่ยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง ตึกรามอาคารถูกสร้างและพัฒนาขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว ถึงขั้นที่ว่าตึกอายุ 30 ปี ก็ถูกมองว่าควรแก่เวลาสำหรับกับการถูกปรับปรุงพัฒนาใหม่ ที่สิงคโปร์ การทำลายและก่อสร้างเกิดขึ้นอยู่ทุกหนแห่ง คล้ายกับเวลาที่นักมายากลโยนผ้าผืนหนึ่งขึ้นบนฟ้าแล้วก็หายตัวไปทันทีที่ผ้าหล่นลงมา เมื่อนั่งร้านถูกเอาออกไป อาคารเก่านั้นก็ราวกับหายวับไปกับตา นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา อัตราการรื้อถอนอาคารของเมืองพุ่งทะยานขึ้นเป็นสัดส่วนที่สูงจนเหลือจะเชื่อ ในปัจจุบัน สี่ในสิบของอาคารที่สูงที่สุดในโลกที่ได้รับการพัฒนาใหม่อยู่ในสิงคโปร์

ในปี 1960 สิงคโปร์ใช้การพัฒนาพื้นที่เมืองเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจยุคใหม่ ตึกระฟ้าที่เพิ่งสร้างเสร็จส่งสัญญาณถึงยุคสมัยใหม่ของประเทศ หากแต่ในวันนี้ บางส่วนของอาคารเหล่านี้ได้ถูกทำลายลงไปแล้วเรียบร้อย 

การรื้อถอนและก่อสร้างในสิงคโปร์นั้นเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมพอๆ กับการมีอยู่ของอาคารจริงๆ อาคารหนึ่งเลยก็ว่าได้ ในช่วงไม่กี่ทศวรรษให้หลังมานี้ การพัฒนาอาคารเก่าขึ้นใหม่ และการสูญเสียไปซึ่งสิ่งแวดล้อมทั้งทางธรรมชาติและมนุษย์สร้างนั้น เป็นสิ่งที่พบเห็นและยอมรับได้อย่างไม่ได้มีใครรู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวอะไร มันยังถูกมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ วิวัฒนาการของเมือง มันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กับการเจริญขึ้นเป็นเมืองที่ดียิ่งกว่าเดิมของสิงคโปร์ ที่ซึ่งความร่วมสมัยอาจหมายความถึงประวัติศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบปีข้างหน้า

ในขณะที่สถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นในยุคหลังประกาศเอกราชของประเทศกำลังถูกลบทิ้งและแทนที่ไปอย่างช้าๆ มันเปิดประตูสู่คำถามต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งที่แหวกขนบที่เคยเป็นมา

ผมคิดถึงรูปถ่ายเก่าๆ ที่แสดงภาพของสิงคโปร์ในช่วงศตวรรษที่ 19 เรามองกลับไปยังอดีตด้วยความรู้สึกตราตรึงใจ พลางคิดกับตัวเองว่าเมืองสิงคโปร์ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดไหนนับตั้งแต่นั้นมา บางที ที่สิงคโปร์ อดีตที่ว่าอาจจะย้อนหลังกลับไปแค่เพียงสิบหรือยี่สิบปีเท่านั้น

_____________

Akai Chew เป็นศิลปินที่ทำงานอยู่ในสิงคโปร์ พื้นหลังทางการศึกษาและการทำงานของเขาที่ครอบคลุมทั้งสถาปัตยกรรม การวางผังเมือง และมรดกทางสถาปัตยกรรมช่วยหล่อหลอมการทำงานศิลปะร่วมสมัยของเขา ในฐานะศิลปิน เขาทำงานภาพถ่ายและศิลปะจัดวางเฉพาะที่เป็นหลัก Akai เรียนเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อมมนุษย์สร้างที่ University of Tasmania ในออสเตรเลีย เขามีผลงานจัดแสดงมาแล้วในหลากหลายเมืองนับตั้งแต่สิงคโปร์ บันดัง นิวเดลี ไปจนถึงโฮบาร์ท และ ลอนเซสตัน

instagram.com/_a_kai_

 

PHOTO ESSAY : DIY THAI CHAIRS

TEXT & PHOTO: BARRY MACDONALD

(For English, press here

ผมเป็นช่างภาพ และผมก็ได้ทำการบันทึกภาพบรรดาเก้าอี้ที่ถูกซ่อม หรือวัสดุที่ถูกดัดแปลงให้นั่งได้ตามท้องถนนของประเทศไทย สิ่งเหล่านั้นมองอย่างไรก็เป็นสิ่งที่ชำรุดแล้ว แต่มันกลับไม่ถูกทิ้งขว้าง หากแต่ได้รับการซ่อมแซมด้วยการเชื่อมต่อ ปะติด มอบชีวิตใหม่ให้สิ่งของอีกครั้งหนึ่ง ในสายตาคนบางคน เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งที่อาจดูผุพังใช้งานไม่ได้อีกต่อไป แต่ก็ยังมีคนที่เลือกซ่อมแซมมัน เพราะยังมองเห็นโอกาสที่จะใช้งานต่อได้อย่างไม่รู้จบ เราสามารถพบเจอเก้าอี้เหล่านี้ได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นที่เพิงวินมอเตอร์ไซค์หรือตลาด หรือสถานที่สาธารณะที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการพักผ่อนแต่ไม่มีอุปกรณ์สาธารณะประโยชน์ตอบสนอง การสร้างที่พักพิงชั่วคราวเหล่านี้ขึ้นมาด้วยตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ 

นักออกแบบและวิศวกรของเก้าอี้ชุดนี้คือกลุ่มคนธรรมดาๆ ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และความหลักแหลมของตนรังสรรค์ผลงานเหล่านี้ขึ้นมา ภายใต้ปรัชญาการใช้ซ้ำ (recycling) และนำสิ่งของกลับมาใช้ใหม่ (upcycling) ในขณะที่ผลงานที่พวกเขาสร้างขึ้นมีการใช้งานเป็นจุดประสงค์หลัก แต่ถึงอย่างนั้น พวกมันก็ก่อกำเนิดความงามที่แตกต่างออกไป จากเทคนิคการประกอบร่างวัสดุหลายอย่าง เช่นงานไม้ การถักทอ การผูก การเชื่อม การติดกาว การผูกเคเบิล การแกะสลัก การติดเทป การใช้ยางยืด ฯลฯ บางครั้งวัตถุรอบๆ ก็กลายเป็นองค์ประกอบที่ช่วยเสริมความแข็งแรง ราวกับเก้าอี้และท้องถนนผสานหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เช่นเดียวกับเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ผมเคยเห็น ที่วางตัวอยู่ภายในกิ่งไม้ที่กลายเป็นที่วางแขนของมันไปในที่สุด

ของราคาถูกที่พังง่ายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เพิ่มการสร้างขยะและค่านิยมบริโภคนิยม ศิลปะของการซ่อมแซมสิ่งของที่เราเป็นเจ้าของกำลังล้าสมัย พร้อมๆ กับการที่เหล่าบริษัทผู้ผลิตใช้กลยุทธ์สร้างผลิตภัณฑ์ให้หมดอายุเมื่อผ่านระยะเวลาไปสักประมาณหนึ่ง เก้าอี้เหล่านี้เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของการออกแบบเมือง มันทำงานกับข้อจำกัดที่มาพร้อมความเสียหายและเงื่อนไขที่ไม่ปกติของวัสดุ การสร้างที่นั่งที่ทำให้การนั่งทำงานบนท้องถนนสามารถเป็นไปได้ ทักษะเหล่านี้จึงมีความจำเป็น เพราะในขณะที่เรากำลังเผชิญประเด็นปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับทรัพยากรในโลกนี้ การมีความคิดและทัศนคติว่าเราควรที่จะซ่อมแซมสิ่งต่างๆ มากกว่าที่จะหาสิ่งใหม่มาแทนที่สิ่งเก่าเสมอจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ

ผมคิดว่าทักษะของนักออกแบบธรรมดาเหล่านี้ คือการคิดริเริ่ม ความสามารถในการแก้ปัญหา รวมไปถึงมีความยืดหยุ่น เป็นสิ่งจำเป็นต่อความเป็นไปของประเทศไทย และมันควรได้รับการคำนึงถึงและส่งเสริม เมื่อมีการวางแผนพื้นที่สาธารณะในอนาคต

_____________

แบร์รี่ แมคโดนัลด์ เกิดที่ลอนดอน สหราชอาณาจักร พ่อของเขาเคยถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์ม 35 มม. เป็นงานอดิเรก และได้สอนวิธีใช้กล้องนี้แก่เขาเมื่อเขายังเด็ก ตอนที่เขาอายุ 15 เขามีกล้องฟิล์มเป็นของตัวเอง สำหรับแบร์รี่ กล้องเป็นช่องทางในการปฏิสัมพันธ์กับโลกในแบบที่เป็นเหตุเป็นผล การจับภาพ สร้างเฟรมและองค์ประกอบขึ้นจากช่วงเวลาๆ หนึ่งอันนำมาซึ่งความพึงใจ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นและคงอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว กล้องได้นำพาให้เขาออกเดินทางและพบเจอผู้คน และเขาก็รู้สึกขอบคุณมันเสมอที่เปลี่ยนชีวิตเขาและช่วยให้เขาเข้าใจโลกในแบบที่มันเป็น

instagram.com/barrymac84

PHOTO ESSAY : PUBLIC HOUSING IN SINGAPORE

TEXT & PHOTO: DARREN SOH

(For English, press here

สิ่งที่จัดว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสิงคโปร์คือโครงการที่อยู่อาศัยที่พัฒนาและจัดสรรโดยรัฐหรือ Public Housing ที่ได้เปลี่ยนโฉมหน้าการอยู่อาศัยของพลเมืองของสิงคโปร์ไปอย่างสิ้นเชิงในช่วงระยะเวลากว่า 64 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐที่ดูแลโครงการดังกล่าวคือ Housing & Development Board (HDB) หรือคณะกรรมการที่อยู่อาศัยและการพัฒนา ที่ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 1960 และมีหน้าที่ในการพัฒนา ก่อสร้างที่อยู่อาศัยคุณภาพดีในราคาเข้าถึงได้ ให้กับคนสิงคโปร์มาโดยตลอด โดยคนสิงคโปร์มากกว่า 80% อาศัยอยู่ในบ้านที่สร้างโดยรัฐบาลที่มี HDB เป็นหน่วยงานที่จัดสรรเงินอุดหนุนและดำเนินการ

สถาปัตยกรรมของอาคารการเคหะของ HDB นั้นได้วิวัฒนาการไปพร้อมๆ กับกาลเวลาและยุคสมัยที่ผันผ่าน ผมไดัพยายามที่จะแสดงภาพวิวัฒนาการนั้นผ่านภาพถ่าย 20 ภาพที่ปรากฏในบทความนี้ โดยภาพทุกภาพ ได้รับการจัดเรียงตามลำดับเวลา นับตั้งแต่อาคารที่พักอาศัยหลังแรกๆ ที่สร้างในปี 1960 ไปจนถึงโครงการใหม่ล่าสุดที่สร้างแล้วเสร็จในปี 2023 นี่เอง นับตั้งแต่ปี 1991 เป็นต้นมา HBD ได้ทำงานร่วมกับสถาปนิกจากภาคเอกชนแทนการรับหน้าที่ออกแบบโครงการทั้งหมดด้วยตัวเอง ความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลอย่างชัดเจนต่อความหลากหลายที่เพิ่มมากขึ้นของสถาปัตยกรรมของเหล่าอาคาร HBD ในช่วงหลังทศวรรษ 1990 ตลอดวิวัฒนาการที่เกิดขึ้น HBD ได้เปลี่ยนจากการใช้แผ่นพื้นคอนกรีตและการก่อสร้างอาคารสูงที่วางตัวอยู่เป็นบล็อก ไปสู่ยุคหลังสมัยใหม่ที่อาคารปรากฏรายละเอียดของการตกแต่งประดับประดา ไปจนถึงการออกแบบและสร้างอาคารที่พักอาศัยสูงระฟ้า มาจนปัจจุบันที่มีการให้ความสำคัญกับแนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า “biophilic design” หรือการออกแบบที่ส่งเสริมให้มนุษย์ได้เชื่อมต่อสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมธรรมชาติ

_____________

Darren Soh จบการศึกษาด้านสังคมวิทยา เป็นช่างภาพสถาปัตยกรรมและภูมิสถาปัตยกรรมผู้มีผลงานส่วนตัว ที่เป็นเหมือนส่วนต่อขยายของความสนใจใคร่รู้ของเขาต่อการอยู่อาศัยของมนุษย์ ไปจนถึงพื้นที่ที่มนุษย์สร้างขึ้น และทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง เขามีความสนใจเป็นพิเศษในงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ รวมไปถึงอาคารการเคหะที่พัฒนาและจัดสรรโดยรัฐ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในฐานะสมาชิกก่อตั้งของ DOCOMOMO สาขาสิงคโปร์อีกด้วย ปัจจุบัน Darren กำลังทำงานที่เป็นการบันทึกสถาปัตยกรรมอาคารการเคหะที่พัฒนาโดย Housing & Development Board ตลอดระยะเวลา 64 ปีที่ผ่านมา

facebook.com/darrensohphotographer
instagram.com/darrensohphoto

PHOTO ESSAY : EVERYDAY LIFE OF AN ASTRONAUT

TEXT & PHOTO: UTYUIROIRO

(For English, press here

ภาพถ่ายชุดนี้คือ ‘เหตุการณ์พิลึกพิลั่นในวันสามัญธรรมดา’ จากการปรากฏตัวของนักบินอวกาศในแต่ละวัน

พอเราดูภาพถ่ายพวกนี้แล้ว เรารับรู้ได้ถึงอารมณ์อันหลากหลาย ทั้งน่าเอ็นดู น่ากลัว น่าค้นหา บางคนก็รู้สึกถึงความอ้างว้างภายในตนเอง

นี่คือมนุษย์อวกาศที่อยู่ในภาพจำของผู้คนทั่วโลก ไร้ซึ่งอัตลักษณ์จำเพาะเจาะจงใดๆ และเพราะสิ่งนี้เอง ทุกคนจึงจินตนาการถึงสถานการณ์ในภาพได้อย่างอิสระ

ผมรู้สึกว่ามันเหมือนนิยายไซไฟ

คำว่า ‘Dépaysement’ ในแวดวงศิลปะแบบ surrealism หมายถึงการเคลื่อนย้ายสิ่งของบางอย่างออกจากบริบทที่ควรจะเป็นไปไว้ที่อื่นแล้วเกิดความแตกต่างขึ้นมา

ภาพถ่ายนี้เรียกว่าเป็นการ Dépaysement ได้ด้วยเช่นกัน

ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ ความก้าวหน้าด้านอวกาศจากบริษัทเอกชน อย่าง SpaceX จะสร้างแรงกระเพื่อมมากขึ้นเรื่อยๆ และการท่องอวกาศกลายเป็นความจริง ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป 

ในอนาคตที่วาดฝันไว้ มีความเป็นไปได้ว่าใครๆ ก็เป็นนักบินอวกาศได้

ดังนั้น ความรู้สึกผิดที่ผิดทางจาก ‘การปรากฏตัวของนักบินอวกาศในชีวิตประจำวัน’ อาจไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดเท่าไรนักในภายภาคหน้า

นี่ถือเป็นการแสดงออกถึงการเปิดรับความก้าวหน้าทางอวกาศในอนาคตได้เลยทีเดียว

_____________

Utyuiroiro เป็นช่างภาพชาวญี่ปุ่น จบการศึกษาจาก Osaka University of Arts เขาทำชุดนักบินอวกาศเป็นของตัวเองและเริ่มต้นถ่ายภาพชุด ‘Everyday Life of an Astronaut’ ในปี 2020 นอกจากนี้เขายังผลิตผลงานวิดีโอแนวไซไฟอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น เรื่อง ‘KAIJYU’

utyuiroiro.site
instagram.com/utyuiroiro

PHOTO ESSAY : SPEND TIME

TEXT & PHOTO: PEERAPAT WIMOLRUNGKARAT

(For English, press here

ไร่แม่ฟ้าหลวง (อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง) เป็นสถานที่ที่ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนทุกครั้ง ที่ขึ้นไปเชียงราย (ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7)

สถานที่แห่งความสุขความทรงจำ ในครั้งแรกที่ได้ขึ้นไปสัมผัสกับความสงบและสง่าของที่แห่งนี้ 

หลายปีก่อนได้มีโอกาสไปร่วมงานแต่งงานของรุ่นพี่ที่เคารพทั้งสองท่าน ครั้งนั้นก็ได้มีคำมั่นกับตัวเอง ว่าครั้งหน้าจะมาเชียงราย และจะต้องกลับมาอีกให้ได้ 

ใครจะคิดว่าคำความคิดวันนั้น ทำให้ผมได้หวนเวียนกลับมาอีกตอนต้นปี 2023 ผมได้มีโอกาสขึ้นมา ที่จังหวัดเชียงราย หลังจากได้ถ่ายงานเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ผม อาจารย์ และพี่พี่ ได้มีโอกาสมาชม นิทรรศการ Light of Life ที่จัดขึ้นในช่วงเวลานั้นพอดิบพอดี รวมทั้งบรรยากาศก็ดี ผมได้ถือโอกาส มาชมทั้งเวลาค่ำคืนที่จัดแสงไฟ และตอนกลางวันที่ไม่เปิดแสดงไฟ 

ความสวยงามของไร่แม่ฟ้าหลวงทำให้ผมต้องหลงเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการจัดวางชิ้นงานศิลปะ ในแต่ละชิ้น ที่สอดรับขับกล่อมไปกับสวนและอาคารงานสถาปัตยกรรม 

และในครั้งนี้ (2024) ผมได้มีโอกาสใช้เวลากลับมาบันทึกภาพไร่แม่ฟ้าหลวงอย่างจริงจัง และเพลิด เพลินกับงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ที่ไร่แม่ฟ้าหลวง เป็นอีกหนึ่งในสถาน ที่จัดแสดงงานของศิลปินหลายท่าน ด้วยพื้นที่ที่เหมาะกับการจัดแสดงงานศิลป์ในรูปแบบต่างๆ แล้ว บรรยากาศในการถ่ายงานครั้งนี้ของผมนั้นเสมือนกับการได้พักผ่อนจิตใจไปในคราวเดียวกัน 

การที่เราให้เวลากับพื้นที่ ให้นาทีกับงานศิลปะชิ้นนั้นๆ ทำให้เราค่อยๆ ซึมซับพลังงานจากสถานที่ และศิลปิน เหมือนการจิบเครื่องดื่มที่ถูกปาก หอมคอ ในเวลาเดียวกัน 

การที่ได้มีโอกาสเดินและสัมผัสกับธรรมชาติภายในไร่แม่ฟ้าหลวงนั้นทำให้ผมค่อยๆ สังเกตตัวเองในเรื่องการมองโลก การมองพื้นที่ที่เปลี่ยนไป ไม่รีบเร่งและมีการวางแผนสำหรับการถ่ายทำงาน และ เพลินกับงานสถาปัตยกรรม พร้อมกับตั้งคำถามโน่นนี่นั่นไป สัมผัสรอยยิ้มของกลิ่นอายของต้นหญ้า เสียงใบไม้ทักทายกัน สร้างบรรยากาศสุขสงบ ทำให้ผมหลงรักพื้นที่แห่งนี้ขึ้นมา จนรู้สึกว่า “อยากมีบ้านอยู่เชียงรายครับ”

_____________

พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ (แอ๊ด) ช่างภาพผู้ชื่นชอบเก็บบันทึกภาพนิ่ง ที่มีความเคลื่อนไหวในความทรงจำ

Leica Ambassador (Thailand)
Architecture photography @somethingarchitecture

facebook.com/somethingarchitecture
facebook.com/addcandid

PHOTO ESSAY : PRATEEP’S VISION V

TEXT: PRATCHAYAPOL LERTWICHA
PHOTO: PRATEEP TANGMATITHAM

(For English, press here

อิสรภาพในการเดินทางพลันดับสิ้นไปเมื่อโรคระบาดเข้ามาเยือน โลกตกอยู่ภายใต้ภาวะชะงักงัน สรรพสิ่งหยุดนิ่ง แต่เมื่อฝันร้ายมลายหายไป ชีวิตกลับมาโลดแล่น และผู้คนเริ่มต้นออกเดินทางเช่นเคย แต่การเดินทางในคราวนี้กลับต่างออกไป เพราะภาพทัศน์ที่มองเห็นรอบกายนั้นให้ความรู้สึกสดใหม่ไม่เหมือนเดิม 

หลังวิกฤตการณ์โรคระบาดคลี่คลาย ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม หัวเรือใหญ่ของบริษัทศุภาลัย ออกเดินทางซึมซับความงามของโลกกว้างด้วยดวงตาคู่ใหม่ พร้อมบันทึกความประทับใจลงในหนังสือและนิทรรศการภาพถ่ายประทีปทัศน์ 5 ซึ่งสะท้อนทั้งความงามของต้นไม้ภูเขา ทะเล สถาปัตยกรรม ผู้คน และมุมมองของชีวิต ที่ดร.ประทีปสั่งสมมาอย่างยาวนาน

_____________

ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)

PHOTO ESSAY : WHEN YOU CAN LIVE FOREVER, WHAT DO YOU LIVE FOR?

TEXT & PHOTO: SUBPAWICH KUNJAK

(For English, press here

ในบรรยากาศงานที่ถูกความโศกเศร้าจู่โจม 

แววตา สีหน้า ความรู้สึก นับจากนี้ล้วนเป็นของคนที่กำลังมีชีวิตอยู่

ห้วงเวลา ณ ขณะนั้น ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพถ่ายที่มากกว่าแค่การเก็บภาพพิธีการ แต่จะกลายเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างคนที่อยู่และจากไป ให้เป็นความทรงจำสุดท้ายที่ดีที่สุด

_____________

สรรพวิญช์ กัลจาก ช่างภาพอิสระที่มีมุมมองการถ่ายภาพงานศพเป็นเหมือนการบันทึกความรู้สึกตัวเอง

facebook.com/omo.kunjak

PHOTO ESSAY : TIME STANDS STILL

TEXT & PHOTO: PRADITCHYA SINGHARAJ

(For English, press here

ผมสนใจในการ capture ช่วงเวลาของสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่รอบตัวเรา โดยแทนที่ภาพถ่ายจะเก็บสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลา 1/100 หรือ 1/1000 วินาที แต่เป็น 1 วินาที หรือนานกว่านั้น การรับรู้ของคนเราไม่สามารถหยุดเวลาเป็นเศษเสี้ยวของวินาทีได้ เวลามันเคลื่อนที่ สรรพสิ่งมันเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

ภาพชุดนี้ผมถ่ายด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมันตอบโจทย์ได้ดีเกินคาดมาก สามารถถ่ายภาพ long exposure ได้อย่างง่ายดาย ทุกเวลาและสถานที่ แทนการถ่าย long exposure ทั่วไปที่อาจเป็นไปไม่ได้เลยในบางช่วงเวลาและสถานที่ที่แสงอาจมากเกินไป หรือที่ที่เราไม่สามารถตั้งขาตั้งกล้องได้

ภาพถ่ายมันบอกความเป็นตัวตนของเรา ผมคิดเสมอว่าการที่เราถ่ายภาพ กล้องและเลนส์ มันเป็นเพียงแค่อุปกรณ์ แต่การนำภาพที่เราเห็นหรือรู้สึกออกมาให้ได้นั้นสำคัญกว่า

_____________

ประดิชญา สิงหราช Managing Director ประจำบริษัท Innovative Design & Architecture Co.,Ltd. ชอบถ่ายภาพ ฟังเพลง และหมกมุ่นกับการสร้างเครื่องขยายเสียง

facebook.com/praditchya.singharaj

PHOTO ESSAY : HUMAN TRACE

TEXT & PHOTO: DITTA SUTHEPPRATANWONG

(For English, press here

เราต่างเดินบนพื้น เราสร้างบ้านบนพื้น เราเพาะปลูก หาอาหารและใช้ชีวิตบนพื้น และการมีอยู่ของเราล้วนถูกกำหนดอยู่บนระนาบนอนภายใต้แรงโน้มถ่วง จึงไม่แปลกเลยที่พื้นจะเต็มไปด้วยร่องรอยของมนุษย์ 

ทุกครั้งที่เราใช้ชีวิต ทุกครั้งที่เราเดินทาง ทุกครั้งที่เราประกอบกิจกรรมต่างๆ เราต่างเคยทิ้งร่องรอยหรือเศษเสี้ยวของเรา ทั้งทางรูปธรรมและนามธรรมไว้บนพื้นทั้งสิ้น 

ผมจึงเกิดความสงสัยใคร่รู้ เริ่มต้นศึกษาความเป็นมนุษย์ ผ่านสมมติฐานที่ว่า หากเราบันทึกร่องรอยที่หลงเหลือเหล่านั้น แล้วนำมาปะติดปะต่อกัน จะสามารถประกอบสร้างความเป็นมนุษย์ขึ้นมาใหม่เหมือนกับการต่อเลโก้ได้หรือไม่ ดังเช่นที่เราทุกคนต่างก็เคยเก็บเศษเสี้ยวของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ทั้งหยิบยื่นบางส่วนของตนเองให้คนอื่น หรือแม้กระทั่งการเผลอทำบางส่วนของตัวเองหล่นพื้น 

ภาพชุดนี้จึงรวบรวมร่องรอยของมนุษย์ที่หลงเหลือบนพื้นเอาไว้และใช้ความผิดที่ผิดทาง เป็นชนวนขับเน้นร่องรอยเหล่านั้น พร้อมกับเชิญชวนผู้ชมมาลองประกอบสร้างความเป็นมนุษย์ขึ้นมาใหม่ผ่านความคิดและวิจารณญาณส่วนตัวของแต่ละคน ขอให้สนุกครับ

_____________

ดิษฐา สุเทพประทานวงศ์ นักเรียนสถาปัตย์ที่กลายมาเป็นช่างภาพสถาปัตยกรรม และศิลปินอิสระ ปัจจุบันเป็นช่างภาพให้กับ W Workspace

facebook.com/dittaphoto
instagram.com/ditta25

PHOTO ESSAY : FISH AND CHIPPERFIELD

TEXT & PHOTO: KARJVIT RIRERMVANICH

(For English, press here

David Chipperfield บอกว่า “Good architecture provides a setting, It’s there and it’s not there.” มันทั้งอยู่ตรงนั้น และก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้น งานของเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ และถ้าจะมีอะไรสักอย่างที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนบนอาคารเหล่านี้ ผมคิดว่ามันคือเส้นที่บางเหลือเกินเส้นหนึ่ง ที่แบ่งอยู่ระหว่างความเหนือชั้นกับความดาษดื่นธรรมดาๆ 

The Hepworth Wakefield, Wakefield
Turner Contemporary, Margate
One Pancras Square, London

_____________

กาจวิศว์ ริเริ่มวนิชย์ เป็นบรรณาธิการ art4d เป็นสถาปนิกผู้ก่อตั้งสตูดิโอ Physicalist และเป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย

instagram.com/karjvit