หมวดหมู่: PHOTO ESSAY

PHOTO ESSAY : TOWARDS EVENING

TEXT & PHOTO: FEDERICO COVRE

(For English, press here

รูปเหล่านี้นำเสนอคอลเล็กชันของโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในหลากหลายประเทศแถบยุโรป ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ และเดนมาร์ก ทั้งหมดถูกถ่ายในยามเย็นก่อนที่กลางคืนจะคืบคลานมาถึง ทุกภาพล้วนแสดงบรรยากาศที่เงียบสงบ แสงธรรมชาติ โดยมีสถาปัตยกรรมรับบทบาทเป็นตัวเอก
________________

Federico Covre (เกิดปี 1977) เป็นช่างภาพสถาปัตยกรรมและแลนด์สเคปที่ทำงานและพำนักอยู่ในอิตาลีและสวีเดน เขามุ่งสร้างสมดุลระหว่างความเข้มข้นทางแนวคิดและการใช้งานจริงในงานสถาปัตยกรรมผ่านการสื่อสารทางภาพหลากหลายวิธีการ ผลงานของเขาเน้นการถ่ายทอดองค์ประกอบที่เรียบง่ายแต่มีระดับ อธิบายสถาปัตยกรรมในบริบทแวดล้อม พร้อมกับจับภาพความงามของวัตถุ ไปจนถึงสิ่งที่อยู่นอกเหนือมิติทางกายภาพ

federicocovre.com
facebook.com/fedcovre
instagram.com/Federico.Covre

PHOTO ESSAY: SUKHUMVIT- THE THIRD ROAD

TEXT & PHOTO: ADAM BIRKAN

(For English, press here

‘สุขุมวิท’ เป็นการสำรวจสมมติฐานที่ว่าถนนสุขุมวิทเป็นโลกใบย่อมๆ ใบหนึ่งของกรุงเทพมหานคร และก็อาจจะเป็นตัวแทนของสังคมในภาพรวมด้วยก็เป็นได้ แม้ว่าถนนทั้งสายจะทอดยาวจากกรุงเทพฯ ไปสุดที่ชายแดนกัมพูชา (ตามทางหลวงหมายเลข 3) แต่พื้นที่ที่ได้สำรวจในหนังสือเล่มนี้ส่วนใหญ่เน้นไปที่ระยะทาง 14 กิโลเมตร ของช่วงถนนที่ตัดผ่านในเขตกรุงเทพฯ จากจุดเริ่มต้นในใจกลางเมืองที่สถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต ไปจนถึงทางตอนใต้ของตัวเมืองที่สถานีฯ ช้างเอราวัณ ซึ่งเลยเขตเมืองไปไม่ไกลนัก ทั้งนี้ ภาพชุดนี้ไม่ได้ชี้แนะทางออกใดๆ เพียงแต่เผยให้เห็นถึงมิติของชีวิตที่อยู่รวมกันบนถนนสายหนึ่งในเมืองเมืองหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่ผู้ชมรับรู้และเข้าใจเป็นการสะท้อนถึงความคิดตนเองและสะท้อนภาพความเป็นจริง ถนนสายนี้ก็เหมือนถนนสายอื่นๆ ที่แสดงประสบการณ์ของมนุษย์ออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม ที่ซึ่งความลำบากและความรุ่งเรือง อุตสาหกรรมและประวัติศาสตร์ เวลาและวัฒนธรรม หลอมรวมถักทอเป็นผืนผ้าที่มีชีวิต ในขณะเดียวกัน แรงขับเคลื่อนที่ไม่อาจหยุดยั้งของคนรุ่นใหม่และสิ่งต่างๆ ซึ่งคงหยุดอยู่กับที่ของคนรุ่นเก่าก็กำลังบดขยี้กันและกันไปจวบจนจุดสิ้นสุดของกาลเวลา

__________________

Adam Birkan เป็นช่างภาพอิสระและนักเล่าเรื่องด้วยภาพ ที่ได้รับการรับเลือกให้เป็นหนึ่งใน Magnum’s 30 Under 30 และ PDN 30 เขาจบปริญญาตรีวิทยาศาสตร์ด้านการสื่อสารด้วยภาพจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ โดยปัจจุบัน Birkan อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และกำลังทำงานทั้งโปรเจ็กต์ระยะยาวและระยะสั้น ผลงานส่วนตัวของเขามักจะมองภาพรวมของปัญหาเชิงสังคมและเศรษฐกิจ และให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการเปรียบเทียบทั้งในความหมายโดยตรงและเชิงอุปมา และการมองหาช่วงเวลาอันละเอียดอ่อนและแทบไม่มีใครสังเกตเห็น ที่เมื่อรวมกันแล้ว เผยให้เห็นภาพกว้างของอุตสาหกรรมอันเร่งรัดและความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ

adambirkan.com
instagram.com/adambirkan

PHOTO ESSAY: GENESIS

TEXT & PHOTO: THANNOP AUTTAPUMSUWAN

(For English, press here

เคยไหม ที่เราเดินทางไปสถานที่หนึ่ง มองออกไปรอบตัวมีแต่สิ่งที่สวยงามถูกจัดวางได้อย่างน่าประหลาดใจ จนเกิดความสงสัยว่า ธรรมชาติเหล่านี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเองใช่ไหม หรือบางทีโลกเราอาจจะถูกออกแบบและสร้างโดยใครบางคนรึเปล่า?

“IN THE BEGINNING GOD CREATED THE HEAVEN AND THE EARTH”

สมัยเด็กเคยสงสัยว่าโลกนี้เกิดขึ้นมายังไง พอโตขึ้นมาหน่อยก็มีทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์มากมายที่มาอธิบายการเกิดของโลกใบนี้ แต่ทฤษฎีเหล่านั้นก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าจริง

แต่มีหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง ที่ขายดีที่สุดในโลกตลอดกาล ถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมายหลายภาษา นั่นคือ ‘พระคัมภีร์ไบเบิล’ ประกอบด้วยหนังสือย่อยทั้งหมด 66 เล่ม และเล่มแรกชื่อว่า ‘ปฐมกาล’

ในบทที่ 1 ข้อ 1 กล่าวว่า “ในปฐมกาล พระเจ้าทรงเนรมิตฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก” กล่าวถึงพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างโลกใน 6 วัน พอได้ศึกษาและทำความเข้าใจแต่ละข้อความ จึงเกิดเป็นภาพถ่ายชุดนี้ขึ้น

‘ปฐมกาล’ การสร้างโลกใบนี้ของพระเจ้า

เกิดขึ้น…ตั้งอยู่…ดับไป

_____________

ธัญนพ อัตภูมิสุวรรณ์  จบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบันเป็นช่างภาพสถาปัตยกรรม และทำงานส่วนตัวด้วยกล้องฟิล์มขาวดำ และกระบวนการในห้องมืด

facebook.com/gapjaa
instagram.com/gapjaa_naja
instagram.com/whydoyoulovefilm

PHOTO ESSAY : WAT ARUN

TEXT & PHOTO: TANAGON TIPPRASERT

(For English, press here

ตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน วัดอรุณราชวรารามหรือวัดอรุณฯ เป็นวัดสำคัญที่คนไทยหรือชาวต่างชาติคุ้นเคยกับภาพความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ กันเป็นอย่างดี แต่จริงๆ แล้วมุมมองแปลกใหม่ยังคงมีซ่อนอยู่ให้ได้ค้นหาในทุกๆ ครั้งที่ได้เข้ามาเยี่ยมชม รวมไปถึงบริเวณรอบๆ ที่ยังน่าสนใจและรู้สึกประทับใจทุกครั้งที่ได้มา สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ทำให้การเดินชมวัดอรุณฯ เต็มไปด้วยความสนุก น่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจากชาติต่างๆ เป็นมุมมองจากเขาสู่เรา เพราะจะมีทั้งการบริการแต่งกายชุดไทยเพื่อให้ความรู้สึกสมจริงเหมือนย้อนเวลากลับไปในยุคเก่า เพิ่มความสนุกสนานในการเดิมชมวัด ถึงแม้ในบางวันที่อากาศอาจจะร้อนมากเป็นพิเศษ แต่นักท่องเที่ยวทุกคนยังดูมีความเพลิดเพลิน รวมไปถึงการเดินทางมายังวัดอรุณฯ ก็มีทั้งทางรถและทางเรือที่บริการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมได้อย่างสะดวก ภาพชุดนี้เลยอยากนำเสนอมุมมองและจังหวะที่พิเศษดูแปลกใหม่ ให้ผู้ชมภาพได้จินตนาการต่อ และอยากให้ความเป็นวัดอรุณฯ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยังคงอยู่ตลอดไป

__________

ธนากร ทิพย์ประเสริฐ เป็นช่างภาพอิสระและรับถ่ายภาพ wedding มีความสนใจชื่นชอบการถ่ายภาพสตรีทและสารคดี

facebook.com/Tanagon56
instagram.com/tana_gon

PHOTO ESSAY : BANGKOK ARCHIVE

TEXT & PHOTO: ULF SVANE

(For English, press here

บางกอกรำลึก เป็นชุดภาพถ่ายที่เล่าเรื่องราวของกรุงเทพมหานคร ความสงสัยและความรักต่อเมืองหลวงแห่งนี้ที่ นำพาเราไปสถานที่อันเก่าแก่เพื่อพูดคุยกับผู้คนที่ดูแลรักษาสถานที่เหล่านั้นให้มีชีวิตชีวาจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่เมืองกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพราะการเติบโตของเศรษฐกิจ บางครั้งกิจการร้านค้าและสถานที่เหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านของเมืองโดยเลี่ยงไม่ได้ บางแห่งต้องถูกย้าย บางแห่งอาจต้องปิดตัวลง การเก็บเรื่องราวเหล่านี้ผ่านภาพถ่ายนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง

ในขณะที่กรุงเทพฯ เริ่มมีการย้ายเข้ามาของผู้อยู่อาศัยมากหน้าหลายตา ส่งผลให้ความทรงจำบางส่วนของสถานที่ ต่างๆ ได้ถูกกลืนหายไป ในเวลาเดียวกัน ราคาบ้านที่สูงขึ้นใจกลางเมืองก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ผลักดันให้ประชากรส่วนใหญ่เริ่มออกไปอยู่ชานเมืองหรือส่วนอื่นๆ ของประเทศควบคู่ไปกับการย้ายถิ่นฐานของกิจการเล็กๆ หรือกิจการที่เคยมีมาตั้งแต่อดีต ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ๆ ครอบครัว เพื่อนฝูงใช้เป็นที่พบปะพูดคุย ร้านอาหาร หรือแม้แต่ร้านซักรีดเล็กๆ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเมืองมาก่อน ก็ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยกิจการร้านค้ารูปแบบใหม่ซึ่งเข้ามากำหนดบรรทัดฐานและวิถีชีวิตของเมือง ณ ปัจจุบัน

บางกอกรำลึกมีความตั้งใจที่จะรักษาความทรงจำและเผยแพร่เรื่องราวของผู้คนในสถานที่ๆ น่าสนใจเหล่านี้ เพื่อที่จะทำให้เราตระหนักได้ว่าเมืองในอดีตเคยเป็นเช่นไรและเราต้องการเห็นเมืองเป็นแบบใดในอนาคต ผ่านการตั้งคำถามว่าเมืองนี้เติบโตอย่างไร โดยเฉพาะในบริบทที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางรัฐ เพื่อทำความเข้าใจถึงเบื้องหลังในการเปลี่ยนแปลง เพราะเสน่ห์ของกรุงเทพฯ คือส่วนผสมของความหลากหลายเหล่านี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจเมืองแห่งนี้มากขึ้น และสะท้อนถึงอนาคต ของกรุงเทพมหานคร เมืองที่กำลังเปลี่ยนแปลง

_____________

Ulf Svane เป็นช่างภาพมือรางวัลชาวกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ผู้สร้างชื่อเสียงในวงกว้างด้วยผลงานอันโดดเด่น มีความชำนาญในการบันทึกภาพวัฒนธรรม ผู้คน และประสบการณ์เรื่องอาหารการกินออกมาร้อยเรียงเป็นภาพถ่าย ณ ขณะนี้ เขาใช้ชีวิตอยู่ทั้งโคเปนเฮเกน และกรุงเทพมหานคร ผลงานของเขาได้รับการตีพิมพ์โดยสื่อชั้นนำที่ได้รับการยอมรับ อาทิ Travel + Leisure, National Geographic, Financial Times และ The Washington Post

bkkarchive.com
ulfsvane.com
instagram.com/ulfsvane

 

PHOTO ESSAY : SPECTRUM OF SOLITUDE: A TAPESTRY OF URBAN LIFE

TEXT & PHOTO: CHEVAN LIKITBANNAKON 

(For English, press here

ในผลงาน ‘Spectrum of Solitude’ ซีรีส์ภาพถ่ายสะกดสายตา เลนส์กล้องส่องลึกลงไปยังพลวัตรอันซับซ้อนของเมือง จับภาพช่วงเวลาแห่งความสัมพันธ์ การใคร่ครวญ และการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ท่ามกลางพื้นหลังอย่างสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงถนนหนทางอันจอแจ ภาพแต่ละภาพเป็นดั่งฝีแปรงที่ปรากฏบนผืนผ้าใบอันกว้างใหญ่ของชีวิตเมือง เผยความสอดคล้องระหว่างความโดดเดี่ยวกับการมีใครสักคนอยู่ข้างๆ ความเกี่ยวโยงระหว่างวัฒนธรรมและศิลปะ

ชุดภาพภ่ายนี้เปิดด้วยฉากทัศน์ของผู้คนที่รายล้อมไปด้วยมิตรภาพอันอบอุ่น พวกเขาหัวเราะ แลกเปลี่ยนเรื่องราวในอ้อมกอดอันเขียวชอุ่มของสวนสาธารณะและคาเฟ่หน้าตาสวยงามน่านั่ง เพื่อนฝูง คนรัก ปลอบประโลมซึ่งกันและกัน ความสุขของพวกเขานั้นมองเห็นได้ชัดเจนโดยมีเมืองอันงดงามเป็นพื้นหลัง อย่างไรก็ดี สิ่งที่แทรกตัวอยู่ระหว่างช่วงเวลาแห่งความเป็นมิตรเหล่านี้ คือผู้คนที่โดดเดี่ยวซึ่งเหม่อลอยอยู่ท่ามกลางความเร่งรีบวุ่นวายของชีวิตเมือง ช่วงขณะอันเปลี่ยวเหงานี้นำเสนอภาพตรงข้ามกับพลังงานอันสดใสที่เกิดจากการพบปะของผู้คน มันชักชวนให้ผู้ชมละเมียดละไมกับความงามของการสำรวจตัวเองและการค้นพบตัวตน

ภาพถ่ายในซีรีส์ค่อยๆ เผยแง่มุมการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ผ่านรูปถ่ายที่จับภาพการทับซ้อนของธรรมเนียม และการแสดงออกหลากหลายที่บ่งบอกตัวตนของเมือง จากโถงอันเงียบงันของพิพิธภัณฑ์ที่ศิลปะกับประวัติศาสตร์สัมพันธ์เชื่อมโยง ไปจนถึงถนนอันครึกครื้นซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตหลากวัฒนธรรม แต่ละภาพคือหลักฐานของความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายของประสบการณ์ของมนุษย์ที่ปรากฏพบเจอในพื้นที่และอ้อมกอดของเมือง

‘Spectrum of Solitude’ นั้นเป็นมากกว่าชุดภาพถ่าย มันคือซิมโฟนีเฉลิมฉลองชีวิตเมืองที่มีมิติแง่มุมมากมาย ผ่านเลนส์ของการถ่ายภาพเเนวสตรีท ผู้ชมจะได้ร่วมค้นหาความสมดุลอันเปราะบางระหว่างความโดดเดี่ยวและความสัมพันธ์ วัฒนธรรมและศิลปะ เพื่อค้นพบความงามในช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่ช่วยก่อร่างสร้างประสบการณ์ในเมืองขึ้นมา

_____________

ด้วยพื้นหลังด้านการทำภาพยนตร์ Chevan Likitbannakon คือช่างภาพลูกครึ่งไทยอียิปต์ผู้ที่หลงใหลในการเล่าเรื่องด้วยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นการเล่าเรื่องผ่านรูปแบบทางทัศนศิลป์ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพถ่าย มิวสิควีดีโอ หรือการทำหนัง มันจะมีช่วงเวลาที่ปรากฏขึ้นเพียงชั่วขณะที่ทำให้ผมได้เห็นเสี้ยวหนึ่งของแก่นของคนหรือเรื่องราวที่ถูกผมจับภาพ นั่นคือเรื่องราวที่ผมเล่า การเป็นคนที่อยู่หลังกล้องที่บันทึกเขาช่วงเวลานั้นเอาไว้ พาตัวผมให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวเหล่านั้น มันอาจจะเป็นความรู้สึก หรือความคิด หรือสายตา ที่ถูกเผยออกมาระหว่างห้วงขณะที่ถูกจับภาพเอาไว้  และมันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อนเลยก็เป็นได้

chevan.myportfolio.com

 

PHOTO ESSAY : THE ARCHITECTURE OF DEMOLITION

TEXT & PHOTO: AKAI CHEW

(For English, press here

สิงคโปร์เป็นเมืองที่ยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง ตึกรามอาคารถูกสร้างและพัฒนาขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว ถึงขั้นที่ว่าตึกอายุ 30 ปี ก็ถูกมองว่าควรแก่เวลาสำหรับกับการถูกปรับปรุงพัฒนาใหม่ ที่สิงคโปร์ การทำลายและก่อสร้างเกิดขึ้นอยู่ทุกหนแห่ง คล้ายกับเวลาที่นักมายากลโยนผ้าผืนหนึ่งขึ้นบนฟ้าแล้วก็หายตัวไปทันทีที่ผ้าหล่นลงมา เมื่อนั่งร้านถูกเอาออกไป อาคารเก่านั้นก็ราวกับหายวับไปกับตา นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา อัตราการรื้อถอนอาคารของเมืองพุ่งทะยานขึ้นเป็นสัดส่วนที่สูงจนเหลือจะเชื่อ ในปัจจุบัน สี่ในสิบของอาคารที่สูงที่สุดในโลกที่ได้รับการพัฒนาใหม่อยู่ในสิงคโปร์

ในปี 1960 สิงคโปร์ใช้การพัฒนาพื้นที่เมืองเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจยุคใหม่ ตึกระฟ้าที่เพิ่งสร้างเสร็จส่งสัญญาณถึงยุคสมัยใหม่ของประเทศ หากแต่ในวันนี้ บางส่วนของอาคารเหล่านี้ได้ถูกทำลายลงไปแล้วเรียบร้อย 

การรื้อถอนและก่อสร้างในสิงคโปร์นั้นเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมพอๆ กับการมีอยู่ของอาคารจริงๆ อาคารหนึ่งเลยก็ว่าได้ ในช่วงไม่กี่ทศวรรษให้หลังมานี้ การพัฒนาอาคารเก่าขึ้นใหม่ และการสูญเสียไปซึ่งสิ่งแวดล้อมทั้งทางธรรมชาติและมนุษย์สร้างนั้น เป็นสิ่งที่พบเห็นและยอมรับได้อย่างไม่ได้มีใครรู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวอะไร มันยังถูกมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ วิวัฒนาการของเมือง มันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กับการเจริญขึ้นเป็นเมืองที่ดียิ่งกว่าเดิมของสิงคโปร์ ที่ซึ่งความร่วมสมัยอาจหมายความถึงประวัติศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นในอีกสิบปีข้างหน้า

ในขณะที่สถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นในยุคหลังประกาศเอกราชของประเทศกำลังถูกลบทิ้งและแทนที่ไปอย่างช้าๆ มันเปิดประตูสู่คำถามต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งที่แหวกขนบที่เคยเป็นมา

ผมคิดถึงรูปถ่ายเก่าๆ ที่แสดงภาพของสิงคโปร์ในช่วงศตวรรษที่ 19 เรามองกลับไปยังอดีตด้วยความรู้สึกตราตรึงใจ พลางคิดกับตัวเองว่าเมืองสิงคโปร์ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดไหนนับตั้งแต่นั้นมา บางที ที่สิงคโปร์ อดีตที่ว่าอาจจะย้อนหลังกลับไปแค่เพียงสิบหรือยี่สิบปีเท่านั้น

_____________

Akai Chew เป็นศิลปินที่ทำงานอยู่ในสิงคโปร์ พื้นหลังทางการศึกษาและการทำงานของเขาที่ครอบคลุมทั้งสถาปัตยกรรม การวางผังเมือง และมรดกทางสถาปัตยกรรมช่วยหล่อหลอมการทำงานศิลปะร่วมสมัยของเขา ในฐานะศิลปิน เขาทำงานภาพถ่ายและศิลปะจัดวางเฉพาะที่เป็นหลัก Akai เรียนเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อมมนุษย์สร้างที่ University of Tasmania ในออสเตรเลีย เขามีผลงานจัดแสดงมาแล้วในหลากหลายเมืองนับตั้งแต่สิงคโปร์ บันดัง นิวเดลี ไปจนถึงโฮบาร์ท และ ลอนเซสตัน

instagram.com/_a_kai_

 

PHOTO ESSAY : DIY THAI CHAIRS

TEXT & PHOTO: BARRY MACDONALD

(For English, press here

ผมเป็นช่างภาพ และผมก็ได้ทำการบันทึกภาพบรรดาเก้าอี้ที่ถูกซ่อม หรือวัสดุที่ถูกดัดแปลงให้นั่งได้ตามท้องถนนของประเทศไทย สิ่งเหล่านั้นมองอย่างไรก็เป็นสิ่งที่ชำรุดแล้ว แต่มันกลับไม่ถูกทิ้งขว้าง หากแต่ได้รับการซ่อมแซมด้วยการเชื่อมต่อ ปะติด มอบชีวิตใหม่ให้สิ่งของอีกครั้งหนึ่ง ในสายตาคนบางคน เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งที่อาจดูผุพังใช้งานไม่ได้อีกต่อไป แต่ก็ยังมีคนที่เลือกซ่อมแซมมัน เพราะยังมองเห็นโอกาสที่จะใช้งานต่อได้อย่างไม่รู้จบ เราสามารถพบเจอเก้าอี้เหล่านี้ได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นที่เพิงวินมอเตอร์ไซค์หรือตลาด หรือสถานที่สาธารณะที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการพักผ่อนแต่ไม่มีอุปกรณ์สาธารณะประโยชน์ตอบสนอง การสร้างที่พักพิงชั่วคราวเหล่านี้ขึ้นมาด้วยตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ 

นักออกแบบและวิศวกรของเก้าอี้ชุดนี้คือกลุ่มคนธรรมดาๆ ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และความหลักแหลมของตนรังสรรค์ผลงานเหล่านี้ขึ้นมา ภายใต้ปรัชญาการใช้ซ้ำ (recycling) และนำสิ่งของกลับมาใช้ใหม่ (upcycling) ในขณะที่ผลงานที่พวกเขาสร้างขึ้นมีการใช้งานเป็นจุดประสงค์หลัก แต่ถึงอย่างนั้น พวกมันก็ก่อกำเนิดความงามที่แตกต่างออกไป จากเทคนิคการประกอบร่างวัสดุหลายอย่าง เช่นงานไม้ การถักทอ การผูก การเชื่อม การติดกาว การผูกเคเบิล การแกะสลัก การติดเทป การใช้ยางยืด ฯลฯ บางครั้งวัตถุรอบๆ ก็กลายเป็นองค์ประกอบที่ช่วยเสริมความแข็งแรง ราวกับเก้าอี้และท้องถนนผสานหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เช่นเดียวกับเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ผมเคยเห็น ที่วางตัวอยู่ภายในกิ่งไม้ที่กลายเป็นที่วางแขนของมันไปในที่สุด

ของราคาถูกที่พังง่ายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เพิ่มการสร้างขยะและค่านิยมบริโภคนิยม ศิลปะของการซ่อมแซมสิ่งของที่เราเป็นเจ้าของกำลังล้าสมัย พร้อมๆ กับการที่เหล่าบริษัทผู้ผลิตใช้กลยุทธ์สร้างผลิตภัณฑ์ให้หมดอายุเมื่อผ่านระยะเวลาไปสักประมาณหนึ่ง เก้าอี้เหล่านี้เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของการออกแบบเมือง มันทำงานกับข้อจำกัดที่มาพร้อมความเสียหายและเงื่อนไขที่ไม่ปกติของวัสดุ การสร้างที่นั่งที่ทำให้การนั่งทำงานบนท้องถนนสามารถเป็นไปได้ ทักษะเหล่านี้จึงมีความจำเป็น เพราะในขณะที่เรากำลังเผชิญประเด็นปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับทรัพยากรในโลกนี้ การมีความคิดและทัศนคติว่าเราควรที่จะซ่อมแซมสิ่งต่างๆ มากกว่าที่จะหาสิ่งใหม่มาแทนที่สิ่งเก่าเสมอจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ

ผมคิดว่าทักษะของนักออกแบบธรรมดาเหล่านี้ คือการคิดริเริ่ม ความสามารถในการแก้ปัญหา รวมไปถึงมีความยืดหยุ่น เป็นสิ่งจำเป็นต่อความเป็นไปของประเทศไทย และมันควรได้รับการคำนึงถึงและส่งเสริม เมื่อมีการวางแผนพื้นที่สาธารณะในอนาคต

_____________

แบร์รี่ แมคโดนัลด์ เกิดที่ลอนดอน สหราชอาณาจักร พ่อของเขาเคยถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์ม 35 มม. เป็นงานอดิเรก และได้สอนวิธีใช้กล้องนี้แก่เขาเมื่อเขายังเด็ก ตอนที่เขาอายุ 15 เขามีกล้องฟิล์มเป็นของตัวเอง สำหรับแบร์รี่ กล้องเป็นช่องทางในการปฏิสัมพันธ์กับโลกในแบบที่เป็นเหตุเป็นผล การจับภาพ สร้างเฟรมและองค์ประกอบขึ้นจากช่วงเวลาๆ หนึ่งอันนำมาซึ่งความพึงใจ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นและคงอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว กล้องได้นำพาให้เขาออกเดินทางและพบเจอผู้คน และเขาก็รู้สึกขอบคุณมันเสมอที่เปลี่ยนชีวิตเขาและช่วยให้เขาเข้าใจโลกในแบบที่มันเป็น

instagram.com/barrymac84

PHOTO ESSAY : PUBLIC HOUSING IN SINGAPORE

TEXT & PHOTO: DARREN SOH

(For English, press here

สิ่งที่จัดว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสิงคโปร์คือโครงการที่อยู่อาศัยที่พัฒนาและจัดสรรโดยรัฐหรือ Public Housing ที่ได้เปลี่ยนโฉมหน้าการอยู่อาศัยของพลเมืองของสิงคโปร์ไปอย่างสิ้นเชิงในช่วงระยะเวลากว่า 64 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐที่ดูแลโครงการดังกล่าวคือ Housing & Development Board (HDB) หรือคณะกรรมการที่อยู่อาศัยและการพัฒนา ที่ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 1960 และมีหน้าที่ในการพัฒนา ก่อสร้างที่อยู่อาศัยคุณภาพดีในราคาเข้าถึงได้ ให้กับคนสิงคโปร์มาโดยตลอด โดยคนสิงคโปร์มากกว่า 80% อาศัยอยู่ในบ้านที่สร้างโดยรัฐบาลที่มี HDB เป็นหน่วยงานที่จัดสรรเงินอุดหนุนและดำเนินการ

สถาปัตยกรรมของอาคารการเคหะของ HDB นั้นได้วิวัฒนาการไปพร้อมๆ กับกาลเวลาและยุคสมัยที่ผันผ่าน ผมไดัพยายามที่จะแสดงภาพวิวัฒนาการนั้นผ่านภาพถ่าย 20 ภาพที่ปรากฏในบทความนี้ โดยภาพทุกภาพ ได้รับการจัดเรียงตามลำดับเวลา นับตั้งแต่อาคารที่พักอาศัยหลังแรกๆ ที่สร้างในปี 1960 ไปจนถึงโครงการใหม่ล่าสุดที่สร้างแล้วเสร็จในปี 2023 นี่เอง นับตั้งแต่ปี 1991 เป็นต้นมา HBD ได้ทำงานร่วมกับสถาปนิกจากภาคเอกชนแทนการรับหน้าที่ออกแบบโครงการทั้งหมดด้วยตัวเอง ความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลอย่างชัดเจนต่อความหลากหลายที่เพิ่มมากขึ้นของสถาปัตยกรรมของเหล่าอาคาร HBD ในช่วงหลังทศวรรษ 1990 ตลอดวิวัฒนาการที่เกิดขึ้น HBD ได้เปลี่ยนจากการใช้แผ่นพื้นคอนกรีตและการก่อสร้างอาคารสูงที่วางตัวอยู่เป็นบล็อก ไปสู่ยุคหลังสมัยใหม่ที่อาคารปรากฏรายละเอียดของการตกแต่งประดับประดา ไปจนถึงการออกแบบและสร้างอาคารที่พักอาศัยสูงระฟ้า มาจนปัจจุบันที่มีการให้ความสำคัญกับแนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า “biophilic design” หรือการออกแบบที่ส่งเสริมให้มนุษย์ได้เชื่อมต่อสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมธรรมชาติ

_____________

Darren Soh จบการศึกษาด้านสังคมวิทยา เป็นช่างภาพสถาปัตยกรรมและภูมิสถาปัตยกรรมผู้มีผลงานส่วนตัว ที่เป็นเหมือนส่วนต่อขยายของความสนใจใคร่รู้ของเขาต่อการอยู่อาศัยของมนุษย์ ไปจนถึงพื้นที่ที่มนุษย์สร้างขึ้น และทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง เขามีความสนใจเป็นพิเศษในงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ รวมไปถึงอาคารการเคหะที่พัฒนาและจัดสรรโดยรัฐ นอกจากนี้ยังมีบทบาทในฐานะสมาชิกก่อตั้งของ DOCOMOMO สาขาสิงคโปร์อีกด้วย ปัจจุบัน Darren กำลังทำงานที่เป็นการบันทึกสถาปัตยกรรมอาคารการเคหะที่พัฒนาโดย Housing & Development Board ตลอดระยะเวลา 64 ปีที่ผ่านมา

facebook.com/darrensohphotographer
instagram.com/darrensohphoto

PHOTO ESSAY : EVERYDAY LIFE OF AN ASTRONAUT

TEXT & PHOTO: UTYUIROIRO

(For English, press here

ภาพถ่ายชุดนี้คือ ‘เหตุการณ์พิลึกพิลั่นในวันสามัญธรรมดา’ จากการปรากฏตัวของนักบินอวกาศในแต่ละวัน

พอเราดูภาพถ่ายพวกนี้แล้ว เรารับรู้ได้ถึงอารมณ์อันหลากหลาย ทั้งน่าเอ็นดู น่ากลัว น่าค้นหา บางคนก็รู้สึกถึงความอ้างว้างภายในตนเอง

นี่คือมนุษย์อวกาศที่อยู่ในภาพจำของผู้คนทั่วโลก ไร้ซึ่งอัตลักษณ์จำเพาะเจาะจงใดๆ และเพราะสิ่งนี้เอง ทุกคนจึงจินตนาการถึงสถานการณ์ในภาพได้อย่างอิสระ

ผมรู้สึกว่ามันเหมือนนิยายไซไฟ

คำว่า ‘Dépaysement’ ในแวดวงศิลปะแบบ surrealism หมายถึงการเคลื่อนย้ายสิ่งของบางอย่างออกจากบริบทที่ควรจะเป็นไปไว้ที่อื่นแล้วเกิดความแตกต่างขึ้นมา

ภาพถ่ายนี้เรียกว่าเป็นการ Dépaysement ได้ด้วยเช่นกัน

ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ ความก้าวหน้าด้านอวกาศจากบริษัทเอกชน อย่าง SpaceX จะสร้างแรงกระเพื่อมมากขึ้นเรื่อยๆ และการท่องอวกาศกลายเป็นความจริง ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป 

ในอนาคตที่วาดฝันไว้ มีความเป็นไปได้ว่าใครๆ ก็เป็นนักบินอวกาศได้

ดังนั้น ความรู้สึกผิดที่ผิดทางจาก ‘การปรากฏตัวของนักบินอวกาศในชีวิตประจำวัน’ อาจไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดเท่าไรนักในภายภาคหน้า

นี่ถือเป็นการแสดงออกถึงการเปิดรับความก้าวหน้าทางอวกาศในอนาคตได้เลยทีเดียว

_____________

Utyuiroiro เป็นช่างภาพชาวญี่ปุ่น จบการศึกษาจาก Osaka University of Arts เขาทำชุดนักบินอวกาศเป็นของตัวเองและเริ่มต้นถ่ายภาพชุด ‘Everyday Life of an Astronaut’ ในปี 2020 นอกจากนี้เขายังผลิตผลงานวิดีโอแนวไซไฟอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น เรื่อง ‘KAIJYU’

utyuiroiro.site
instagram.com/utyuiroiro