ป้ายกำกับ: House

TINY TIN HOUSE

บ้านที่ RAD studios หยิบ ‘กระป๋อง’ มาเป็นไอเดียหลักในการออกแบบ เพื่อตอบรับข้อจำกัดของที่ดินและทัศนียภาพที่ไม่น่ามอง และตอบโจทย์สำคัญอย่างการสร้างองค์ประกอบทางสายตาที่สวยงามให้แก่ผู้อยู่อาศัย

TEXT: KORRAKOT LORDKAM
PHOTO: SOFOGRAPHY

(For English, press here)

ในซอกซอยซับซ้อนของย่านที่อยู่อาศัยหนึ่งในแขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร บ้านสีขาวเรียบโล่งตั้งเด่นแตกต่างจากบรรดาบ้านหลังอื่นในละแวก แม้แต่ในที่ดินเดิมของบ้านหลังนี้เอง ก็เรียงรายไปด้วยกลุ่มบ้านเก่าหลายหลังของครอบครัวใหญ่ ซึ่งประกอบไปด้วยบ้านของสมาชิกหลายคนที่อยู่อาศัยในที่ดินผืนใหญ่ผืนนี้ด้วยกัน ด้วยความผูกพันของเจ้าของบ้านกับที่อยู่อาศัยเดิม ทำให้เขาเลือกลงหลักบ้านหลังใหม่ในที่ตั้งเก่าแทนการย้ายออก ในบริบทของที่ตั้งที่ท้าทายทั้งด้านขนาดที่ดินอันจำกัด รวมถึงด้านทัศนะวิสัยรอบบ้านที่ค่อนข้างเก่า ขาดการดูแลรักษาและภาพรวมดูแตกต่างกันเป็นอย่างมาก  อันยากจะให้ความรู้สึกสุนทรีย์ในการอยู่อาศัย

Tiny Tin House ถูกตั้งชื่อตามชื่อเล่นของผู้เป็นเจ้าของบ้าน และตามคอนเซ็ปต์การออกแบบที่สถาปนิก RAD studios เป็นผู้วางไว้ ปวัน ฤทธิพงศ์ สถาปนิกผู้ออกแบบ เปรียบเทียบสภาพที่ตั้งและบ้านหลังใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับกระป๋องบรรจุอาหาร ที่สำหรับเขาน่าสนใจทั้งในแง่รูปลักษณ์และความสามารถของการเป็นบรรจุภัณฑ์ ปวันกล่าวว่า

เรามองหาสิ่งต่างๆ รอบตัวว่า อะไรบ้างที่มันสามารถจุฟังก์ชันได้มากมายอยู่ในที่ที่อันเล็กนิดเดียว เราก็เลยมองไปถึงกระป๋องใส่อาหารต่างๆ ที่บางทีเราเปิดกระป๋องออกมาแล้วเราเทออกมา ของภายในมันดูเยอะมากกว่าที่ภายนอกเรามองเห็น เราคิดว่ามันน่าสนใจ กลายเป็นแรงบันดาลใจ และคิดว่ามันนำมาเล่นกับสถาปัตยกรรมได้

จากคอนเซ็ปต์นี้ ปวันกล่าวว่า ที่ดินขนาดราวเพียง 10 คูณ 13 เมตร เป็นความท้าทายแรกของการบรรจุพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ของครอบครัวใหม่ให้เพียงพอและต้องได้คุณภาพดีเทียบเท่าบ้านหลังใหญ่กระป๋องในที่นี้จึงได้เข้ามาเป็นคอนเซ็ปต์ที่ส่งผลต่อทั้งด้านรูปลักษณ์ภายนอกและต่อพื้นที่ใช้สอยภายใน โดยลักษณะของกระป๋องที่ปิดทึบเป็นลักษณะนำมาเป็นลักษณะเด่นของตัวสถาปัตยกรรม ที่สอดคล้องกับการตอบสนองต่อบริบทที่ไม่น่ามองได้ด้วย แต่ด้วยความเป็นที่อยู่อาศัย อาคารจึงจำเป็นต้องแบ่งรับแบ่งสู้ระหว่างการเปิดรับสภาพแวดล้อม และการปิดทึบบดบังสิ่งที่ไม่ต้องการ การเปิดรับและเชื่อมต่อกับภายนอกบ้านในบางด้านที่เหมาะสม และปิดบังตัวเองจากสิ่งแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์ในด้านที่เหลือ จึงเป็นความท้าทายหนึ่งด้านบริบทที่ส่งผลต่อการออกแบบโดยรวมของที่พักอาศัยแห่งนี้ ดังที่สถาปนิกอธิบายว่า

บริบทส่งผลกระทบเยอะมาก ทั้งขนาดที่ดินที่เล็กมาก แล้วก็สภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างไม่น่าดู แต่เราเอามาเป็นความท้าทายว่าเราจะสร้างอะไรดีๆ ขึ้นมาได้อย่างไร ผมใช้คำว่ามันบันดาลใจเรา ว่าทำอย่างไรให้ทำบ้านที่ปิดแบบนี้แล้วได้คุณภาพการอยู่อาศัยที่ดีที่สุด ให้เหมือนบ้านใหญ่ที่สามารถดีไซน์บนที่โล่ง หรือที่สภาพที่ตั้งที่ดีกว่านี้ได้

ผนังภายนอกห้องนั่งเล่น ออกแบบให้โค้งบังทิวทัศน์ภายนอกที่ไม่ค่อยน่ามองนัก

ในเบื้องต้น บ้านพักอาศัย 3 ชั้นขนาดราว 350 ตารางเมตร หลังนี้ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นบ้านกล่องสี่เหลี่ยมสีขาว เรียบโล่งโดยตลอดทุกทิศทาง และปราศจากองค์ประกอบตกแต่งหรือส่วนยื่นเกินใดๆ ความเหลี่ยมและโล่งเรียบที่ภายนอกนี้ ถูกลดทอนโดยแนวคิดการนำลักษณะของกระป๋องมาใช้ในบริเวณแรกสุดคือทางเข้าบ้านเพื่อสร้างความโดดเด่น โดยมุมบ้านด้านทางเข้าได้ถูกคว้านให้โค้งเว้า ลึกและซ้อนเข้าไปใต้ตัวบ้านชั้นบนที่ยังคงความเป็นกล่อง เกิดเป็นองค์ประกอบที่สร้างความโดดเด่นในแง่รูปลักษณ์ให้กับทางเข้าบ้าน และยังมีประโยชน์โดยได้สร้างระยะร่นให้กับประตูบ้าน เกิดระยะห่างให้ประตูไม่ตั้งชิดกับพื้นที่ภายนอกมากเกินไป

เมื่อเดินเข้าสู่ภายในตัวบ้าน จะพบโถงต้อนรับเล็กๆ เป็นส่วนตู้รองเท้า ต่อจากนั้นขึ้นมาจะเป็นโถงนั่งเล่นหลัก ซึ่งเป็นส่วนใช้สอยต่อมาที่แนวคิดเรื่องกระป๋องถูกนำมาประยุกต์ใช้อย่างเห็นได้ชัดที่สุด ดังจะเห็นได้จากลักษณะของสเปซที่ถูกออกแบบให้เป็นรูปแบบโถงวงกลม มีลักษณะเด่นคือการเป็นโถงฝ้าสูงแบบ double volume โดยมีบันไดเชื่อมต่อไปยังชั้น 2 ที่บริเวณกึ่งกลาง ลักษณะของโถงเช่นนี้ ปวันกล่าวว่าเป็นแนวคิดของการแทรกความโปร่งโล่งเข้าไปในที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โถงนั่งเล่นที่ประกบด้วย pantry ที่เจ้าของบ้านจะใช้อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่นี้ ยังมีช่องเปิดขนาดใหญ่ที่ถูกกำหนดไว้ในมุมหนึ่งเพื่อสร้างความปลอดโปร่งและเชื่อมต่อระหว่างภายในกับภายนอกตามแนวความคิดหลัก อันเป็นมุมที่ต่อเนื่องออกไปยังที่ว่างระหว่างบ้านข้างๆ ที่กว้างขวางพอ และไม่มีภาพกวนสายตาจนเกินไป เช่นเดียวกับในส่วน pantry ก็ได้รับการออกแบบให้มีช่องเปิดขนาดย่อมเป็นของตัวเองในตำแหน่งที่ไม่มีสิ่งใดรบกวนสายตาที่ภายนอกด้วย

โถงวงกลมมีฝ้าบางส่วนทะลุออกมาภายนอก เป็นลูกเล่นของการออกแบบห้องให้เป็น “วงกลมสมบูรณ์”

ห้องซักล้างออกแบบโดยใช้สี Turquoise เพิ่มความสดใสให้บ้านสีขาวในบางมุม

บนชั้นสองจะเป็นพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ประกอบไปด้วยห้องนอนสองห้อง และห้องทำงานหนึ่งห้องที่จัดวางชิดไปกับโถง double space ที่ต่อเนื่องมาจากข้างล่าง ห้องทำงานอันเป็นอีกส่วนพื้นที่ใช้สอยที่เจ้าของบ้านจะใช้เวลาภายในห้องนี้มาก จึงเป็นพื้นที่อีกส่วนที่สถาปนิกต้องการสอดแทรกความโปร่งโล่งให้มากที่สุด แนวคิด double space ถูกนำมาใช้อีกครั้ง ที่ท้ายที่สุดส่งผลให้ห้องที่มีลักษณะเป็นห้องแคบแต่ยาว ถูกกรุด้วยผนังกระจกสูงโปร่งด้านหนึ่งเพื่อรับทิวทัศน์และแสงธรรมชาติจากภายนอกได้เต็มที่เพื่อลดความคับแคบ และแน่นอนว่าตำแหน่งของช่องเปิดขนาดใหญ่ด้านนี้ก็จะสอดคล้องกับทัศนียภาพภายนอก อันเป็นด้านที่ทิวทัศน์ปลอดโปร่งกว่าด้านอื่นที่หันหน้าชนบ้านหลังข้างเคียง

ส่วนสุดท้าย ชั้น 3 เป็นชั้นที่อุทิศให้ห้องนอนมาสเตอร์ของเจ้าของบ้านผู้กำลังเริ่มสร้างครอบครัว โดยมีเฉพาะผนังของห้องอ่างอาบน้ำที่เอื้อให้กรุหน้าต่างบานใหญ่สร้างความพิเศษด้านทิวทัศน์ ส่วนที่เหลือบนชั้นนี้ ถูกออกแบบให้เป็นลานดาดฟ้ารูปวงกลม อันเป็นอีกหนึ่งกระป๋องที่ถูกบรรจุในลักษณะของพื้นที่ใช้สอยเพื่อการสันทนาการของครอบครัว ลานวงกลมนี้จึงนอกจากจะให้ประโยชน์ด้านหน้าที่ใช้สอยแล้ว รูปลักษณ์อันพิเศษก็ยังให้ความรู้สึกในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้านคอนเซ็ปต์ อันสอดคล้องต่อเนื่องไปทั่วทั้งบ้านหลังเล็กอีกด้วย

สำหรับการออกแบบภายใน สถาปนิกได้คงเอกลักษณ์ความเรียบโล่งไว้เป็นเอกลักษณ์สำคัญ มีบ้างบางองค์ประกอบ เช่น ช่องทางเดิน หรือฉากกั้นห้อง ที่ถูกออกแบบโดยเล่นกับเส้นโค้งหรือซุ้มโค้งแบบ Arch สร้างความรู้สึกสนุกสนานขึ้นในหลายจุด รวมถึงในหลายส่วนก็มีการซ่อนลูกเล่นทางกราฟิกดีไซน์หรือลูกเล่นทางวัสดุไว้เบื้องหลังรูปลักษณ์ภายนอกที่เรียบโล่ง แต่โดยรวม ความคมชัดของเส้นสายที่ชัดเจน เช่นเดียวกับรูปลักษณ์ภายนอกของตัวสถาปัตยกรรม ก็ยังเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของบ้านหลังนี้ อาจกล่าวได้ว่าลักษณะการออกแบบสถาปัตยกรรมโดยคำนึงถึงรูปทรง เส้นสาย และความสอดคล้องต่อเนื่องขององค์ประกอบทางสายตา นั้นเป็นเอกลักษณ์ที่แท้ของบ้านหลังนี้

อาคารที่ถูกออกแบบโดยให้คำนึงถึงการสอดคล้องกันขององค์ประกอบทางสายตาเป็นสำคัญ อาจเป็นแนวทางของสถาปัตยกรรมที่เดินเข้าใกล้ความเป็นภาพวาดหรือภาพศิลปะสองมิติมากขึ้น ที่ความงามหรือความเข้มข้นของชิ้นงานในหลายแง่เกิดจากความสอดคล้องกันขององค์ประกอบศิลป์ อย่างที่ปวันยกตัวอย่างถึงการออกแบบเส้นสายอันคดโค้งแต่สอดคล้องกันของบันไดบ้านในโถงกลาง รวมถึงผลลัพธ์ของปรากฏการณ์ของแสงและเงาอันแหลมคมที่เกิดขึ้นบนอาคารที่ภายนอก ที่เขาอธิบายว่าเราคิดค่อนข้างเป็นสองมิติมาก ในแต่ละส่วนเราดูสัดส่วนเป็นส่วนๆ ไป แล้วเอาแต่ละส่วนมาประกอบกันบ้านสีขาวเรียบโล่งอย่าง Tiny Tin House จึงเป็นตัวอย่างอันดีของบ้านที่แฝงการออกแบบที่คำถึงถึงผลกระทบทางสายตา มากพอๆ กับคุณภาพของสเปซ และคุณภาพการอยู่อาศัยของผู้อยู่ในภาพรวม

facebook.com/studios.rad
instagram.com/radstudios_official

BAAN MAK MUAN

บ้านจาก S Pace Studio ที่มีหัวใจหลักคือพื้นที่ Semi-outdoor ขนาดใหญ่ด้านหน้าที่เชื่อมต่อแลนด์สเคป สถาปัตยกรรม และพื้นที่ภายในเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อก่อให้เกิดความ ‘ม่วน’ ในพื้นที่จากกิจกรรมที่หลากหลายของผู้คน

Read More

427 HOUSE

บ้านสำหรับผู้ใช้งานที่รักงานศิลปะและของสะสมโดย Maincourse ที่เต็มไปด้วยพื้นที่คล้ายแกลเลอรี่เพื่อให้ของสะสมและงานศิลปะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวอาคาร

Read More

VIRADASTUDIO

TEXT COURTESY OF VIRADASTUDIO
PHOTO CREDIT AS NOTED

(For English, press here)

WHO
Viradastudio บริษัทออกแบบที่เน้นงานออกแบบตกแต่งภายใน

WHAT
ผู้ให้บริการ ด้านการตกแต่งภายใน ตั้งแต่บ้านพักอาศัย แรกเริ่มเราเน้นงานที่อยู่อาศัยเพราะอยากให้ความสุขของผู้คน เริ่มต้นที่บ้านของเขา แต่ต่อมาได้ขยายงานออกแบบด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ รีสอร์ต Retails Cafe ร้านอาหาร สำนักงาน โรงแรม

WHEN
เริ่มจัดตั้งบริษัทเมื่อ 2019

WHERE
ตอนนี้เราตั้งออฟฟิศอยู่ที่กรุงเทพฯ

WHY
เราเชื่อว่าเรามีส่วนช่วยทำให้ผู้คนมีความสุขจากพื้นที่ส่วนตัวไปถึงพื้นที่ส่วนรวม

BODYtune China Town | Photo: Ketsiree Wongwan

BODYtune China Town | Photo: Ketsiree Wongwan

คุณนิยามคำว่า “ความคิดสร้างสรรค์” ไว้อย่างไร
“ความคิดสร้างสรรค์” ในมุมมองของเราคือ การหาทางออก การสร้างความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้น

ขอสามคำให้กับหลักการในการทำงานแต่ละครั้งของคุณ
ความสุข | ความเข้าใจ | ความเป็นไปได้

Just-In-Case Home | Photo: Chalermkit Pokamas

คุณคิดว่าอะไรคือความสนุกที่สุดของการทำงานออกแบบภายใน
การแก้ปัญหา การแก้โจทย์ในแต่ละงาน เพื่อตอบความต้องการของแต่ละงานนั้นๆ

โปรเจ็คต์ใดที่คุณชอบมากที่สุด
ทุกงานที่เมื่อจบเราได้สร้างคุณค่าอะไรบางอย่าง และความสุขให้แก่เจ้าของงานและทีมงาน

คุณจะไปที่ไหนหรือทำอะไร หากคิดงานไม่ออก
ไปวิ่ง โดยเฉพาะการไปวิ่งในสวน

ถ้าคุณสามารถเชิญ ‘ครีเอทีฟ’ สักคนไปดื่มกาแฟด้วยกันได้ คุณจะเลือกใครและทำไม
ถ้าเป็นไปได้ คงเป็น Christian Liaigre เพราะชื่นชมในผลงานและสไตล์

Kanissu Ice cream Café | Photo: Natdachat Chatpawee

fb.com/viradastudio

STUDIO FINE ART

TEXT & PHOTO COURTESY OF STUDIO FINE ART

(For English, press here)

WHO
STUDIO FINE ART เป็นบริษัทออกแบบบริษัทเล็กๆ บริษัทหนึ่ง

WHAT
เราให้บริการงานออกแบบตกแต่งภายใน และกำลังเริ่มรับงานสถาปัตย์

Baan Vibhavadi

WHEN
บริษัทเราเปิดมาได้ 5 ปี

WHERE
เราอยู่กันที่ ประดิพัทธ์ 17 โครงการ 33 Space

คุณนิยามคำว่า “ความคิดสร้างสรรค์” ไว้อย่างไร
สำหรับเรา “ความคิดสร้างสรรค์ คือการคิดเพื่อแก้ปัญหา”

Baan Vibhavadi

อะไรคือแรงบันดาลใจและหลักการในการทำงานแต่ละครั้งของคุณ
แรงบันดาลใจตอนนี้ คือการเห็นงานทุกงานที่ส่งมอบลูกค้าแล้ว ลูกค้ามีความพึงพอใจ ทำให้อยากพัฒนางานต่อๆไปให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

ขอสามคำเพื่ออธิบายหลักการในการทำงานของคุณ
Do Less But Do Good

Prima House

โปรเจ็คต์ใดที่คุณชอบมากที่สุด
ถ้าพูดถึงความภูมิใจแล้ว ทุกๆ งานให้ความรู้สึกภูมิใจแตกต่างกันไปครับ บางงานเราเองก็ได้ความรู้ใหม่ๆ จากลูกค้า รวมถึงมิตรภาพดีๆ บางงานเราได้บทเรียนและความรู้เพิ่มเติมจากทีมช่าง ทำให้ในทุกๆ งานมีความประทับใจ และความภูมิใจแตกต่างกันไปครับ สุดท้ายแล้ว เมื่อลูกค้าถือกระเป๋าเดินเข้าบ้านด้วยรอยยิ้ม ทุกหลังคือความภูมิใจของผมที่สุดแล้ว

Prima House

คุณจะไปที่ไหนหรือทำอะไร หากคิดงานไม่ออก
นั่งดื่มกาแฟ หรือขับรถไปเรื่อยๆ

มีสตูดิโอ ดีไซเนอร์ ครีเอทีพไหนที่คุณชื่นชอบผลงานเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า
พี่ด้วง ดวงฤทธิ์ บุนนาค DUANGRIT BUNNAG ARCHITECT LIMITED (DBALP) ติดตามผลงานของพี่ด้วงมาตั้งแต่เริ่มทำงานออกแบบในปีแรกเลย เพราะชอบความเรียบง่ายแต่ดูดี เส้นสายและการใช้สีในงานออกแบบเรียบง่ายดูสะอาดตาดี อีกคนหนึ่งคือ พี่จูน Jun Sekino Junsekino Architect and Design งานพี่จูนให้แรงบันดาลใจ เรื่องการใช้วัสดุ และการนำเสนอ ด้วยความเรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ด้วยการสร้าง contrast ระหว่างวัสดุ ทำให้งานดูน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงการนำเสนอภาพ 3Dที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ดูแล้วเคลียร์เลยในภาพเดียวเลย

Prima House

fb.studiofineart

VERY TINY PALAZZO

บ้านหลังจิ๋วจาก Fala Atelier ที่ดูเรียบง่ายหากแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดสุดขี้เล่น ทั้งผนังตกแต่งส่วนหัวอาคารที่เหมือนเป็นการสวมมงกุฎให้กับบ้าน ก้อนสีขาวก้อนใหญ่ในบ้านที่ดูหนักแน่นแต่ลอยตัว

Read More

SEAM DESIGN & ARCHITECTS

TEXT & PHOTO COURTESY OF SEAM DESIGN & ARCHITECTS EXCEPT AS NOTED

(For English, press here)

WHO
Seam Design & Architects

WHAT
บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมและบริบท ทั้งภายนอกและภายใน Seam หรือที่แปลว่า ‘รอยต่อ’ นี้ สำหรับเราเชื่อว่าไม่ใช่เพียงรอยต่อของสิ่งที่จำต้องได้ในงานสถาปัตยกรรม เช่น วัสดุ หรือ พื้นที่อย่างเดียว แต่เชื่อว่ายังหมายถึงรอยต่อของสิ่งที่จับต้องไม่ได้อื่นๆ ที่สำคัญต่องานสถาปัตยกรรมด้วย

WHEN
เริ่มทำงานสถาปนิกมาตั้งแต่ปี 2014 จนปี 2020 ที่ก่อตั้งบริษัทด้วยชื่อ Seam อย่างเป็นทางการ

WHERE
กรุงเทพฯ ประเทศไทย

WHY
เพราะเชื่อว่าสถาปัตยกรรม เป็นสิ่งที่ออกแบบโดยมนุษย์ สร้างมาเพื่อมนุษย์ และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ด้วยกัน

คุณนิยามคำว่า “ความคิดสร้างสรรค์” ไว้อย่างไร
ความคิดสร้างสรรค์ คือจุดสูงสุดและการตกผลึกจากกระบวนการของความรู้ การเป็นจุดเริ่มต้นของความใหม่บางอย่าง และความเป็นต้นแบบ

อะไรคือแรงบันดาลใจและหลักการในการทำงานแต่ละครั้งของคุณ
อาจารย์ที่เคารพสมัยเรียนท่านหนึ่งเคยกล่าวว่า สถาปัตยกรรม เป็นมากกว่าแค่งานที่เห็นเป็นรูปธรรม แต่มีมิติอื่นที่เป็นนามธรรมร่วมอยู่ด้วยเสมอ และอาชีพสถาปนิกเป็นวิชาชีพที่ได้สิทธิที่ในการเริ่มต้นสร้างสิ่งดังกล่าวนี้ ซึ่งสำหรับผมคิดว่า เป็นแรงบันดาลใจอย่างมากที่ได้รับเกียรตินั้น คือ เกียรติของการเป็นผู้สร้าง

ขอสามคำเพื่ออธิบายหลักการในการทำงานของคุณ
คน I ธรรมชาติ I สิ่งที่อยู่ตรงกลาง

โปรเจ็คต์ใดที่คุณชอบมากที่สุด
ภูมิใจทุกงาน แต่อาจจะเป็นในจุดต่างๆ ที่ไม่เหมือนกัน ด้วยประเด็นที่น่าสนใจแตกต่างกัน

คุณจะไปที่ไหนหรือทำอะไร หากคิดงานไม่ออก
เปิดหนังสือที่สะสมไว้ ตีเทนนิส ท่องเที่ยว พูดคุยกับผู้คน เพราะบางครั้ง การที่ได้ถอยห่างจากงานบ้าง อาจจะช่วยทำให้เห็น ภาพกว้างหรือมุมของงานที่กำลังทำอยู่ด้วยหัวสมองที่ปลอดโปร่งมากขึ้น

มีสตูดิโอ ดีไซเนอร์ ครีเอทีพไหนที่คุณชื่นชอบผลงานเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า
Louis Kahn และ Kerry Hill เป็นสองท่านที่มีอิทธิพลทางความคิด และงานออกแบบสถาปัตยกรรมของเราอย่างมาก

African School competition 2019 Isometric (Competition Project)

สำหรับคำถามข้อสุดท้าย เราเปิดพื้นที่ให้คุณได้แนะนำตัวกับคนที่อยากรู้จักคุณมากขึ้น
พวกเราเป็นกลุ่มสถาปนิกขนาดย่อม ที่พยายามสร้างงานสถาปัตยกรรมที่ตอบรับความต้องการของผู้คน จากความถนัด ความสามารถและประสบการณ์ มาปรับใช้ให้ได้เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเชื่ออย่างยิ่งว่า สถาปัตยกรรม จะเป็นรอยต่อ เชื่อมประสาน และสร้าง คุณค่าบางอย่างสำหรับคนไม่มากก็น้อย

fb.com/seamdsn

HOUSE AND RESTAURANT

โปรเจ็คต์บ้านใต้ดินล้ำจินตนาการจาก Junya Ishigami + Associates ที่ควบรวมสถาปัตยกรรมเข้ากับธรรมชาติด้วยวิธีที่ที่ไม่เหมือนใคร และชวนให้เราสงสัยว่า ‘อาคารนี้สร้างอย่างไร’

Read More

LABRI HOUSE

บ้านของผู้อยู่อาศัยวัยเกษียนขนาดย่อมโดย Nguyen Khai Architects & Associates ที่เต็มไปด้วยร่มไม้นานาพันธุ์และเปิดกว้างให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ

Read More

BINH DUONG HOUSE

บ้านที่เปลี่ยนให้ต้นไม้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเพื่อตอบคำถามว่า ‘สถาปัตยกรรมจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติในบริบทเดิมได้อย่างไร’

Read More