หมวดหมู่: THE SCOPE
THE AMENITIES | SCOPE LANGSUAN
นอกเหนือจากการออกแบบที่พิถีพิถัน SCOPE Langsuan ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการต่างๆ ที่ก่อให้เกิดสุนทรียภาพทั้งยังตอบโจทย์การใช้งานจริงเพื่อสร้างประสบการณ์ของการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบในทุกแง่มุมของชีวิตไปอีกขั้น
TEXT: JINTAWACH TASANAVITES
PHOTO COURTESY OF SCOPE LANGSUAN
(For English, press here)
SCOPE Langsuan คือจุดที่คุณภาพ หลักการ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ความสะดวกสบาย และประสบการณ์ทางสุนทรียะมาบรรจบกันเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกบ้านทั้งทางด้านการใช้งานและความรู้สึก นอกเหนือจากทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองที่ช่วยประหยัดเวลาได้มหาศาลและช่วยให้ลูกบ้านหลุดพ้นจากความวุ่นวายของเมือง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีให้ใน SCOPE Langsuan ก็ยิ่งยกระดับประสบการณ์ของการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบในทุกแง่มุมของชีวิตไปอีกขั้น สิ่งนี้สัมฤทธิ์ผลได้ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการของโครงการที่มอบให้ลูกบ้านทุกคน โดยมี Thomas-Juul Hansen เป็นผู้วางผังและออกแบบภายในของพื้นที่ส่วนกลางทั้งสี่ชั้นอย่างพิถีพิถัน ในโครงการมีพื้นที่ที่นอกเหนือไปจากที่พักอาศัยรวมกว่า 12,500 ตารางเมตร ซึ่ง 2,500 ตารางเมตรของพื้นที่ส่วนกลางจะมอบประสบการณ์ด้านสุนทรียะที่ปรับแต่งให้เข้ากันกับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านแต่ละคนที่อาจให้คุณค่าทั้งการใช้ประโยชน์ได้จริงและความสะดวกสบาย
พื้นที่ชั้นสามถูกแบ่งพื้นที่ให้มีโปรแกรมการใช้งานที่หลากหลาย เริ่มจากห้องเก็บของส่วนตัวที่มอบพื้นที่ขนาดต่างๆ ตั้งแต่ S M และ L สำหรับเก็บข้าวของที่ลูกบ้านอาจไม่ได้ใช้เป็นประจำทุกวัน รวมไปถึงตู้แช่ไวน์ในอุณหภูมิต่ำกว่า 0ºC ในแต่ละห้องของลูกบ้าน และมีห้องเก็บไวน์ซ่อนอยู่ในชั้นนี้เพื่อเก็บคอลเลคชั่นไวน์จำนวนมาก นอกเหนือไปจากพื้นที่เก็บของ ชั้นนี้ยังเป็นพื้นที่ของห้องอ่านหนังสือ และห้องประชุมสำหรับทุกการทำงาน รวมไปถึงเลานจ์และบาร์เครื่องดื่มที่วางตัวทอดยาวไปทางซอยหลังสวนเพื่อรับบรรยากาศสบายๆ และผ่อนคลาย อีกหนึ่งโปรแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่จัดไว้บนชั้นนี้คือโรงภาพยนตร์ส่วนตัวขนาด 25 ที่นั่ง และห้องดนตรีเก็บเสียงที่มีขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับวงดนตรีขนาดมาตรฐานและเครื่องดนตรีต่างๆ สำหรับผู้ที่หลงใหลในเสียงเพลง
ขยับขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง โปรแกรมที่บรรจุบนชั้นสี่จะประกอบด้วยเรื่องสุขภาพเป็นหลัก สระว่ายน้ำแบบควบคุมอุณหภูมิความยาว 30 เมตร ที่เปิดออกสู่ภายนอกบริเวณเปลือกอาคารติดกับสระว่ายน้ำเด็ก เมื่อก้าวเข้าสู่พื้นที่ภายใน ลูกบ้านสามารถรื่นรมย์ไปกับ Thermal baths ที่ใช้ Italian marble พร้อมด้วยกระจกความสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดมุมมองสู่ทิศตะวันออก หรือจะเป็นซาวนาแบบสวีเดนที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ลูกบ้านยังสามารถนัดนักบำบัดส่วนตัวและใช้ wellness suite เพื่อนวดและบำบัดร่างกายได้โดยในชั้นเดียวกันนี้ ฟิตเนสขนาดกว้างขวางครอบคลุมพื้นที่ฝั่งทิศใต้ของอาคารเกือบทั้งหมด โดยแบ่งเป็นสตูดิโอโยคะ ห้องวิ่งส่วนตัว เครื่องปั่นจักรยานออกกำลังกาย และพื้นที่เวทเทรนนิ่งพร้อมอุปกรณ์ครบครัน
สำหรับลูกบ้านที่จำเป็นต้องจัดงานและสร้างความประทับใจให้กลุ่มคนขนาดใหญ่ ชั้น 34 นั้นสามารถใช้รับรองแขกเหรื่อจำนวนมากได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยพื้นที่ชานด้านนอก ครัว ห้องรับประทานอาหารส่วนตัว และซิการ์เลานจ์ที่รวมเข้าไว้ด้วยกันบนชั้นดาดฟ้า
ในส่วนของการบริการที่เตรียมไว้เพื่อให้ลูกบ้านทุกคนมั่นใจว่าจะได้รับการบริการที่ต้องการในทุกช่วงเวลาแบบไม่ขาดตอน ผู้พัฒนาโครงการได้สร้างความเข้าใจอย่างชัดเจนว่าจำนวนยูนิตถูกจำกัดให้อยู่ใน ‘ปริมาณที่ดี’ ผ่านการเทียบพื้นที่ต่อยูนิตต่อพื้นที่ของส่วนอำนวยความสะดวกและทรัพยากรบุคคล ซึ่งทำให้มีจำนวนยูนิตแค่เพียง 133 ห้องเท่านั้น รวมทั้งยังมีพื้นที่จอดรถมากกว่า 175 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 231 ช่องจอด และบริการรับจอดรถที่จะช่วยประหยัดเวลาตั้งแต่ลูกบ้านขับเข้าสู่จุด drop-off ของคอนโดมิเนียม
ระบบจอดรถอัตโนมัติที่ได้รับการติดตั้งภายในโครงการเพื่อความยืดหยุ่นและง่ายต่อการใช้งาน โดยมีขนาดใหญ่มากเพียงพอสำหรับรถตู้ทั้งคัน โครงการยังมีจุดจอดรถ EV แบบ Fast charge เพื่อชาร์จไฟให้กับรถไฟฟ้าและรถแบบไฮบริด สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่มีปริมาณการใช้รถพลังงานสะอาดและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น คอนโดมิเนียมยังมอบบริการทำความสะอาดสามครั้งทุกสัปดาห์ และบริการ porter service ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการ พัสดุของลูกบ้านแต่ละชิ้นจะได้รับการดูแลและจัดการโดยเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ซึ่งจะทำหน้าที่เสมือนผู้ช่วยส่วนตัวหากลูกบ้านมีข้อสงสัยหรือเหตุฉุกเฉิน อีกองค์ประกอบหนึ่งของการออกแบบวางผังที่น่ายกย่องคือการคิดเพื่อผู้ใช้งานทุกคนที่อยู่ใน SCOPE Langsuan เป็นอย่างดี ซึ่งรวมไปถึงคนที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งอย่างแม่บ้านและคนขับรถของลูกบ้านด้วย โดยส่วนมากแล้วพนักงานเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในรถหรือต้องซ่อนไว้ในห้องเล็กๆ ใต้บันไดหนีไฟ
“การยกระดับคุณภาพชีวิตและความพึงพอใจให้กับทุกคนที่ใช้งานอาคารแห่งนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา ไม่ใช่เพียงลูกบ้าน แต่ยังรวมไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานในทุกยูนิตและลูกจ้างของเราด้วย” ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์กล่าว เพราะเหตุนี้จึงมีโรงอาหารของพนักงานและเลานจ์ให้กับคนขับรถใช้พักผ่อนระหว่างรอเข้าทำงานในส่วนหลังบ้านของพื้นที่ชั้นหนึ่งด้วย
THE INTERIOR | SCOPE LANGSUAN
สำรวจการออกแบบภายในของโครงการ SCOPE Langsuan ที่ออกแบบโดย Thomas Juul-Hansen อันเต็มไปด้วยความความหรูหรา ประณีต และความใส่ใจในรายละเอียดในทุกจุดแม้ว่าจะเล็กแค่ไหนก็ตาม
TEXT: JINTAWACH TASANAVITES
PHOTO COURTESY OF SCOPE LANGSUAN EXCEPT AS NOTED
(For English, press here)
SCOPE หลังสวน ได้รวบรวมและคัดสรรนักออกแบบที่มีชื่อเสียงในระดับโลกตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ เพื่อสะท้อนความตั้งใจที่จะสร้างมาตรฐานระดับสากลให้กับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในโครงการ ทีมงานได้เลือก Thomas Juul-Hansen สถาปนิกชาวเดนมาร์กผู้อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก ให้รับหน้าที่ผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมภายในของโครงการนี้ และถึงแม้ว่านี่จะเป็นโปรเจ็คต์แรกในเอเชียของเขา แต่ Thomas Juul-Hansen มีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับโลกของงานออกแบบสถาปัตยกรรมภายในอันหรูหราในหลายโครงการ และอยู่เบื้องหลังการออกแบบโครงการที่พักอาศัย โรงแรม งาน retail และงานในเชิงพาณิชย์ในระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นที่กล่าวถึงอย่างแพร่หลายในนิวยอร์กและลอนดอน หนึ่งในตัวอย่างคือโครงการสูง 75 ชั้น One57 ซึ่งนับเป็นที่พักอาศัยที่มีราคาสูงที่สุดในนิวยอร์ก
งานของ Thomas Juul-Hansen มีรายละเอียดที่อยู่เหนือกาลเวลา แต่ในขณะเดียวกันก็มีความ sensitive หรือความไวต่อการตอบสนอง ในมิติของการออกแบบที่ได้รับอิทธิพลจากบริบทของพื้นที่ การเลือกและจัดการวัสดุที่มีความละเอียดลออ และการออกแบบในรายละเอียดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเจาะจงสำหรับโครงการหรือสถานที่นั้นๆ “ผมเชื่อว่าความหรูหราเป็นภาษาสากล ซึ่งเกิดจากการหลอมรวมกันของคุณภาพของแสง ที่ว่าง การใช้งาน และวัสดุ” Thomas ตอบคำถาม art4d ด้วยความมั่นใจเมื่อถูกถามว่าสำหรับเขาแล้วความหรูหรามีคำจำกัดความว่าอย่างไร “ในภาพรวม คำจำกัดความของความหรูหราในกรุงเทพฯ จึงไม่ต่างจากในนิวยอร์กหรือลอนดอน”
การวางผังในงานออกแบบสถาปัตยกรรมภายในของ SCOPE หลังสวน ได้รับการจัดลำดับการเข้าถึงบนพื้นฐานของการเดินทางของผู้อยู่อาศัย เริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้าที่ล็อบบี้ชั้น 1 ที่โอ่โถง โดดเด่นด้วยแชนเดอเลียที่ทำจากหินโมราสีชมพู (Pink onyx) ซึ่ง Thomas เป็นผู้ออกแบบขึ้นใหม่ให้เข้ากับปริมาตรพื้นที่และการตกแต่งโดยรวมของทั้งส่วนล็อบบี้ ตัดกับเคานเตอร์ concierge หินอ่อนสีเขียวในรูปทรงที่เสมือนงานประติมากรรม ในเวลาเดียวกัน ความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ที่ได้รับความสำคัญในการออกแบบ โดยทางสัญจรของผู้อยู่อาศัยและของพนักงานได้รับการออกแบบให้แยกส่วนกัน เพื่อให้พื้นที่ส่วนกลางนั้นเป็นพื้นที่ที่เงียบสงบ ไม่แออัด รู้สึกไม่รีบร้อน และรู้สึกเป็นส่วนตัว เมื่อผ่านส่วนล็อบบี้เข้ามาภายใน ลิฟต์ส่วนตัวจะพาผู้อยู่อาศัยเข้าสู่ห้องพักของตัวเองโดยตรง โดยแต่ละห้องมีขนาดที่ผ่านการออกแบบมาจนมั่นใจว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยอย่างสะดวกสบาย ตั้งแต่ 83-436 ตร.ม. และความสูงของพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 3.5 และ 4 เมตร มิติของขนาดและความสูงที่ได้รับการออกแบบอย่างละเอียดนี้สร้างความรู้สึกของการอยู่อาศัยในพื้นที่ที่โอ่โถง ให้ความรู้สึกของการอยู่อาศัยภายในบ้านเดี่ยว ที่อยู่บนวิวและความหรูหราของการอยู่อาศัยใจกลางเมือง
ในมิติที่ลึกลงไปอย่างเรื่องความรู้สึกในสเปซ Thomas อธิบายเพิ่มเติมถึงแรงบันดาลใจที่เขาได้รับจากการมาเยี่ยมเยือนมหานครแห่งนี้ว่า “สำหรับผมแล้ว กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งแสงสว่างและความปลอดโปร่ง เป็นเมืองที่ให้ความรู้สึกของสภาพอากาศแบบร้อนชื้นที่เกิดจากความสว่างจากแสงแดดและสภาพอากาศที่โปร่งเบา ผมจึงเลือกใช้วัสดุและสีสันที่ให้ความรู้สึกสว่างและโปร่งสบายเพื่อสะท้อนถึงคุณลักษณะเฉพาะตัวเหล่านี้ของกรุงเทพฯ” ความรู้สึกเหล่านี้สามารถสัมผัสได้ทันทีเมื่อเข้ามาถึงภายในโครงการ โดยเฉพาะภายในห้องพักที่ไม่เพียงมีพื้นที่กว้างขวาง แต่ยังรวมไปถึงบานหน้าต่างที่ความสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานที่ช่วยเติมเต็มพื้นที่ด้วยแสงธรรมชาติ ประกอบกับการเลือกใช้วัสดุและชุดสีในโทนสว่างที่สร้างความปลอดโปร่งและชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ภายใน ในความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนและเรียบร้อยสะอาดตา
ในส่วนของงานเฟอร์นิเจอร์ SCOPE เลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่หลอมรวมฟังก์ชันการใช้งานชั้นเลิศเข้ากับรูปลักษณ์ที่สวยงามอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะในส่วนครัวที่เลือกใช้แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจากเยอรมนีอย่าง Gaggenau และ Bulthaup ที่มีรายละเอียดของความคิดอยู่ในทุกจุดของการออกแบบ ยกตัวอย่างเช่นส่วนท้อปเคาน์เตอร์ที่ทำจากหินทัชมาฮาลควอตไซต์สีขาวนวลและสีงาช้าง แผ่นหินเนื้อเดียวกันทั้งผืนนี้ช่วยมอบทั้งความสวยงาม พร้อมทั้งปกป้องการดูดซับน้ำทุกรูปแบบ ผู้อยู่อาศัยจึงสามารถใช้งานได้อย่างไร้กังวลว่าสีสันจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาจากการเปรอะเปื้อนและการใช้งานหนัก บริเวณโถงทางเข้า ตั้งแต่ทางเข้าห้องไปจนถึงห้องนั่งเล่นนั้นได้รับการออกแบบให้มีแนวตู้และชั้นสำหรับใช้เป็นที่เก็บของได้อย่างเหลือเฟือ พร้อมทั้งตู้รองเท้าที่ได้รับการออกแบบให้สามารถเก็บรองเท้าได้กว่าร้อยคู่ขึ้นไป รวมไปถึงเป็นที่ตั้งที่เรียบร้อยของเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ อย่างเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า ในส่วน walk-in closet เลือกใช้แบรนด์ LEMA จากอิตาลี โครงตู้เสื้อผ้ารูปตัว U นี้ตั้งอยู่ถัดจากห้องน้ำที่มีขนาดกว้างขวางกรุด้วยหินอ่อนสีขาวล้วน รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์อีกหลายชิ้นที่ Thomas เป็นผู้ออกแบบขึ้นใหม่ด้วยตัวเอง บนความใส่ใจในรายละเอียดสูงสุด “ผมได้เรียนรู้ว่าประสบการณ์การอยู่อาศัยทั้งหมดจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยการผลิตเฟอร์นิเจอร์แบบสั่งทำพิเศษให้เข้ากันกับสภาพแวดล้อมภายในของพื้นที่” เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นภายในห้อง อย่างเช่นโต๊ะทำงาน ชั้นวางโทรทัศน์ และงาน built-in ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นสำหรับโครงการนี้โดย Thomas โดยเฉพาะ
ระดับของความประณีต และความใส่ใจในรายละเอียดในทุกจุดแม้ว่าจะเล็กแค่ไหนก็ตามโดยผู้ออกแบบระดับสากลนี้ ช่วยยืนยันคำจำกัดความของความหรูหราที่ SCOPE Langsuan ให้มาตรฐานเอาไว้ได้อย่างไม่มีข้อสงสัย
THE ARCHITECTURE | SCOPE LANGSUAN
สัมผัสความหรูหราที่เป็นแบบเฉพาะตัวสำหรับกรุงเทพมหานครในงานสถาปัตยกรรมของโครงการ The SCOPE Langsuan ที่ออกแบบโดย Kohn Pederson Fox Associates (KPF) อันเต็มไปด้วยท่าทีสุภาพและนอบน้อมในแบบไทยๆ
TEXT: JINTAWACH TASANAVITES
PHOTO COURTESY OF SCOPE LANGSUAN EXCEPT AS NOTED
(For English, press here)
Kohn Pederson Fox Associates (KPF) คือบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงมายาวนานที่สุดแห่งหนึ่งในระดับนานาชาติ และมักจะเป็นชื่อแรกๆ ที่ปรากฏขึ้นเมื่อกลุ่มลูกค้านึกถึงงานอาคารสูงที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรม KPF เป็นที่รู้จักจากการออกแบบที่ล้ำสมัยด้วยรูปทรงที่โดดเด่นเฉพาะตัว สร้างแลนด์มาร์คให้กับมหานครมากกว่า 35 แห่งทั่วโลก และถึงแม้ว่าผลงานของบริษัทจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปตามสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น สิ่งที่ทุกโครงการมีร่วมกันอยู่เสมอก็คือฟังก์ชันการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และการวางผังที่ยอดเยี่ยมไปพร้อมๆ กับการมีรูปลักษณ์อันสง่างาม ดังที่ปรากฏในงานสถาปัตยกรรมของ SCOPE Langsuan ซึ่ง KPF ได้เข้ามามีส่วนร่วมในฐานะที่ปรึกษาด้านการออกแบบสถาปัตยกรรม
งานสถาปัตยกรรมของ SCOPE Langsuan นอกจากจะสะท้อนถึงมาตรฐานในการออกแบบในระดับสากลของ KPF แล้ว ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการออกแบบที่เน้นความสุภาพและนุ่มนวล เป็นความเรียบง่ายที่อยู่บนพื้นฐานของความพอดี “ความหรูหราฟุ้งเฟ้อแบบโจ่งแจ้งนั้นไม่ยากเลยที่จะออกแบบ แต่มันอาจเป็นการทำลายความตั้งใจทั้งหมดของโครงการแห่งนี้ ที่ต้องการนำเสนอความหรูหราในรูปแบบที่เงียบสงบ เรียบง่าย ไม่วิบวับแวววาว ไม่เรียกร้องความสนใจจนเกินงาม เราพยายามออกแบบให้ทุกองค์ประกอบคงความสงบและเรียบง่ายเอาไว้ให้มากที่สุด” Trent Tesch หัวหน้าผู้ออกแบบและผู้รับผิดชอบโครงการได้กล่าวกับ art4d แนวทางการออกแบบงานสถาปัตยกรรมและการจัดองค์ประกอบของโครงการนี้จึงอยู่บนพื้นฐานของความหรูหราที่เรียบง่าย ที่มีองค์ประกอบที่โดดเด่นซ่อนอยู่ด้วยการออกแบบพื้นผิวของอาคารที่ใช้ผืนกระจกที่ค่อยๆ ลาดเอียงอย่างนุ่มนวล สอดประสานกับจังหวะของกรอบหน้าต่างอะลูมิเนียม สร้างเป็นระนาบของริ้วคลื่นที่มีชีวิตชีวาและเป็นธรรมชาติในเวลาเดียวกัน บนพื้นฐานของโครงสร้างที่เรียบง่ายและสง่างาม “เปลือกอาคารที่ค่อยๆ พับไปมานั้นให้ความสำคัญมากในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสัดส่วนของอาคารสูงให้อยู่ในสเกลมนุษย์ สร้างความรู้สึกเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับสเปซของอาคารได้มากขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับพื้นผิวอาคารที่เรียบสนิทที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับอาคารสำนักงาน” Trent กล่าวเพิ่มเติม
ในภาพรวม ตัวอาคารได้รับการออกแบบให้แบ่งเป็นสามระดับชัดเจนบนความสูงที่ค่อยๆ ไล่เรียงขึ้นไปจากระดับถนนหน้าโครงการ สะท้อนความสวยงามของจังหวะและสัดส่วนของโครงสร้าง ในส่วนของห้องพักนั้นโดดเด่นด้วยแนวริ้วผนังกระจกเป็นองค์ประกอบสำคัญดังที่กล่าวข้างต้น และในส่วนของแกนกลางอาคารที่เป็นพื้นที่ทางเดินและส่วน Service ต่างๆ นั้นใช้ผนังกระจกพิมพ์ลายเน้นให้เห็นความแตกต่างของฟังก์ชัน และทำหน้าที่ทอนสเกลให้อาคารดูเป็นอาคารสูงที่สง่างาม กระจกสุญญากาศเหล่านี้มีคุณภาพพิเศษ ด้วยความหนาถึง 8 มิลลิเมตร และเป็นกระจก Low-E ซึ่งมีคุณสมบัติถ่ายเทความร้อนต่ำ ทำหน้าที่หลักในการปกป้องผู้อยู่อาศัยจากความร้อนและสภาพอากาศที่สุดโต่งของกรุงเทพฯ และในขณะเดียวกันก็มีความใสและคุณสมบัติของการสะท้อนเฉพาะตัวที่เอื้อให้ผู้อยู่อาศัยชมทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างชัดเจน และมีความเป็นส่วนตัวจากสายตาของผู้คนภายนอกในยามค่ำคืน
กลยุทธ์ในการออกแบบงานสถาปัตยกรรมของ SCOPE Langsuan ของ KPF นั้นสร้างอัตลักษณ์ที่โดดเด่นและสง่างาม ที่เกิดจากวิธีการที่เรียบง่ายอย่างการแบ่งสัดส่วนของอาคารออกเป็นสามส่วนที่สะท้อนถึงการใช้งานพื้นที่ภายใน และเทคนิคการเลือกใช้วัสดุและการออกแบบระบบผนังกระจกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลักการที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมานี้รังสรรค์เส้นสายที่งดงามให้กับตัวอาคาร ทั้งเมื่อมองจากภายในและเมื่อมองกลับมาจากภายนอก และที่สำคัญที่สุดคือการจัดการกับเรื่องสเกลของอาคารผ่านเทคนิคการใช้วัสดุนั้นได้สร้างท่าทีที่สุภาพนอบน้อมและเชื้อเชิญแบบไทยๆ ที่สอดประสานไปกับบริบททางวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นไปด้วยในเวลาเดียวกัน “ผมนึกภาพอาคารนี้ไปตั้งอยู่ที่อื่นไม่ออกเลย ผมรู้สึกว่ามันคือความหรูหราที่เป็นแบบเฉพาะตัวสำหรับกรุงเทพมหานครเท่านั้น” Trent กล่าวปิดท้าย
THE EXPERIENCE OF LUXURY | SCOPE LANGSUAN
The SCOPE Langsuan นำเสนอมิติใหม่ของความหรูหรา ผ่านการให้คุณค่ากับคุณภาพของสเปซพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการระดับโลก เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ‘เวลา’ ในทุกนาทีของผู้อาศัยจะถูกใช้ไปอย่างมีความหมาย
TEXT: JINTAWACH TASANAVITES
PHOTO COURTESY OF SCOPE LANGSUAN
(For English, press here)
มูลค่าและคุณค่าของโครงการอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะในระดับ segment บนนั้นล้วนถูกพิจารณาผ่านปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐานอย่างเรื่องทำเลที่ตั้ง การเลือกใช้วัสดุ เอกลักษณ์ของโครงการ หรือชื่อเสียงของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่วิถีชีวิตของผู้คนมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เอื้อให้วิถีชีวิตของผู้คนมีความยืดหยุ่นขึ้น และหยิบยื่นโอกาสให้ผู้คนใช้เวลาอยู่ในที่พักอาศัยมากกว่าที่เคยเป็นมา ส่งผลให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับบ้านมีความหมายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และความเป็นมากกว่าพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยในปัจจุบันนั้น เรียกร้องให้การออกแบบโครงการอสังหาริมทรัพย์ในยุคปัจจุบันต้องปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะในระดับบนนั้นเผชิญกับความท้าทายของการออกจากผลักดันขอบเขตในการออกแบบเดิมๆ ออกไปอยู่เสมอ โดยเฉพาะกับการค้นหานิยามหรือนวัตกรรมที่โครงการใหม่ๆ ควรจะมอบให้กับกลุ่มลูกค้า ในปัจจุบันที่การเลือกใช้วัสดุหรือข้าวของราคาแพงเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการตลาดของโครงการนั้นกำลังถูกตั้งคำถามอย่างเข้มข้น มิติของความหรูหราได้ก้าวห่างออกจากมิติของมูลค่าที่แสดงออกผ่านทางกายภาพของวัตถุ และเคลื่อนที่เข้าสู่คุณสมบัติอันเป็นนามธรรมหรือมิติในเชิงคุณค่าอย่างเช่นเรื่องเวลา คุณภาพของสเปซ และประสบการณ์ที่มีความหมายอย่างแท้จริงกับผู้อยู่อาศัย อาจกล่าวได้ว่าการสร้างสรรค์ความหรูหราในนิยามใหม่นี้คือการสร้างความสมดุลระหว่างดินแดนของมูลค่าและคุณค่า และการนำเสนอประสบการณ์ของพื้นที่อยู่อาศัยในทำเลที่มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ และในขณะเดียวกันก็อาจจะหาไม่ได้อีกแล้วอย่างหลังสวน การออกแบบและการเลือกใช้วัสดุที่มีไม่มีคำถามในเรื่องของคุณภาพในระดับสากล เพื่อสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่จะคงมูลค่าอยู่เหนือกาลเวลา ของโครงการ Scope หลังสวน คือความพยายามในการสร้างความสมดุลนี้ให้เกิดขึ้นในทุกแง่มุม
“เวลาคือความหรูหราที่แท้จริง” Forth Bagley หัวหน้าทีมจาก KPF (Kohn Pedersen Fox) ปรึกษาด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมให้กับโครงการ Scope หลังสวน กล่าวอย่างไม่ลังเล “เมื่อเราพิจารณาถึงมิติของเวลาที่สร้างขึ้นจากงานสถาปัตยกรรม มันหมายถึงการออกแบบพื้นที่ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถเติมพลังกายพลังใจ ได้ใช้ความคิด เป็นพื้นที่ที่เอื้อให้เกิดเวลาอันมีค่า นี่เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญตั้งแต่เริ่มพัฒนาผังและกำหนดโปรแกรมการใช้งานต่างๆของอาคารกับเจ้าของโครงการ”
ในขณะเดียวกัน ทีมงาน KPF ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษกับการสร้างลำดับขั้นของการเข้าถึง ซึ่งส่งผลกับการรับรู้และการใช้งานในพื้นที่ที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกพักผ่อนและเป็นส่วนตัวในทันทีที่ผู้อยู่อาศัยก้าวเท้าเข้าไปภายในโครงการ องค์ประกอบทางการออกแบบในภาพรวม ที่จะได้รับการกล่าวถึงในเชิงลึกต่อไปในซีรีส์งานเขียนนี้ ทำงานสอดประสานกันในการสร้างความรู้สึกสงบสุข เพื่อสร้างพื้นที่ที่นำมาซึ่งความสงบเป็นส่วนตัว และให้ผู้พักอาศัยได้ใช้เวลาอย่างผ่อนคลาย ปราศจากสิ่งรบกวนจากภายนอกอย่างแท้จริง ‘เจ้าของร่วมของโครงการ Scope หลังสวน คือกลุ่ม International Premium เราเชื่อว่าพวกเขาคือกลุ่มคนที่เลือกพักในโรงแรมที่ดีที่สุดเมื่อเดินทางไปทั่วทุกมุมโลก” Forth บอกกับ art4d “ความคาดหวังต่างๆที่พวกเขามีภายหลังจากการได้เข้าไปสัมผัสพื้นที่และประสบการณ์เหล่านี้ด้วยตนเอง จึงเพิ่มมากขึ้นเมื่อพวกเขาเลือกบ้านของตัวเอง ประสบการณ์เหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่พวกเขาคาดหวังว่าจะได้รับจากพื้นที่อยู่อาศัยของตัวเองเช่นเดียวกัน”
ในทำนองเดียวกัน สิ่งที่ได้รับความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบของโครงการนี้ก็คือการให้บริการเสริมต่างๆ ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องการดูแลที่พักอาศัยในแต่ละวัน เพื่อช่วยประหยัดเวลาอันมีค่า ซึ่งมีผลต่อสมดุลที่ดีในการใช้ชีวิต และเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ‘เวลา’ ทุกนาทีถูกใช้ไปอย่างมีความหมาย บนพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตรของโครงการได้รับการออกแบบให้มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการระดับโลกที่สร้างความมั่นใจว่าประสบการณ์การอยู่อาศัยของเจ้าของโครงการนั้นจะมีความสะดวกสบายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นบริการจอดรถ การดูแลสัมภาระตลอด 24 ชั่วโมง และบริการอื่นๆ ในระดับเดียวกับการเข้าพักในโรงแรมชั้นเลิศ
เส้นแบ่งระหว่างการออกแบบประสบการณ์ของการอยู่อาศัยกับความรู้สึกของการพักผ่อนเมื่อเดินทางกำลังจางลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้อยู่อาศัยในเมืองที่มีวิถีชีวิตที่ตารางเวลาอัดแน่นไปด้วยการทำงานและกิจกรรมต่างๆ ทีมงานระดับโลกที่อยู่เบื้องหลังโครงการ Scope หลังสวนแห่งนี้ล้วนตระหนักดีว่า ทิศทางที่พวกเขาเลือกในการออกแบบนั้นล้วนเป็นไปเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้ว่า ประสบการณ์ที่พวกเขาจะได้รับจากการใช้เวลาอยู่อาศัยที่นี่นั้น จะเป็นประสบการณ์ที่แตกต่าง และมีความหมายอย่างแท้จริง
THE VISIONS | SCOPE LANGSUAN
เพื่อสร้างให้ SCOPE Langsuan เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในระดับสากล ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCOPE Co., Ltd. ร่วมงานกับสถาปนิกและสตูดิโอออกแบบภายในระดับโลกอย่าง Kohn Pedersen Fox (KPF) and the Thomas-Juul Hansen ในการออกแบบโครงการ
TEXT: JINTAWACH TASANAVITES
PHOTO: KETSIREE WONGWAN EXCEPT AS NOTED
(For English, press here)
ความหรูหราดูเหมือนจะเป็นเครื่องบอกถึงความสำเร็จและเป็นจุดมุ่งหมายของชีวิตของคนในทุกยุคสมัย แต่แท้จริงแล้ว ‘ความหรูหรา’ นั้นหมายความว่าอย่างไรกันแน่ หากมองอย่างผิวเผิน เราอาจพบว่าความหรูหรานั้นมีที่มาที่สืบเนื่องมาจากความเป็นวัตถุนิยม นับเป็นเวลากว่ายาวนานร่วมหลายศตวรรษของการออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยที่ความหรูหราปรากฏในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมูลค่า ความหายาก นวัตกรรม การแสดงออกถึงความมั่งคั่ง ไปกระทั่งความน้อยหรือความเรียบง่ายอย่างสุดขั้ว นิยามเหล่านี้แตกต่างกันไปตามยุคสมัย แต่ก็ล้วนเกี่ยวพันอยู่กับการได้เป็นเจ้าของสิ่งสวยงามราคาแพง อย่างไรก็ตาม นิยามของความหรูหราโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยได้ค่อยๆ เกิดความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน การแสดงออกถึงความมั่งคั่งด้วยสิ่งของราคาแพงเพียงอย่างเดียวอาจเป็นตัวแทนของความหรูหราที่ล้าสมัยไปเสียแล้ว มุมมองต่อความหรูหราในปัจจุบันได้ปลดเปลื้องตัวเองออกจากการให้ความสำคัญต่อวัตถุ ไปสู่แนวคิดอย่าง ‘luxury essentialism’ ที่หมายถึงการให้คุณค่ากับสิ่งที่ไม่ใช่วัตถุ แต่เป็นการเติมเต็มชีวิตด้วยสิ่งของที่มีความหมายและการใช้สอยที่ไม่ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงและมีความสุขเป็นสำคัญ อาจจะดูตื้นเขินเกินไปหากเราจะสรุปว่าความปรารถนาของมนุษย์ต่อวัตถุนั้นได้หมดลง หากแต่แนวคิดของผู้คนในยุคสมัยปัจจุบันที่มีต่อความสมดุล และการจัดลำดับความสำคัญในชีวิต กำลังมีการเปลี่ยนผ่านจากการมองหาความหรูหราผ่านรูปลักษณ์ภายนอกและป้ายราคา ไปสู้การห้อมล้อมตัวเองด้วยงานออกแบบและสิ่งของที่สร้างขึ้นอยางพิถีพิถัน ที่ตอบสนองต่อทุกแง่มุมของกิจกรรมและการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ แก่นแท้ดังกล่าวคือวิสัยทัศน์และความคิดเบื้องหลังการก่อร่างสร้างตัวของ SCOPE Langsuan
ท่ามกลางตลาดโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากในกรุงเทพฯ ที่มีผลิตภัณฑ์อันหลากหลายพร้อมตอบสนองความต้องการของทุกภาคส่วนทางเศรษฐกิจนั้น ช่องว่างในเรื่องของคุณภาพเป็นสิ่งที่ SCOPE Langsuan มุ่งหมายที่จะเป็นหนึ่งในโครงการแรกๆ ที่จะเข้ามาเติมเต็ม ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCOPE Co., Ltd. เจ้าของวิสัยทัศน์ที่เป็นแรงผลักดันสำคัญของ SCOPE Langsuan กล่าวว่า “เราตั้งใจสร้างโครงการนี้ขึ้นมาอย่างพิถีพิถันที่สุด บนนิยามของความหรูหราเฉพาะตัวที่เจ้าของบ้านจะได้อยู่อาศัย เราเชื่อว่านี่คือกลุ่มคนที่ให้ความใส่ใจกับพื้นที่อยู่อาศัยในฐานะสิ่งที่มีความหมายสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของชีวิต นอกเหนือไปจากแง่มุมอื่นๆ ที่พวกเขาให้ความสำคัญและต้องการลงทุนกับมัน พวกเขามีมุมมองที่กว้างไกล ได้เห็นโลกมาเยอะ และมีประสบการณ์ที่หลากหลาย เราคิดว่าเรากำลังสร้างโครงการนี้ให้กับกลุ่มเจ้าของบ้านที่เรานิยามว่า ‘The International Premium’ ผมเชื่อว่าสำหรับคนกลุ่มนี้แล้ว การใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตและเต็มไปด้วยรายละเอียดของความใส่ใจคือสิ่งพื้นฐานสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งของชีวิต” คำกล่าวที่ว่าโยงใยอย่างใกล้ชิดอยู่กับโลกในปัจจุบัน ที่การเข้าถึงข้อมูลปริมาณมหาศาลไม่รู้จบของผู้คนได้สร้างมาตรฐานของความ ‘เป็นสากล’ หรือความ international ขึ้นมาใหม่ พวกเขาไม่ได้เปรียบเทียบสิ่งที่พวกเขากำลังจะซื้อกับผลิตภัณฑ์ที่หาได้ภายในประเทศเท่านั้น แต่เป็นในระดับสากล และประสบการณ์จากการมองเห็นโลกก็สร้างการรับรู้ด้วยตัวเองต่อสิ่งที่พวกเขาจะลงทุนไปกับมัน ความหรูหราในที่นี้จึงหมายถึงการได้เป็นเจ้าของสิ่งที่มีมาตรฐานระดับสากล ที่คุณภาพ ความสมเหตุสมผล การใช้งาน ความสะดวกสบาย และประสบการณ์เชิงสุนทรียะอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล และสามารถที่จะเติมเต็มความต้องการด้านการใช้สอยและอารมณ์ความรู้สึกของเจ้าของบ้านได้อย่างครอบคลุม
แน่นอนว่าเมื่อเป็นเรื่องของที่อยู่อาศัย ทำเลยังคงเป็นและจะยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดปัจจัยหนึ่งเสมอ และหลังสวนก็เป็นพื้นที่ในอุดมคติที่จะผลักดันให้วิสัยทัศน์นี้สมบูรณ์แบบ สถานะของหลังสวนในแง่ของความเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าสูงที่สุดไม่ได้เป็นเพียงเพราะมันตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่สามารถเข้าถึงกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพได้อย่างสะดวกสบายและง่ายดายเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะหลังสวนเป็นทำเลหายากที่ยังคงความเงียบสงบ แม้จะตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองชั้นในที่หนาแน่นและวุ่นวาย แต่ก็ยังคงสามารถหยิบยื่นสุขภาวะทางอารมณ์ให้ผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ SCOPE Langsuan นั้นตั้งอยู่บนที่ดิน freehold ที่ผู้ถือครองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อย่างสมบูรณ์ ซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติของอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่ต้องการและหาได้ยากยิ่งในพื้นที่แถบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทำเลที่ประตูหน้าบ้านตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 140 เมตรเท่านั้น
“ด้วยที่ดินที่มีทำเลที่มีความพิเศษและยอดเยี่ยมแปลงนี้ เราจึงต้องการที่จะสร้างอาคารที่มีความโดดเด่น ให้เป็นที่จดจำในระดับสากลอย่างแท้จริง” ยงยุทธกล่าว “การที่จะทำแบบนั้นได้ เราต้องมีทีมที่รวมเอาคนทำงานในระดับนานาชาติที่จะช่วยทำให้วิสัยทัศน์ของเราสมบูรณ์แบบ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเลือกที่จะทำงานกับ Kohn Pedersen Fox (KPF) และ Thomas-Juul Hansen” KPF รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านงานสถาปัตยกรรมของโครงการ และพวกเขาก็เป็นหนึ่งในบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยอมรับ และเป็นที่รู้จักกว้างขวางจากผลงานออกแบบโครงการที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมและกลายเป็นแลนด์มาร์คของเมืองมากมายในซีกโลกตะวันตก รวมไปถึงพื้นที่เมืองที่กำลังเติบโตของประเทศตะวันออกในช่วงเวลาไม่นานมานี้ โครงการนี้ยังเป็นการทำงานร่วมกับ Thomas Juul-Hansen นักออกแบบตกแต่งภายในชื่อดัง ที่เป็นที่รู้จักจากแนวทางการออกแบบที่ตอบสนองกับความหรูหราได้อย่างเรียบง่ายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากผลงานออกแบบในหลายประเทศทั่วโลก อาทิเช่น ผลงาน ONE57 ที่เป็นอพาร์ทเมนท์ที่มีสถิติราคาสูงที่สุดในนิวยอร์คนับถึงเดือนมกราคม 2562 ด้วยยอดการขายที่พักอาศัยอยู่ที่ราคา 3,140 ล้านบาท (100.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและทะเยอทะยานนี้ เมื่อรวมกับทีมงานนักออกแบบระดับโลก และแนวความคิดของความหรูหราเฉพาะตัว SCOPE Langsuan จึงเป็นโครงการที่พร้อมปักหมุดหมายสำคัญ ไม่ใช่เพียงโครงการที่อยู่อาศัยที่หรูหราอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ตั้งใจให้เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในระดับสากลอย่างแท้จริง